ธิดาโร๋วใช้แขนดันร่างเพื่อลุกขึ้น การเคลื่อนไหวของนางแม้จะเฉื่อยชาแต่ก็งดงามเป็นอย่างมาก
ฟู่เกาหยุนมองไปที่นางด้วยแววตาแข็งค้าง
หลิงฮันถอนหายใจในใจ เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฟู่เกาหยุนถึงยอมกระทั่งมอบสมุนไพรนิรันดร์ให้แก่นาง สตรีผู้นี้คือภัยพิบัติของเหล่าบุรุษอย่างแท้จริง คนที่จะต้านทานเสน่ห์อันยั่วยวนของนางได้คงมีเพียงไม่กี่คน
ธิดาโร๋วเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าเพื่อแสดงเสน่ห์ของเรือนร่างออกมาให้ถึงที่สุด แต่ทว่านางก็ต้องแสดงท่าทีประหลาดใจออกมาอย่างปิดไม่มิด เนื่องจากภาพที่นางเห็นคือฟู่เกาหยุนกำลังนั่งตาแข็งน้ำลายสอ แต่หลิงฮันกับมีท่าทีที่ไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย
หรือการที่จะทำให้บุรุษผู้นี้หลงไหล นางจำเป็นจะต้องโคจรทักษะยั่วยวนจริงๆ?
ในความเป็นจริงทักษะยั่วยวนนั้นมีไว้เพื่อใช้ในสถานการณ์เป็นตายเท่านั้น ทักษะที่ว่าจะทำให้บุรุษผู้เป็นศัตรูเกิดความรู้สึกหลงไหลชั่วครู่ ซึ่งนางจะใช้โอกาสในช่วงเวลานั้นลงมือปลิดชีพศัตรูได้อย่างง่ายดาย
มือของธิดาโร๋วสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่ตำราเก่าแก่เล่มหนึ่งจะปรากฏออกมาและถูกวางลงบนโต๊ะ ตำราเล่มนี้ได้รับความเสียหายยับเยินจากอายุขัยที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน
“นายน้อยฟู่ แล้วก็น้องสาวผู้นั้น พวกเจ้าช่วยออกไปก่อนได้หรือไม่?” ธิดาโร๋วกล่าวออกไป เพราะกลัวว่าทั้งสองคนจะแอบจดจำข้อมูลทักษะที่อยู่ภายในตำรา
ทางด้านของฟู่เกาหยุนนั้น เขารีบลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องไปโดยไม่ปริปากโต้แย้งสักคำ
แม้แต่สมุนไพรนิรันดร์เขาก็ยังมอบให้นางได้ กับแค่ทักษะเพียงทักษะเดียวทำไมเขาจะทำเพื่อนางไม่ได้?
จักรพรรดินีไม่สนใจ นางจดจ้องไปยังธิดาโร๋วด้วยแววตาหยิ่งทะนง ‘หึ… คิดจะออกคำสั่งกับข้ารึ?’
“น้องสาว!” ธิดาโร๋วถลึงตามองไปยังจักรพรรดินี แต่ทันใดนั้นแววตาของนางก็ต้องหรี่ลงด้วยความตะลึง
ช่างเป็นเรือนร่างที่สมบูรณ์อะไรอย่างนี้!
ยิ่งกว่านั้นถึงแม้ใบหน้าของอีกฝ่ายจะถูกผ้าคลุมปิดเอาไว้ แต่ก็ยังยากที่จะปกปิดกลิ่นอายอันสูงส่งและความสง่างามที่อยู่ภายในใต้ผ้าคลุม เพียงแค่จ้องมองไปยังจักรพรรดินี นางก็รู้สึกราวกับตนเองต้องการจะคุกเข่าศิโรราบ
ธิดาโร๋วตกตะลึงเป็นอย่างมาก อย่างที่รู้กันว่าตัวของนางนั้นเป็นสตรีแถมยังฝึกฝนทักษะสำหรับยั่วยวนฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย จิตใจของนางถูกขัดเกลาอย่างมั่นคง ซึ่งเป็นไปได้อย่างไรกันที่นางจะเกิดความคิดอยากคุกเข่าต่อหน้าจักรพรรดินี?
