พูดอะไรไร้สาระ!
หลิงฮันจดจ้องไปยังกระดิ่งสีดำ หากเขาสามารถเอาชนะติงเหยาหลงได้ เขาจะกล่าวออกไปทำไมว่าจะมาล้างแค้นอีกในครั้งหน้า?
พลังของเขาในตอนนี้คือนิรันดร์หนึ่งนิพพานเท่านั้น ต่อให้พลังต่อสู้ของเขาจะเปรียบดั้งสัตว์ประหลาดขนาดไหน อย่างมากก็สามารถต่อกรกับนิรันดร์สามนิพพานได้อย่างฉิวเฉียด เทียบกับนิรันดร์สี่นิพพานแล้ว ความแตกต่างของพลังยังมีมากเกินไป
ติงเหยาหลงสั่นกระดิ่งปลดปล่อยหมอกสีดำออกมา พร้อมกับกล่าว “สิ่งนี้เรียกว่ากระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพราย! เมื่อหลายพันหลายหมื่นล้านปีก่อน บรรพบุรุษตระกูลติงได้สร้างมันขึ้นมาโดยใช้ดวงวิญญาณของผู้คนนับไม่ถ้วนเป็นเครื่องสังเวย”
“และเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงทัณฑ์สวรรค์พิโรธ ประมุขตระกูลแต่ละยุคสมัยจึงต้องค่อยๆพลัดเปลี่ยนกันหล่อหลอมจากรุ่นสู่รุ่น กว่าจะสร้างกระดิ่งชิ้นนี้ขึ้นมาได้อย่างเสร็จสมบูรณ์”
“หากไม่ใช่เพราะเจ้ามีศักยภาพน่าสะพรึงกลัวจนอาจจะกลายเป็นภัยคุกคามล่ะก็ ข้าคงไม่คิดจะเปิดเผยการมีอยู่ของกระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพราย”
หมอกสีดำพรั่งพรูทะลักออกมาอย่างสิ้นสุดจนกลายเป็นทะเลหมอก ภายในทะเลหมอก ร่างที่มีแต่กระดูกค่อยๆปรากฏออกมาทีละตัวทีละตัวพร้อมกับส่งเสียงคำราม
“สับขาวายุ!” สุนัขตัวดำรีบเผ่นหนีทันที “ข้าขอตัวก่อน ฮันน้อย หน้าที่ผดุงคุณธรรมข้าขอส่งต่อให้กับเจ้า!”
หลิงฮันพุ่งทะยานไปยืนเคียงข้างจักพรรดินี หากสถานการณ์เริ่มไม่ปลอดภัย พวกเขาทั้งสองจะหลบเข้าไปในหอคอยทมิฬทันที
“ฮึ่ม อย่าได้คิดว่าจะหนีจาก”กระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพรายพ้น!” ติงเหยาหลงกล่าวอย่างเย็นชา เขายอมแม้กระทั่งนำไพ่ลับก้นหีบออกมาใช้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องสังหารหลิงฮันให้ได้
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องอันน่าสยดสยอง โครงกระดูดนับไม่ถ้วนได้พุ่งทะยานบุกเข้าหาหลิงฮันและจักรพรรดินี โดยที่โครงกระดูกแต่ละตัวนั้นมีพลังต่อสู้เทียบเท่านิรันดร์สามนิพพาน!
แม้พลังของพวกมันจะอยู่ที่นิรันดร์สามนิพพาน แต่จำนวนของพวกมันมีเท่าใดกัน?
มากมายนับหมื่น!
