หลิงฮันใช้โอกาสนี้ลงมือไล่ตามและสังหารติงซง
ด้วยความเร็วของแสงอัสนี ในระดับพลังเดียวกันใครจะหลบหนีเขาได้?
ทางด้านของเม่าไต๋นั้น หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่เขาก็ตัดสินใจลงมือ
ด้วยการที่ปรมาจารย์ระดับโลกียนิพพานมากมายร่วมมือกัน ตระกูลติงคงไม่อาจหลบหนีภัยพิบัติครั้งนี้พ้น
“ท่านประมุข!”
“บ้าที่สุด!”
เสียงของเหล่าสมาชิกตระกูลติงร้องโอดครวญเป็นเวลากว่าครึ่งวัน จนในที่สุดนอกจากติงเหยาหลงแล้ว ก็ไม่เหลือสมาชิกคนอื่นแม้แต่คนเดียว!
เพียงแต่หากติงเหยาหลงยังไม่ถูกกำจัด ไม่ช้าหรือเร็ว เขาก็ยังสามารถหวนกลับมาได้พร้อมกับกระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพรายอยู่ดี
เพราะเหตุนั้นแล้ว ติงเหยาหลงจึงต้องถูกกำจัด และกระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพรายต้องถูกทำลาย
ประมุขตระกูลต้วนและประมุขตระกูลล้งเร่งรีบโจมตียิ่งกว่าเดิม ในเมื่อเรื่องบานปลายมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่อาจหันกลับได้อีกต่อไป พวกเขาต้องสู้จนตัวตายเพื่อสังหารติงเหยาหลงให้ได้
“สองจิ้งจอกเฒ่า พวกเจ้าช่างรนหาที่ตาย!” ติงเหยาหลงกล่าวพร้อมกับดวงตาส่องประกายโหดเหี้ยม
“หลังจากวันนี้ ข้าจะนำกระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพรายไปถล่มตระกูลของพวกเจ้า เพื่อให้พวกเจ้าได้รับรู้ว่าการที่ตระกูลถูกทำลาย มันรู้สึกอย่างไร!”
“อย่าได้เพ้อฝัน!” หลิงฮันโคจรทักษะกายาแสงตะวันทองคำไร้เทียมทาน แขนทั้งหกของเขาปลดปล่อยทักษะระดับนิรันดร์พร้อมกัน จนทำให้พลังต่อสู้ทรงพลังขึ้นหลายสิบเท่า
พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้เทียบเท่ากับนิรันดร์สี่นิพพานขั้นต้นโดยประมาณ ถึงแม้จะไม่ถึงระดับสี่นิพพานขั้นสูงสุด แต่เขาก็ยังสามารถต่อกรรับมือกับติงเหยาหลิงได้ด้วยกายหยาบอันไร้เทียมทาน
พอมีหลิงฮันร่วมลงมือด้วย แรงกดดันที่ประมุขตระกูลล้งและประมุขตระกูลต้วนได้รับก็ลดลง
เมื่อใดที่ติงเหยาหลงใช้ทักษะโจมตีที่ทรงพลัง หลิงฮันจะเป็นคนรับการโจมตีเหล่านั้นเอาไว้ ซึ่งเปิดโอกาสให้ประมุขทั้งสองสามารถโจมตีได้สะดวกยิ่งขึ้น
ติงเหยาหลงตกอยู่ในสถานการณ์ที่แทบจะสิ้นหวัง
เขาถูกรุมจู่โจมโดยนิรันดร์ระดับเดียวกันถึงสองคน ส่วนหลิงฮันนั้นถึงแม้พลังต่อสู้จะด้อยกว่าเขาอยู่เล็กน้อย แต่พลังต่อสู้ที่เทียบเท่านิรันดร์สี่นิพพานขั้นต้นของอีกฝ่าย ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเมินเฉยได้! ก่อนหน้านี้เขายังพอรับมือกับประมุขทั้งสองคนอยู่ได้บ้าง แต่ทันทีที่หลิงฮันเข้าร่วมการต่อสู้ เขาก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างสมบูรณ์
เหตุใดพลังป้องกันของเจ้าหนูนี่ถึงได้น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้?
“อ้ากกกก!” ติงเหยาหลงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด เขารู้สึกไม่ยินยอมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่ในตอนนี้ตระกูลติงจะเหลืออยู่เพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น แต่แค่จะหลบหนีเขาก็ยังไม่อาจทำได้
“ในชีวิตหน้าเจ้าจงเลิกทำความชั่วซะ!” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชา พร้อมกับกระหน่ำโจมตีไม่ยั้งด้วยทักษะกาลเวลาแปรผันพันปี เพื่อทำลายอำนาจห้วงเวลาที่อยู่รอบตัวติงเหยาลง หากเขาไม่ทำเช่นนี้ ด้วยการที่มีอำนาจห้วงเวลาเป็นเกราะคุ้มกัน ประมุขตระกูลต้วนและตระกูลล้งคงไม่อาจจัดการติงเหยาหลงได้
“แต่ชีวิตนี้เจ้าเองทำชั่วไปมาก เจ้าคงไม่มีโอกาสได้กลับตัวกลับใจในชีวิตหน้าเสียล่ะมั้ง?”
