เชียนจ้าวเถี้ยนรีบตั้งสติกลับมา เพียงแต่ว่าเมื่อเขามองไปยังจักรพรรดินี เขากลับไม่สามารถระเบิดความโกรธออกมาได้ และกล่าวออกไปอย่างกระอักกระอ่วน “แม่นาง หรือเจ้าจะบอกว่าที่ข้าพูดไปไม่ใช่ความจริง?”
‘พรึบ’ จักรพรรดินีทำการปล่อยฝ่ามือออกไปอีกครั้ง
แต่คราวนี้เชียนจ้าวเถี้ยนเตรียมรับมือไว้ก่อนแล้ว เพราะงั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องล่าถอยและสามารถตอบโต้ได้
‘ปัง ปัง ปัง’ การต่อสู้ของทั้งสองคนเกิดขึ้นที่ห้องโถงเรือ ซึ่งโชคดีที่โครงสร้างเรือรบนั้นแข็งแกร่งพอจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่อุปกรณ์อื่นๆอย่างโต๊ะ ถ้วยชา หรือภาพวาดต่างๆนั้น ถูกการโจมตีของทั้งสองคนบดขยี้กลายเป็นเศษผง
“หยุดมือ!” ผู้คนรอบข้างรีบโน้มน้ามให้หยุดการต่อสู้ แต่มีรึที่จักรพรรดินีจะฟังคน? นางยังคงกระหน่ำโจมตีไม่หยุดยั้ง
คนอื่นๆไม่มีทางเลือก นอกจากช่วยกันหยุดรั้งเชียนจ้าวเถี้ยน
‘ปัง ปัง ปัง ปัง’ จักรพรรดินีไม่สนใจใครทั้งนั้น นางผลักฝ่ามือเข้าใส่ใบหน้าของเชียนจ้าวเถี้ยนเจ็ดครั้งก่อนจะหยุดมือ
ช่างโหดเหี้ยม แต่ก็งดงาม!
ทุกคนจ้องมองจักรพรรดินีและธิดาโร๋วสลับกัน พวกเขาต่างรู้สึกว่าการจะเลือกสตรีคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เนื่องจากพวกนางมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
“ฮึ่ม! ช่างน่ารังเกียจนัก!” แขนและขาของเชียนจ้าวเถี้ยนในตอนนี้ถูกคนอื่นรั้งเอาไว้ ทำให้ไม่อาจลงมือตอบโต้ได้ ความรู้สึกคับแค้นที่อยู่ในใจของเขารุนแรงจนแทบจะกระอักโลหิตออกมา
เขาใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้
เมื่อครู่นี้เขาได้รับความอัปยศไปก็จริง แต่หลิงฮันก็ต้องได้รับความอัปยศจากเชียนจ้าวหยวนด้วยเช่นกัน แถมความอัปยศที่ได้รับอาจจะหนักหนายิ่งไปกว่าเขาด้วย!
ความเคียดแค้นในครั้งนี้ เขาจะขอไปเอาคืนที่หลิงฮัน
เสน่ห์ของจักรพรรดินีมีมากเกินไป แม้แต่เชียนจ้าวเถี้ยนที่ถูกนางทุบตีก็ยังล้มเลิกความคิดที่จะตอบโต้
ฝูงชนปล่อยตัวเชียนจ้าวเถี้ยน พวกเขากลับไปจ้องมองการประลองในแผ่นกระดานอีกครั้ง ก่อนที่สีหน้าจะเผยให้เห็นถึงความตกตะลึง
สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างมาก หลิงฮันในตอนนี้กำลังกวัดแกว่งดาบในมือเข้าปะทะกับเชียนจ้าวหยวนอย่างสูสี
เป็นไปได้อย่างไร!
แน่นอนว่าย่อมเป็นไปได้ หลังจากที่ดาบอสูรนิรันดร์ถูกยกระดับขึ้นมาเป็นอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สองดาว พลังต่อสู้ของมันก็เพิ่มขึ้นมาจนเทียบเท่าหลิงฮัน
เพียงแต่ว่าการพึ่งพาดาบอสูรนิรันดร์ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ชนะเชียนจ้าวหยวนได้อยู่ดี หลิงฮันทำการโคจรทักษะนิรันดร์มากมายด้วยแขนทั้งหกและกระหน่ำโจมตีใส่เชียนจ้าวหยวน
ถึงอย่างนั้นเชียนจ้าวหยวนก็ยังสามารถรับมือกับการโจมตีของหลิงฮันได้อย่างไม่วิตก การขัดเกลาพลังบ่มเพาะหลายหมื่นล้านปีของเขาไม่ได้มีไว้ประดับเพียงอย่างเดียว
ไม่ใช่ว่าหากใช้เพลิงเก้าสวรรค์หรือวารีพลังหยินเร้นลับ หลิงฮันจะสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างง่ายดายหรอกรึ?
พลังทั้งสองคือไพ่ลับพิเศษ ซึ่งหลิงฮันไม่คิดจะเผยมันออกมาง่ายๆ ไม่ว่าอย่างไรการต่อสู้ครั้งนี้ก็เป็นเพียงการประลอง หากเขาเผยความสามารถทั้งหมดออกไปให้คนอื่นๆด้านนอกรับรู้แล้วล่ะก็ ในอนาคตหากต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้น พวกเขาคงเตรียมตัวรับมือเอาไว้ก่อนได้แน่นอน
ราชาแห่งยุคคือตัวตนที่ไม่อาจประมาทได้!