เพราะงั้นจึงไม่ต้องกล่าวถึงหลิงฮันและจักรพรรดินีที่ยังเป็นเพียงนิรันดร์หนึ่งนิพพานเลย ต่อให้นิรันดร์สี่นิพพานพบเจอกับโครงกระดูกเหล่านี้ นิรันดร์สี่นิพพานที่ว่าก็คงทำได้เพียงหลบหนี
“แค่ภูติพรายอ่อนหัด อย่าได้คิดว่าจะมีคุณสมบัติมาอยู่ต่อหน้าข้า!” หลิงฮันคำรามพร้อมกับปลดปล่อยเพลิงเก้าสวรรค์
‘ครืนน’ คลื่นเปลวเพลิงระเบิดออกมาพร้อมกับโอบล้อมร่างของเขากับจักรพรรดินีเป็นวงกลม
วิธีการนี้ได้ผลเป็นอย่างมาก ร่างโครงกระดูกมากมายที่พุ่งทะยานเข้ามาไม่สามารถรอดพ้นทะลุผ่านเปลวเพลิงเข้ามาได้ และหากพวกมันคิดจะทำลายกำแพงเพลิงที่สร้างขึ้นจากเพลิงเก้าสวรรค์ ก็ไม่อาจทำได้ในระยะเวลาสั้นๆเช่นกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกตะลึงให้แก่ติงเหยาหลงไม่น้อย หากลองให้เขาถูกห้อมล้อมไปด้วยโครงกระดูกนับหมื่นจากกระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพรายดูบ้าง เกรงว่าสถานการณ์ของเขาคงไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนกับหลิงฮัน
สีหน้าของติงเหยาหลงเผยถึงความโหดเหี้ยมและกล่าว “ไม่ว่ายังไงวันนี้ข้าก็ต้องสังหารเจ้าให้ได้ ส่วนสตรีข้างกายเจ้า ข้าจะนำร่างของนางหล่อหลอมกลายเป็นซากศพที่งดงาม ซึ่งข้าเชื่อว่าต้องมีบุรุษมากมายต้องการเล่นสนุกกับศพของนางแน่”
ด้วยสถานะของเขา หากเป็นในเวลาปกติเขาคงไม่มัวเสียเวลาพูดพล่ามข่มขู่หลิงฮัน แต่ทว่า ใครใช้ให้หลิงฮันทำลายวิหารบรรพบุรุษของตระกูลติงถึงสองครั้งกัน? ความเกรี้ยวกราดในใจทำติงเหยาหลงอดไม่ได้ที่จะระบายออกมาเป็นคำพูด
ด้วยความเกรี้ยวกราดในตอนนี้ ต่อให้หลิงฮันถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้น ความโกรธของเขาก็ยังไม่จางหาย
“ติงเหยาหลง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้” จู่ๆสุนัขตัวดำก็กลับมา มันปรากฏตัวด้านหลังติงเหยาหลงและอ้าปากงับไปหนึ่งที
“อ้ากกกก” ติงเหยาหลงร้องโอดครวญ เขาคาดไม่ถึงว่าสุนัขตัวดำจะสามารถปรากฏตัวขึ้นโดยที่เขาไม่รู้สึกตัวได้ จึงไม่ได้ระวังตัวและถูกกัดเข้าเต็มๆ
ขนาดในตอนแรกที่สุนัขตัวดำยังไม่บรรลุเป็นนิรันดร์ มันก็ยังสามารถลอบกัดก้นของหานลู่ที่เป็นถึงนิรันดร์สี่นิพพานได้ ยิ่งตอนนี้มันบรรลุเป็นนิรันดร์แล้ว ต่อให้ติงเหยาหลงจะมีพลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่าหานลู่ ก็ไม่สามารถตั้งรับการลอบกัดของสุนัขตัวดำได้
ปากของสุนัขตัวดำกัดไปที่เอวของติงเหยาหลง จนอีกฝ่ายเผลอแอ่นบั้นท้ายขึ้นหน้า
“จงรับไป ทักษะลับ ‘นายท่านหมาเด็ดลูกท้อ!’ ” สุนขตัวดำคาดการณ์เอาไว้แล้ว เมื่อบั้นท้ายของติงเหยาหลงแอ่นขึ้น มันก็รีบอ้อมไปด้านหน้าและยกเท้าเตะทิ่มทะลวงอย่างรุนแรง
‘แคร่ก’ เสียงของไข่สองลูกแตกดังขึ้น
ต่อให้ติงเหยาหลงจะเป็นนิรันดร์สี่นิพพาน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดเมื่อถูกเตะไข่แตก
“อ้ากกกกกกก” ติงเหยาหลงร้องโอดครวญ ขาทั้งสองข้างของเขาหนีบเข้าหากัน พร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซีดขาว
“กระบวนท่าของนายท่านหมามีสามท่า… กระบวนท่าสุดท้าย ‘ระเบิดรูทวาร!’ ” สุนัขตัวดำวนกลับไปด้านหลังติงเหยาหลงอีกครั้ง และใช้อุ้งเท้าหน้าเสียบทะลวงเข้าใส่บั้นท้าย
“โอกกกก” ติงเหยาหลงร้องโอดครวญด้วยความรู้สึกทรมานที่เกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด
“แผนการลุล่วง ขอตัวก่อนล่ะ!” สุนัขตัวดำเผ่นหนีอีกครั้ง
หึ… คิดรึว่าคนอย่างมันจะใช้วิธีสู้กับศัตรูซึ่งๆหน้า?