“น้องสาว เจ้ามีชื่อว่าอะไร?” นางเอ่ยถามและคิดในใจว่า หรือว่าสตรีผู้นี้ก็ฝึกฝนทักษะยั่วยวนประเภทหนึ่งเช่นกัน ถึงได้สามารถทำให้จิตใจของนางสั่นไหวได้?
จักรพรรดินียื่นมือออกมาเคาะเก้าอี้และกล่าว “เรียกข้าว่าพี่สาว!”
ธิดาโร๋วรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันใด ข้าคือศิษย์ของนิกายซู่หนู่และเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียว ในอนาคตข้าจะกลายเป็นถึงประมุขของขุมอำนาจสามดาวที่ยิ่งใหญ่ แต่เจ้ากลับจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าพี่สาวงั้นรึ?
“น้องสาว ดูเหมือนเจ้าจะมั่นใจตัวเองมากพอดูเลยนะ!” นางกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย
จักรพรรดินีกรอกตา ในเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะเรียกนางว่าพี่สาว นางก็ไม่สนใจจะพล่ามไร้สาระกับอีกฝ่ายอีกต่อไป
ธิดาโร๋วชะงักเล็กน้อย นางคิดจะกล่าวอะไรบางอย่างออกไปต่อ แต่ก็พบเห็นว่าหลิงฮันลงมืออ่านตำราเสียแล้ว นางจึงต้องฝืนตัวเองให้หยุดนิ่งเงียบเพื่อไม่เป็นการรบกวนหลิงฮัน
หลิงฮันกวาดสายตาอ่านตำราทักษะอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่สายตาของเขากวาดมองแผ่นกระดาษในตำรา คำอธิบายส่วนที่ไม่สมบูรณ์ก็ถูกทำให้สมบูรณ์ไปทีละส่วนอย่างรวดเร็ว
อักษรส่วนใหญ่ในคำอธิบายเป็นเพียงอักษรทั่วไป แต่ก็มีบางส่วนที่ถูกเขียนเอาไว้ด้วยตราประทับแห่งเต๋าที่ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้
ตราประทับแห่งเต๋าเหล่านั้นมีความสามารถในการต้านทานอำนาจของกาลเวลา เพราะไม่เช่นนั้น คำอธิบายทั้งหมดที่เขียนเอาไว้ในตำราคงเสื่อมสภาพไม่หลงเหลืออยู่แล้ว
หลิงฮันอ่านคำอธิบายทั้งหมดในตำราจบอย่างรวดเร็วก่อนจะปิดตานั่งนิ่ง ซึ่งในขณะนั้นทักษะทุกส่วนที่สมบูรณ์ก็ปรากฏขึ้นในห้วงจิตวิญญาณของเขา
หากในตอนนี้เขาแสร้งทำเป็นว่าฟื้นฟูทักษะไม่สำเร็จ ทักษะระดับราชานิรันดร์ก็จะเป็นของเขาเพียงคนเดียว
เพียงแต่ว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น แถมยิ่งกว่านั้นถึงแม้คนอื่นๆจะได้ทักษะนี้ไป พวกเขาก็สามารถใช้ทักษะควบคุมได้แค่เพลิงทั่วไปเท่านั้น ผิดกับเขาที่สามารถนำทักษะไปใช้ควบคุมเพลิงเก้าสวรรค์
หลังจากดึงเชิงอยู่เล็กน้อย หลิงฮันก็นำกระดาษกับพู่กันออกมาและเขียนคำอธิบายทักษะที่สมบูรณ์ลงไป
ในส่วนของอักษะทั่วไปนั้นหลิงฮันสามารถเขียนได้อย่างคล่องแคล่วไร้ปัญหา แต่เมื่อถึงส่วนที่ใช้ตราประทับแห่งเต๋าเป็นคำอธิบาย เขาที่ไม่สามารถเขียนตราประทับแห่งเต๋าได้จึงทำได้เพียงเขียนกำกับเอาไว้ว่า ตราประทับแห่งเต๋าส่วนนี้อยู่หน้าไหนของตำรา เขาใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ก็สามารถเขียนทักษะที่สมบูรณ์ลงบนกระดาษอย่างครบถ้วน
เสร็จแล้วรึ?