‘ครืนนน’ ทันใดนั้นเอง จู่ๆด้านนอกตัวเรือก็เกิดเสียงเอะอะ ทุกคนในห้องโถงเรือมองหน้ากันและรีบวิ่งไปยังดาดฟ้าเรือเพื่อดูสถานการณ์
เหนือหัวของพวกเขา เรือรบขนาดมหึมาสองลำกำลังแล่นเข้ามา
เรือรบของขุมอำนาจต่างๆที่ว่าใหญ่แล้ว เมื่อเทียบกับเรือรบมหึมาสองลำนี้ เรือรบของพวกเขาเรียกได้ว่ามีขนาดเล็กจนเทียบไม่ติดไปเลย
“เรือรบระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้!”
“ขุมอำนาจสี่ดาว!”
เหล่าราชาแห่งยุคใบหน้าเปลี่ยนสีด้วยความตกตะลึง
จริงอยู่ว่าเมื่อเขตแดนลี้ลับเฉียนหลงเปิดออก ขุมอำนาจสี่ดาวหรือขุมอำนาจห้าดาวอย่างราชานิรันดร์จะส่งคนมาเข้าร่วม แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน ในช่วงไม่กี่ร้อยล้านปีที่ผ่านมานี้ ขุมอำนาจสี่ดาวหรือห้าดาวไม่เคยส่งใครมาเข้าร่วมเขตแดนลี้ลับเลยแม้แต่คนเดียว
ถึงแม้ขุมอำนาจสามดาวกับขุมอำนาจสี่ดาวจะมีสถานะแตกต่างกันเพียงหนึ่ง แต่ถ้าหากขุมอำนาจสี่ดาวต้องการกำจัดขุมอำนาจสามดาวล่ะก็ พวกเขาเพียงแค่ส่งตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้มาหนึ่งคน หรือส่งเรือรบระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้มาบุกโจมตี พวกเขาก็สามารถลบล้างขุมอำนาจสามดาวให้หายไปได้อย่างง่ายดาย
ถ้าเช่นนั้นเหตุใดขุมอำนาจสามดาวถึงไม่ซื้อเรือรบระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้?
เหตุผลแรกเป็นเพราะขุมอำนาจสามดาวไม่มีทรัพยากรเงินมากพอที่จะซื้อได้ และเหตุผลที่สอง คือต่อให้ขุมอำนาจระดับสามดาวสั่งสมทรัพยากรมาจากรุ่นสู่รุ่นจนมีความมั่งคั่งมากพอ แต่ตำหนักกองกำลังสงครามก็ไม่มีทางขายให้กับพวกเขาอยู่ดี เรือรบระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้นั้น ขุมอำนาจที่สามารถซื้อได้คือขุมอำนาจระดับสี่และห้าเท่านั้น
นี่คือกฎเหล็กการค้าของตำหนักกองกำลังสงคราม
“ไม่รู้ว่าขุมอำนาจใดกันแน่ที่มา?” ทุกคนแหงนมองขึ้นไปยังท้องฟ้า แต่เนื่องจากเรือรบได้ติดตั้งรูปแบบอาคมเอาไว้ หากพลังบ่มเพาะไม่สูงพอจะไม่สามารถมองทะลุผ่านเข้าไปด้านในได้
‘พรึบ พรึบ’ เมื่อเรือรบมหึมาหยุดจอด ร่างของบุรุษและสตรีก็ก้าวออกมา ทางด้านของบุรุษนั้น เขาคือชายหนุ่มสวมชุดขาวที่มีอัสนีบาตพัวพันอยู่รอบกาย ซึ่งสายฟ้าเหล่านั้นก็ไม่ใช่สายฟ้าธรรมดา แต่เป็นสายฟ้าสวรรค์!
เป็นไปได้อย่างไรที่สิ่งมีชีวิตทั่วไปจะมีสายฟ้าสวรรค์พัวพันอยู่รอบร่างกาย?
สายตาของจักรพรรดินีหรี่ลงทันที ชายหนุ่มผู้นี้มีแก่นกำเนิดนิรันดร์ กายหยาบกำเนิดอัสนีสวรรค์!
นางกวาดไปมองที่สตรีอีกคน ก่อนที่ดวงตาจะหรี่ลงอีกครั้ง
สตรีผู้นี้สวมชุดสีแดงน่าเกรงขาม ผมสีดำยาวของนางถักเป็นเปียขนาดใหญ่และมีใบหน้าที่งดงามไม่แพ้ธิดาโร๋ว แต่เนื่องจากว่านางไม่ได้บ่มเพาะทักษะยั่วยวน เมื่อเทียบกับธิดาโร๋ว เสน่ห์ของนางจึงถือว่าด้อยกว่า
แต่ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยังเป็นสตรีที่งดงามมากอยู่ดี
เหตุผลที่จักรพรรดินีหรี่ตามองไม่ใช่เพราะความงามของสตรีผู้นี้ แต่เป็นเพราะทั้งๆที่อีกฝ่ายยืนอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้กลับดูราวกับว่าอีกฝ่ายอยู่ห่างไกลจนไม่อาจเอื้อมถึง กลิ่นอายของสตรีผู้นี้เปรียบแล้วก็เหมือนกับบุปผาห้วงมิติ
แก่นกำเนิดนิรันดร์ห้วงมิติ!
ในหมู่แก่นกำเนิดนิรันดร์ หนึ่งในความสามารถที่พบเจอยากที่สุดคือพลังห้วงมิติ!