ขาของติงเหยาหลงหนีบเข้าหากัน ในขณะที่ใช้มือข้างขึ้นจับบั้นท้ายเอาไว้ ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้หลิงฮันเผลอระเบิดเสียงหัวเราะออกมาโดยไม่อาจห้ามใจไหว จากที่เห็นทักษะลับสามกระบวนท่าที่สุนัขตัวดำใช้ในวันนี้ เกรงกว่าอนาคตภายภาคหน้าเขาจะต้องระวังตัวให้มากเสียแล้ว
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ติงเหยาหลงเผลอหยุดควบคุมกระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพราย เหล่าโครงกระดูกนับหมื่นที่ปรากฏออกมาสลายหายไปทันที
“ติงเหยาหลง!” เสียงคำรามดังขึ้น พร้อมกับร่างของประมุขตระกูลล้งได้ปรากฏตัวด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่นึกว่าตระกูลติงของเจ้าจะแอบสร้างอาวุธที่ชั่วร้ายเช่นนี้ขึ้นมา! ถึงว่าทำไมถึงมีเหตุการณ์ที่สมาชิกตระกูลล้งหายตัวไปอยู่เรื่อยมา ที่แท้ต้นเหตุก็คือเจ้านี่เอง!”
‘พรึบ’ ร่างอีกร่างหนึ่งปรากฏตัว ประมุขตระกูลต้วนเองก็มาเช่นกัน สายตาของเขาจ้องไปยังกระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพรายด้วยสีหน้ามืดมน
“ติงเหยาหลง ข้าต้องการคำอธิบาย!” เขากล่าวอย่างเรียบง่าย แต่น้ำเสียงกลับหนักอึ้ง
จู่ๆติงเหยาหลงก็ถูกนิรันดร์สี่นิพพานที่ทรงพลังอีกสองคนกดดันอย่างไม่คาดฝัน
ทั้งสองคนไม่ใช่นิรันดร์สี่นิพพานทั่วไปอย่างหานลู่แต่เป็นอัจฉริยะ ถ้าเป็นต่อสู้ตัวต่อตัวยังพอว่า แต่หากทั้งสองคนร่วมมือกัน ต่อให้เป็นเขาก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างเลี่ยงไม่ได้! แต่ถึงอย่างไรหากเกิดการปะทะขึ้นมาจริงๆ แม้เขาจะบาดเจ็บหนักแต่เขาก็มั่นใจว่าต้องสังหารใครสักคนในสองคนนี้ได้แน่นอน
ติงเหยาหลงเค้นเสียงและกล่าว “ข้าจะทำอะไรแล้วจะทำไม? ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้าหากยังไม่อยากตาย!”
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องสังหารหลิงฮันในวันนี้
ติงเหยาหลงคำรามออกไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ทั้งๆที่มือข้างหนึ่งจับก้นเอาไว้และขาทั้งสองข้างหนีบเข้าหากันอยู่
ถึงแม้ประมุขตระกูลต้วนและตระกูลล้งจะกำลังโมโหอยู่ แต่เมื่อได้เห็นสภาพของติงเหยาหลงในตอนนี้ ใบหน้าอันเหี่ยวย่นของพวกเขาก็กระตุกไปมาเพราะพยายามกั้นหัวเราะ
ติงเหยาหลงที่เห็นเช่นนั้นก็ระเบิดโทสะออกมาทันที นิรันดร์สี่นิพพานที่มีสถานะทัดเทียมกับเขาถึงสองคน กำลังหัวเราะเยาะเขาราวกับเป็นตัวตลก!
“พวกเจ้าจงตายกันไปให้หมด!” เขาคำรามพร้อมกับกระตุ้นใช้งานกระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพรายอีกครั้ง