ลั่วจ่างเฟิงพุ่งทะยานร่างเข้ามาเพื่อหยุดการต่อสู้และกล่าว “แม่นางปิงอวิ๋นสงบสติอารมณ์เอาไว้ก่อน!” จากสถานการณ์ที่เห็น หลิงฮันนั้นมีกายหยาบที่ไร้เทียมทานเป็นอย่างมาก ต่อให้จื่อเหอปิงอวิ๋นใช้พลังทั้งหมด ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะกำราบหลิงฮัน
จื่อเหอปิงอวิ๋นเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก ดวงตาของนางปลดปล่อยจิตสังหารอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา แต่ก็ยอมถอนตัวกลับไปยังเรือรบตระกูลจื่อเหอที่อยู่เบื้องบน
ไม่ว่านางจะอยากสังหารหลิงฮันขนาดไหน นางก็รู้ตัวดีว่าด้วยพลังของนางในตอนนี้ไม่มีทางทำได้ แต่ถ้าหากไปร้องขอให้ตัวตนที่ทรงพลังภายในเรือลงมือแทนล่ะก็ นางก็จะไม่เหลือศักดิ์ศรีเช่นกัน
หากหลิงฮันเป็นนิรันดร์ระดับแบ่งแยกวิญญาณ ทางตระกูลจื่อเหอคงส่งปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งมาจัดการหลิงฮันแน่ แต่นี่นอกจากหลิงฮันกับจื่อเหอปิงอวิ๋นจะมีพลังบ่มเพาะระดับโลกียนิพพานเหมือนกันแล้ว จื่อเหอปิงอวิ๋นยังมีขั้นพลังที่สูงกว่าด้วย
จื่อเหอปิงอวิ๋นรู้ว่าทางตระกูลจะต้องส่งคนมาจับตาดูนางอยู่ลับๆแน่นอน คนที่ถูกส่งมานั้น นอกจากจะทำหน้าที่คุ้มครองชีวิตนางแล้ว ในขณะเดียวกันยังมีภารกิจอีกอย่างคือคอยสอดส่องพฤติกรรมของนาง หากนางทำตัวไม่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้สืบทอดเมื่อไหร่ เมื่อกลับตระกูลไป สถานะของนางจะถูกริบคืนทันที
เพราะงั้นแล้ว หากต้องการแก้แค้น นางก็ต้องทำด้วยตัวเอง
“เป็นก้นที่ขาวเนียนดีจริงๆ” จู่ๆเสียงหนึ่งก็เอ่ยออกความคิดเห็น ซึ่งเจ้าของเสียงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสุนัขตัวดำ
ร่างของมันยืนอยู่บนเรือรบโดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามันกลับมาตั้งแต่ตอนไหน
ทุกคนชะงักด้วยความกังวลทันที ถ้าหากจื่อเหอปิงอวิ๋นรู้ว่าสุนัขตัวดำอยู่ที่นี่ล่ะก็ นางอาจจะเสียสติจนถึงขั้นสั่งการให้เรือรบโจมตีลงมาเลยก็ได้ ด้วยพลังทำลายของเรือรบระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ ทุกคนที่อยู่เบื้องล่างจะถูกสังหารในพริบตา
สามัญสำนึกทั่วไปไม่อาจใช้กับสตรีที่กำลังโกรธได้
ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นที่หวาดกลัว แม้แต่ลั่วจ่างเฟิงก็ยังรีบกลับไปยังเรือของตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่จะจากไปเขาได้ทิ้งคำเชิญเอาไว้ให้ธิดาโร๋วกับจักรพรรดินีว่าพวกนางสามารถไปเที่ยวเล่นหาเขาได้ทุกเมื่อ
คนอื่นๆเริ่มจากไปทีละคน เนื่องจากพวกเขารู้สึกว่าที่นี่เปรียบเสมือนถังระเบิดที่สามารถปะทุได้ตลอดเวลา หากอยู่ต่อไปคงไม่ปลอดภัย
“ฮันน้อย เจ้านี่ช่างเชื้อไม่ทิ้งแถวนายท่านหมาจริงๆ ในขณะที่ต่อสู้กับสตรีงดงามเจ้ายังสามารถฉวยโอกาสกับนางได้ด้วย นายท่านหมาขอนับถือ!” สุนัขตัวดำเดินสี่ขาเข้ามาใกล้ โดยที่สมาชิกตระกูลฟู่ทุกคนต่างรีบเว้นระยะห่างกับมัน
สุนัขตัวดำตนนี้เป็นดาวภัยพิบัติอย่างแท้จริง ใครที่ใกล้ชิดกับมันล้วนแต่ต้องพบเจอกับโชคร้าย
ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้ว หลิงฮันแค่ถูกมันกวักมือทักทาย แต่สถานการณ์กลับบานปลายจนกลายไปมีความบาดหมางกับผู้สืบทอดของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์
สีหน้าของฟู่เกาหยุนกลายเป็นบูดบึ้ง
เหตุผลที่ตอนนี้สถานะผู้สืบทอดของเขาอยู่เหนือกว่าใครในหมู่ผู้สืบทอดทั้งสี่ เป็นเพราะการสนับสนุนของหลิงฮันที่มีปรมาจารย์นักปรุงยาสองคนอยู่เบื้องหลัง แต่ตอนนี้หลิงฮันได้ล่วงเกินผู้สืบทอดของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ไปแล้ว เพราะงั้นมีรึที่ฟู่เกาหยุนจะยังกล้าแสดงออกว่าเป็นสหายกับหลิงฮันอยู่อีก?