“เจ้าหนู ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะลากเจ้าไปกับข้าด้วย!” ติงเหยาหลงจ้องมองไปยังหลิงฮันด้วยดวงตาแดงฉาน
หลิงฮันแสยะยิ้ม ต่อให้เขาไม่พึ่งพาคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ติงเหยาหลงก็ยังต้องใช้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงเวลา ในการหล่อหลอมกายหยาบของเขาอยู่นานพอสมควรกว่าจะสร้างบาดแผลให้เขาได้
นอกจากนี้เขาก็ยังมีหยดวารีนิรันดร์ที่สามารถฟื้นฟูบาดแผลได้ในพริบตา และยังสามารถเกิดใหม่ได้ด้วยกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านอีก
ด้วยความสามารถเหล่านี้ เจ้าคิดรึว่าจะสังหารข้าได้?
“เฒ่ามาร วันนี้เจ้าต้องตาย!” หลิงฮันเข้าปะทะกับติงเหยาหลง ถึงแม้หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่าอยู่ครู่หนึ่ง ร่างของเขาจะถูกซัดลอยกระเด็นออกมา แต่เขาก็ได้ใช้ทักษะแสงอัสนีพุ่งทะยานร่างกลับไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอย่างไม่หวาดหวั่น
ประมุขตระกูลล้งและประมุขตระกูลต้วนใช้โอกาสที่หลิงฮันสร้างให้นี้กระหน่ำโจมตีอย่างบ้าคลั่ง หากในสถานการณ์ที่พวกเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างสิ้นเชิงขนาดนี้แล้ว ยังไม่สามารถสังหารติงเหยาหลงได้ล่ะก็ พวกเขาขอเอาเต้าหู้มาฟาดหัวตัวเองให้ตายดีกว่า
บาดแผลที่ติงเหยาหลงได้รับเริ่มสาหัสขึ้นเรื่อยๆ
การที่ถูกรุมโดยปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งถึงสามคน ทำให้เขาไม่สามารถฉวยหาโอกาสหลบหนีได้ และต้องสู้จนตัวตายสถานเดียว
ประมุขตระกูลล้งและประมุขตระกูลต้วนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก หลังจากวันนี้ เมืองนี้จะไม่มีตระกูลติงอีกต่อไป!
“บัดซบ! ช่างน่ารังเกียจนัก!” ติงเหยาหลงสบถเสียงคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า หน้าอกของเขาถูกโจมตีจนทะลุเป็นรู และโลหิตจำนวนมากได้ไหลทะลักออกมาจากหัวใจ พลังชีวิตของเขาถูกเผาผลาญอย่างรวดเร็วจนแห้งเหือดในที่สุด พร้อมกับดวงตาที่เปิดกว้างค่อยๆปิดลงจนสนิท
หนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะแห่งยุค… นิรันดร์ระดับสี่นิพพาน… ได้จบชีวิตลงแล้ว
หลิงฮันปล่อยหมัดอีกครั้ง เพลิงเก้าสวรรค์ระเบิดพลังออกมาและเริ่มหลอมละลายกระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพราย
ภาพเงาของภูติพรายจำนวนมากปรากฏออกมาพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้อง พวกมันพยายามดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะค่อยๆอ่อนแรงลง
หลิงฮันนำดาบอสูรนิรันดร์ออกมา และสะบั้นดาบออกไปดูดกลืนแก่นโลหะที่ใช้สร้างกระดิ่ง
ประมุขตระกูลต้วนและประมุขตระกูลล้งมองดูอยู่สักพักก่อนจะถอนหายใจโล่งอก เมื่อเห็นว่ากระดิ่งหมอกทมิฬหมื่นภูติพรายหายไปแล้วอย่างสมบูรณ์
หลิงฮันพยักหน้าให้กับประมุขทั้งสองและหันหลังจากไป
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ เขาไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้นิรันดร์สี่นิพพานทั้งสองอีกต่อไป การต่อสู้ก่อนหน้านี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ให้แล้ว
หลิงฮันยังไม่ออกจากเมืองธุลีจันทราในทันที
ทรัพยากรของตระกูลติงเปรียบเสมือนเค้กก้อนใหญ่ หากตระกูลล้งและตระกูลต้วนคิดจะกินเค้กก้อนนี้โดยไม่แบ่งหลิงฮัน เพราะถูกความโลภเข้าครอบงำล่ะก็ พวกเขาคงไร้มโนธรรมเกินกว่าจะเป็นมนุษย์
ซึ่งก็เป็นไปตามคาด หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน ประมุขทั้งสองก็เป็นคนเดินทางมาหาหลิงฮันด้วยตัวเอง ทั้งสองเจรจากับหลิงฮันด้วยท่าทีสุภาพและส่งมอบอุปกรณ์มิติให้หลิงฮัน เมื่อตรวจสอบภายในอุปกรณ์มิติที่ได้รับมา หลิงฮันก็เผยรอยยิ้มอันพึงพอใจ