หลิงฮันถอนหายใจ จำนวนแร่โลหะกึ่งนิรันดร์ที่เขาจะได้รับจากการเดิมพันคือสิบกว่าก้อนเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากเลย
“เอาล่ะ ทีนี้เจ้าจะประลองหรือไม่?” เชียนจ้าวเถี้ยนกล่าวอย่างไร้ความอดทน สำหรับราชาแห่งยุคเช่นพวกเขาเวลาคือสิ่งมีค่า ที่จะปล่อยให้เสียเปล่าไม่ได้
“เห็นแก่ที่พวกเจ้าอุตส่าห์นำของขวัญมามอบให้ ข้าจะเล่นด้วยก็ได้” หลิงฮันทะยานร่างไปยังแผ่นกระดาน
ภายในลานประลอง ที่ด้านหน้าของเขาเชียนจ้าวหยวนยืนแน่นิ่งโดยพาดมือไว้ด้านหลัง
ที่ด้านนอก ผู้คนมากมายสามารถมองดูสถานการณ์ภายในแผ่นกระดานได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามามองใกล้ๆ
“สามกระบวนท่า” เชียนจ้าวหยวนกล่าวอย่างองอาจ
หลิงฮันเกาหัวและกล่าว “ถึงแม้ข้าจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังเป็นเพียงนิรันดร์สองนิพพาน การจะจัดการเจ้าภายในสามกระบวนท่านั้นเป็นเรื่องที่ยากเกินไป เจ้าช่วยเพิ่มจำนวนกระบวนท่าขึ้นไปอีกไม่ได้รึ?”
ฮึ่ม!
เชียนจ้าวหยวนถลึงตาไม่พอใจ คนที่จะถูกจัดการในสามกระบวนท่าคือเจ้าต่างหาก นี่เจ้าไม่เข้าใจสถานการณ์เลยรึไง?
เขาผลักฝ่ามือออกไปอย่างไม่พูดพล่าม ‘ปัง’ ฝ่ามืออันทรงพลังถูกปลดปล่อยเข้าใส่หลิงฮัน คลื่นสายลมกรรโชกถูกแปรเปลี่ยนกลายเป็นหนามอำนาจแห่งกฎเกณฑ์นับร้อย พลังทำลายของพวกมันรุนแรงราวกับท้องฟ้าจะถล่มลงมา
หลิงฮันไม่กล้าประมาท เขาเคยได้ยินมาว่าจอมยุทธระดับโลกียนิพพานสี่นิพพานจากขุมอำนาจที่ทรงพลังทั้งหลายนั้น ได้ขัดเกลาพลังบ่มเพาะมานานหลายล้านปี ทำให้พลังต่อสู้ของพวกเขาน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
เขากำหมัดทั้งสองและทำการโจมตีตอบโต้
‘ปัง ปัง ปัง’ การโจมตีของทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด ก่อนที่ร่างของหลิงฮันจะถูกทำให้ล่าถอยไปด้านหลัง ในการปะทะซึ่งๆหน้า เขายังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของนิรันดร์สี่นิพพานขั้นสูงสุดได้
แม้เชียนจ้าวหยวนจะไม่ได้ตัดผ่านนิพพานอย่างสมบูรณ์ แต่พลังต่อสู้ของเขาก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมากเพราะขัดเกลาพลังบ่มเพาะมาเป็นเวลานาน
“เจ้าเป็นนิรันดร์สองนิพพานจริงๆรึ?” เชียนจ้าวหยวนขมวดคิ้ว จากการโจมตีของหลิงฮันเมื่อครู่ เขาสามารถสัมผัสออร่าของหลิงฮันได้ว่าเป็นนิพพานสองนิพพานจริงๆ
แต่นิรันดร์สองนิพพานที่ไหนจะสามารถรับมือกับการโจมตีของนิรันดร์สี่นิพพานสูงสุดได้ โดยที่เสียเปรียบแค่เล็กน้อย?
นิรันดร์สี่นิพพานสมควรกำราบนิรันดร์สองนิพพานได้อย่างราบคาบ ต่อให้เป็นราชาแห่งยุคก็ไม่มีข้อยกเว้น!