ธิดาโร๋วตกตะลึง นางเคยนำทักษะที่ไม่สมบูรณ์ทักษะนี้มอบให้อาจารย์ของนาง ซึ่งเป็นประมุขของนิกายซู่หนู่ดูเช่นกัน แต่หลังจากศึกษามานานหลายต่อหลายปี อาจารย์ของนางก็ยังไม่สามารถแก้ไขส่วนใดของทักษะได้เลย
จะบอกว่าเวลาผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งวัน หลิงฮันก็สามารถแก้ไขทักษะให้กลับมาสมบูรณ์ได้งั้นรึ? ช่างน่าอัศจรรย์! นี่เจ้าคงไม่ได้เขียนมั่วๆลงไปในกระดาษหรอกนะ?
ธิดาโร๋วหยิบแผ่นกระดาษขึ้นมาอ่านอย่างรวดเร็ว ยิ่งนางได้อ่านคำอธิบายที่อยู่ในกระดาษ ความตื่นเต้นในใจของนางยิ่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากนางมั่นใจว่านี่ต้องเป็นคำอธิบายทักษะที่สมบูรณ์แน่นอน!
หากจะให้นางสร้างทักษะระดับราชานิรันดร์ขึ้นมาสักทักษะคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าหากแค่ตรวจสอบความสมบูรณ์ของทักษะล่ะก็ นางมั่นใจอย่างน้อยเก้าในสิบส่วนว่าตนเองสามารถทำได้
อัจฉริยะ!
ไม่สิ… เพียงแค่คำว่าอัจฉริยะยังไม่เพียงพอ นางไม่รู้ว่าสรรหาคำพูดใดมาใช้เรียกหลิงฮัน
โชคดีที่ธิดาโร๋วรู้เพียงแค่ว่าทักษะที่นางถือครองอยู่เป็นทักษะที่ทรงพลัง แต่ไม่รู้ว่ามันคือทักษะระดับราชินิรันดร์ ไม่เช่นนั้น นางคงจะตกตะลึงยิ่งกว่านี้เสียอีก
“นายน้อยหลิง บุญคุณในครั้งนี้ข้าจะจดจำไว้” ธิดาโร๋วยิ้มอ่อนหวาน โดยที่นางไม่ได้รับรู้เลยว่าทักษะระดับราชานิรันดร์สมบูรณ์ที่นางได้รับไปนั้น ต่อให้ใช้สมุนไพรนิรันดร์จำนวนมากเป็นสิ่งตอบแทนก็ยังไม่เพียงพอ
“ไม่จำเป็นต้องจดจำบุณคุณ เจ้าแค่มอบร่างกายของเจ้าให้สามีข้าก็พอ” จู่ๆจักรพรรดินีก็เอ่ยขึ้นมา
สีหน้าของธิดาโร๋วเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ก็ยังหัวเราะและกล่าว “น้องสาวคนนี้ช่างชอบพูดจาตลกยิ่งนัก! ถ้าเกิดว่าข้ายอมเป็นคนรักของคุณชายหลิงจริงๆ น้องสาวจะไม่เป็นกังวลรึ?”
จักรพรรดินีกล่าวออกไปอย่างไม่คิดอะไร “ทักษะที่ถูกแก้ไขสมบูรณ์นั่นถือว่าเป็นของ
ขวัญสำหรับการหมั้นหมาย เอาล่ะ… เจ้าตามพวกข้ามาได้แล้ว!”
นี่เจ้าเอาจริงรึ!
สีหน้าของธิดาโร๋วเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง “น้องสาว ข้าว่าเลิกล้อเล่นกันดีกว่า”
จักรพรรดินียังคงยืนกราน “สามี จับนางเอาไว้!”