หากไม่ตัดขาดสัมพันธ์กับหลิงฮันให้ชัดเจน เกรงว่าประมุขตระกูลฟู่จะต้องตัดเขาออกจากตำแหน่งผู้สืบทอดแน่นอน
ต้นเหตุที่ทำลายช่วงเวลาอันเจิดจรัสของฟู่เกาหยุนจนพังพินาศ เกิดจากสุนัขตัวดำแค่ตัวเดียว!
ณ เวลานี้แม้แต่เฉิงจงและผู้ติดตามคนอื่นๆก็เริ่มคิดแล้วว่า หากฟู่เกาหยุนไม่ตัดขาดความสัมพันธ์กับหลิงฮัน พวกเขาจะเป็นฝ่ายขอตัดขาดกับฟู่เกาหยุนเอง
“น้องชายหลิง…” ฟู่เกาหยุนเอ่ยกล่าว
หลิงฮันส่ายมือราวกับเป็นสัญญาณว่าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทั้งนั้น “ข้าไม่ต้องการนำพี่ชายเกาหยุนมาลำบากกับข้าด้วย เพราะงั้นลาก่อน!” เขาไม่พูดพล่ามให้เสียเวลาและพาจักรพรรดินีกับสตรีนกอมตะลงจากเรือรบ
ฟู่เกาหยุนคือสหายคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีทางที่เขาจะยอมให้สหายติดร่างแหลำบากไปกับเขาด้วย
ฟู่เกาหยุนถอนหายใจ เขาจำเป็นต้องยึดสถานการณ์โดยรวมเป็นหลัก เพราะงั้นจึงทำได้เพียงรู้สึกเสียใจกับหลิงฮันในใจ และหวังว่าหลังจากได้รับวาสนาจากเขตแดนลี้ลับเฉียนหลงแล้ว หลิงฮันจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย
โชคดีที่เขามอบเกราะโลหิตมังกรให้หลิงฮันไปแล้ว
“ฮันน้อย รอนายท่านหมาด้วย!” สุนัขตัวดำส่งเสียงเห่าและไล่ตามหลิงฮันไปติดๆ
“เจ้าดำน้อย นี่เจ้าเป็นตัวภัยพิบัติกลับชาติมาเกิดหรืออย่างไร? เหตุใดทุกครั้งที่ข้าอยู่กับเจ้าถึงไม่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเลย?” หลิงฮันถอนหายใจ
“เจ้าพูดแบบนั้นได้อย่างไร?” สุนัขตัวดำทำสีหน้าไม่พอใจ “อย่าได้ใส่ร้ายนายท่านหมาผู้นี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะกัดก้นของเจ้าให้แย… พอพูดถึงก้นแล้ว ก้นของสาวน้อยคนนั้นก็ช่างขาวเนียนดีจริงๆ ความรู้สึกเมื่อได้สัมผัสคงจะวิเศษน่าดู”
จักรพรรดินีมองไปยังสุนัขตัวดำด้วยแววตาเย็นชา เป็นเพราะสุนัขโง่ตัวนี้หลิงฮันถึงได้หมดโอกาสไล่ตามกายหยาบเสน่ห์เก้าวัฏจักร ซึ่งมันทำให้นางไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก โชคดีที่เขตแดนลี้ลับเฉียนหลงใกล้จะเกิดแล้ว หลิงฮันจึงยังมีโอกาสพบเจอกับธิดาโร๋วอยู่อีก
หลิงฮัน จักรพรรดินีและสตรีนกอมตะหลบไปยังสถานที่ที่ไร้ผู้คน เพราะอย่างไรพวกเขาก็มีหอคอยทมิฬอยู่แล้ว
หลังจากเวลาผ่านไปหลายวัน เรือรบจำนวนหนึ่งก็เดินทางมาถึง หนึ่งในเรือรบเหล่านั้น หลิงฮันพบเห็นธงสัญลักษณ์ของนิกายอาญาสิ้นแสง ซึ่งเป่ยเสวียนหมิงจะต้องมาที่นี่ด้วยเป็นแน่
หลิงฮันลูบคางครุ่นคิด เนื่องจากเขาได้ทำการล่วงเกินจื่อเหอปิงอวิ๋น และตัดขาดความสัมพันธ์กับฟู่เกาหยุนไปแล้ว หลังจากที่เข้าสู่เขตแดนลี้ลับเฉียนหลง เขาคงจะต้องพบเจอการต่อสู้อันนองเลือดอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
แต่ไม่ว่าศัตรูจะเป็นผู้สืบทอดของขุมอำนาจใด เขาก็จะไม่ไว้หน้าและสังหารให้สิ้น!
อย่าคิดว่าเมื่อเขาไม่มีขุมอำนาจอยู่เบื้องแล้วจะสามารถรังแกกันได้ง่ายๆ
‘ครืนนน’ ในจังหวะนั้นเอง เสียงสั่นสะเทือนอันรุนแรงก็ดังก้องกังวานขึ้นมา หมอกอันหนาแน่นค่อยๆเคลื่อนไหวแยกจากกัน และเส้นทางก็ได้ปรากฏออกมา
เขตแดนลี้ลับเฉียนหลงเปิดแล้ว!