หมอนี่เป็นสัตว์ประหลาด!
ด้านนอกแผ่นกระดาน ราชาแห่งยุคทุกคนต่างตกตะลึง
ในระดับพลังเดียวกันนั้น พลังต่อสู้ของพวกเขากล่าวได้ว่าไร้เทียมทาน แต่ใครบ้างจะสามารถสู้ข้ามระดับได้ถึงสองระดับ?
ในจังหวะนั้นเอง กลิ่นอันหอมหวนก็ลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ พร้อมกับร่างของสตรีงดงามผู้หนึ่งที่มาถึงอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง สตรีผู้นี้มีผมที่นุ่มสลวยราวกับเส้นไหม และมีผิวที่ขาวกระจ่างราวกับหิมะ ความงดงามของนางเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์เกินพรรณนา
“ธิดาโร๋ว!”
“ธิดาโร๋ว!”
ผู้คนทั้งหลายหันหน้าไปกล่าวทักทายสตรีงาม แววตาของพวกเขาแสดงออกถึงความหลงไหล
“พวกเจ้ากำลังดูอะไรอยู่รึ เหตุใดถึงได้คึกคักกันขนาดนี้?” ธิดาโร๋วเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์
ใครหลายคนรีบกล่าวอธิบายสถานการณ์ทันที ธิดาโร๋วทำท่าทางตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะมองดูแผ่นกระดานด้วยความสนใจ
นางรู้สึกสนใจในตัวหลิงฮันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากอีกฝ่ายจะสามารถแก้ไขทักษะโบราณให้สมบูรณ์ได้ภายในเวลาครึ่งวันแล้ว อีกฝ่ายยังไม่ได้ผลกระทบการเสน่ห์อันยั่วยวนของนางอีก
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางจึงจงใจปล่อยข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนออกไป เพราะรู้ว่าพวกเชียนจ้าวเถี้ยนจะต้องไปสร้างความลำบากให้แก่หลิงฮันแน่
คนที่มีจิตใจหนักแน่นและฉลาดเฉลียวเช่นนั้น ในด้านของพลังต่อสู้ล่ะจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
หลังจากการประลองดำเนินไปหลายกระบวนท่า ธิดาโร๋วก็เผยสีหน้าตกตะลึง
แข็งแกร่งมาก!
มีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับสองนิพพานแท้ๆ แต่กลับเกือบจะรับมือกับนิรันดร์สี่นิพพานขั้นสูงสุดได้อย่างสูสี อย่างที่รู้กันว่าเชียนจ้าวหยวนนั้นไม่ใช่นิรันดร์สี่นิพพานสูงสุดทั่วไป จากการที่เขาขัดเกลาพลังมานานหลายล้านปี ต่อให้เป็นในระดับเดียวกันเขาก็ไม่อ่อนแอไปกว่าราชาแห่งยุค
กล่าวคือ หลิงฮันในตอนนี้มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของนิรันดร์สี่นิพพานสูงสุดได้
ถึงแม้ทุกครั้งหลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่า หลิงฮันจะถูกทำให้ล่าถอยอย่างทุลักทุเล แต่เขาก็สามารถทรงตัวและพุ่งทะยานกลับมาโจมตีต่อได้อย่างรวดเร็ว ราวกับร่างกายของเขาถูกสร้างขึ้นจากแร่โลหะที่ไร้ความเจ็บปวด
ในโลกนี้มีสัตว์ประหลาดแบบนี้อยู่ได้อย่างไร?
“สนใจในตัวสามีของข้ารึ?” จักรพรรดินีที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยกล่าว ถึงแม้หลิงฮันจะกล่าวว่าไม่ต้องการหาภรรยาเพิ่มอีก แต่นางก็ยังตัดใจจากแก่นกำเนิดนิรันดร์ของธิดาโร๋วไม่ได้ หากบ่มเพาะพลังคู่กับสตรีผู้นี้ พลังบ่มเพาะของหลิงฮันจะทะยานสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ในสายตาของนาง สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อหลิงฮันจะต้องมาเป็นอันดับแรก
ธิดาโร๋วเค้นเสียงและไม่ตอบอะไร แม้จิตใจของนางจะหวั่นไหวเล็กน้อย แต่ก็อย่าได้คิดว่าเพียงเท่านี้จะทำให้นางยอมรับได้
“ฮึ่ม จอมยุทธต่ำต้อยเช่นนั้นคิดจะครอบครองธิดาโร๋วงั้นรึ?” เชียนจ้าวเถี้ยนแสยะยิ้ม “เป็นแค่คางคกริอาจอยากกินเนื้อห่านฟ้า!”
ตูม!
เสียงการโจมตีดึงขึ้นอย่างไม่มีใครตั้งตัว สิ่งที่ทุกคนเห็นคือฝ่ามืออันงดงามของใครบางคน ได้พุ่งกระแทกเข้าหาใบหน้าของเชียนจ้าวเถี้ยนอย่างรวดเร็ว
เชียนจ้าวเถี้ยนตกตะลึงและล่าถอยอย่างร้อนรนด้วยพลังเกือบทั้งหมด
ปัง!
ร่างของเขาถูกฝ่ามือกระแทกใส่และลอยกระเด็นไปชนกับดาดฟ้าเรือ
เรือรบลำนี้คืออุปกรณ์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะ โครงสร้างภายนอกของมันถูกสร้างขึ้นจากแร่โลหะกึ่งนิรันดร์หกดาว ที่สามารถต้านทานพลังโจมตีของนิรันดร์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะได้ เพราะงั้นร่างที่ลอยกระเด็นของเชียนจ้าวเถี้ยนจึงไม่อาจทำให้โครงสร้างของมันพังทลาย
เชียนจ้าวเถี้ยนรู้สึกมึนงงและมองเห็นดวงดาวลอยอยู่เหนือศีรษะ
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกตะลึงและจ้องมองไปยังจักรพรรดินี ราวกับเพิ่งสังเกตเห็นว่านางอยู่ที่นี่
ความเป็นจริงคือในตอนแรกความสนใจของทุกคนได้เพ่งเล็งไปยังหลิงฮัน ก่อนที่ต่อมาความสนใจของทุกคนจะเปลี่ยนไปยังธิดาโร๋ว จนถึงตอนนี้ไม่มีใครสังเกตเลยว่าจักรพรรดินีนั้นมีเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบและกลิ่นอายที่น่าเกรงขามขนาดไหน
ต่อให้ใบหน้าจะถูกปกปิดเอาไว้ แต่ทุกคนก็รู้สึกได้ว่าเสน่ห์ของจักรพรรดินีสามารถเทียบเคียงได้กับธิดาโร๋ว
น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!
เหนืออื่นใดคือสตรีผู้นี้แข็งแกร่งถึงขนาดที่ สามารถสยบเชียนจ้าวเถี้ยนได้อย่างง่ายดาย
แม้การโจมตีของนางจะเป็นการโจมตีทีเผลอ แต่เชียนจ้าวเถี้ยนก็ไม่ใช่นิรันดร์สามนิพพานทั่วไป แต่เป็นราชาในระดับเดียวกัน!
จะบอกว่าจักรพรรดรินีเป็นนิรันดร์สี่นิพพานรึ?
น่ากลัวว่าจะไม่ใช่แบบนั้น ออร่าที่สัมผัสได้จากนางคือนิรันดร์สองนิพพาน!
ณ เวลานี้เองสายตาของทุกคนได้จดจ้องไปยังจักรพรรดินี แม้แต่เสน่ห์อันน่าดึงดูดของธิดาโร๋วก็ลดลงไปกว่าครึ่งเมื่อจักรพรรดินีปรากฏตัว
จักรพรรดินีมองไปยังเชียนจ้าวเถี้ยน และกล่าวอย่างไม่แยแส “เจ้าคิดว่าตนเองมีคุณสมบัติอันใดมาดูหมิ่นสามีของข้า?”