จักพรรดินีเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันใด
หนึ่งในสิ่งที่นางรับไม่ได้มากที่สุดคือการถูกตำหนิเรื่องหน้าตา
“ฮึ่ม!” นางเค้นเสียงอย่างน่ายำเกรง
“อะไรกัน ข้าก็ไม่ได้กินอะไรผิดสำแดง แต่เหตุใดจู่ๆถึงได้รู้สึกว่าสตรีผู้นั้นดูงดงาม!” คนแคระผู้หนึ่งอุทานออกมาด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
“ข้าเองก็คิดว่านางงดงามเหมือนกัน”
“พระเจ้า นี่ข้าต้องตกอยู่ในมนต์ดำบางอย่างแน่ๆ!”
คนแคระทั้งเจ็ดตกตะลึงในขณะที่หลิงฮันหัวเราะลั่น ความงดงามของจักรพรรดินีคือมนต์เสน่ห์ที่ไม่อาจต้านทานได้อย่างแท้จริง แม้จะเป็นจากมุมมองของสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์ก็ตาม เขาครุ่นคิดก่อนจะกล่าว “พวกเจ้าเป็นใครกัน? ข้าขอเป็นแขกไปเยี่ยมชมสถานที่ของพวกเจ้าได้หรือไม่?”
“พวกเราคือนักรบเผ่ากูลู!” หนึ่งในคนแคระกล่าวด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
หยกต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ถูกซ่อนเอาไว้ที่ไหนสักแห่งในภูเขาแห่งนี้ หากเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ที่นี่ล่ะก็ บางทีพวกเขาอาจจะมีเบาะแสอะไรบ้างก็ได้
หลิงฮันใช้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบ ถึงแม้กลุ่มคนแคระเหล่านี้จะมีพลังบ่มเพาะอยู่บ้าง แต่ก็เป็นแค่ระดับทลายมิติเท่านั้น
“เจ้าจะเป็นแขกของเราก็ได้ แต่อย่าได้คิดขโมยสมบัติของพวกเราเชียว!” หนึ่งในคนแคระเอ่ยกล่าว
“ใช่แล้ว มนุษย์ตัวยักษ์เช่นพวกเจ้านั้นมีนิสัยที่ต่ำช้าที่สุด จากคำบอกเล่าของบรรพบุรุษของพวกเรา มนุษย์อย่างพวกเจ้าเคยทำเรื่องชั่วร้ายมาแล้วมากมาย”
เหล่าคนแคระบ่นเกี่ยวกับนิสัยชั่วร้ายและละโมบของมนุษย์ออกมาไม่หยุด ราวกับเผ่ามนุษย์ไม่มีดีอะไรสักอย่าง
จักรพรรดินีเค้นเสียงกล่าวออกมาอย่างไม่ไว้หน้า “ยังไม่รีบนำทางไปอีกรึ!”
ทันทีที่ถูกนางตำหนิ คนแคระทั้งเจ็บก็หยุดบ่นและเดินนำทางไปอย่างเชื่อฟัง
หลิงฮันกลั้นหัวเราะไม่ไหวและเดินตามหลังจักรพรรดินี หลังจากเดินมาได้ราวๆครึ่งชั่วโมง ที่เบื้องหน้าของพวกเขาก็ปรากฏพื้นที่ราบอันกว้างใหญ่ที่มีหมู่บ้านตั้งอยู่ ภายในหมู่บ้านมีควันบางๆลอยออกมาอย่างเชื่องช้า
นี่คือที่อยู่ของชนเผ่ากูลู?
เมื่อเห็นว่าคนแคระทั้งเจ็ดนำพายักษ์สองตัวกลับมาด้วย คนแคระจำนวนมากก็รีบรุดหน้าออกมาจากหมู่บ้านและล้อมรอบหลิงฮันกับจักรพรรดินีเอาไว้ด้วยสีหน้าขยะแขยง
“ช่างน่าเกลียดอะไรอย่างนี้!”
“นี่น่ะรึเผ่าคนยักษ์ในตำนาน!”
“พระเจ้า ในโลกนี้มีสิ่งมีชีวิตที่อัปลักษณ์ขนาดนี้อยู่ได้อย่างไร!”
เหล่าคนแคระอุทาน เพียงแต่ว่าหลังจากจดจ้องไปได้ครู่หนึ่ง ดวงตาของพวกเขาก็เริ่มค่อยๆมองเห็นว่าจักรพรรดินีนั้นงดงาม
หลิงฮันกระแอมและกล่าว “พวกเราขอสำรวจรอบๆบริเวณนี้ได้รึเปล่า?”
“นางได้ แต่เจ้าไม่ได้!” เหล่าคนแคระชี้ไปยังจักรพรรดินีด้วยความสับสน
จักรพรรดิแสดงท่าทางภาคภูมิใจและพาหลิงฮันเดินเข้าสู่หมู่บ้านโดยไม่สนใจคำคัดค้าน ในขณะเดียวกัน พวกธิดาโร๋วและคนอื่นๆก็ปรากฏตัวตามมา พวกนางเองก็มีความคิดเหมือนกับหลิงฮันว่า ชนเผ่าพื้นเมืองน่าจะมีเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับวาสนาอันยิ่งใหญ่
“มนุษย์ยักษ์ พวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาติให้เข้ามาในหมู่บ้านอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกข้า!” เหล่าคนแคระหลายสิบคนรีบรุดหน้ามาขวางทางพวกธิดาโร๋ว พร้อมกับยกแท่งไม้ขึ้นมาชี้ใส่
เชียนจ้าวเถี้ยนเผยสีหน้าเหยียดหยาม ชนเผ่าพื้นเมืองเหล่านี้มีพลังบ่มเพาะต่ำต้อยเพียงระดับทลายมิติเท่านั้น แต่ยังกล้ามาขวางทางพวกเขางั้นรึ?
เขาก้าวเดินขึ้นหน้าและคำราม “แล้วถ้าข้าบุกเข้าไปล่ะ?”
‘พรึบ!’
คนแคระคนหนึ่งขวัญอ่อนเป็นอย่างมาก จู่ๆแท่งไม้ที่ถูกมือของเขากำเอาไว้แน่นก็ปลดปล่อยคลื่นแสงเข้าใส่เชียนจ้าวเถี้ยน
เชียนจ้าวเถี้ยนตกตะลึงในความเร็วของคลื่นแสงที่พุ่งเข้ามา เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็เป็นเพียงการโจมตีของจอมยุทธระดับทลายมิติเท่านั้น ต่อให้การโจมตีจะรวดเร็วเพียงใด แต่มันจะทำอะไรเขาได้?
‘ตูม’ คลื่นแสงกระแทกเข้าใส่หน้าอกเชียนจ้าวเถี้ยนเต็มก่อนจะทะลุผ่านแผ่นหลังไปอย่างง่ายดาย และเนื่องจากว่าคนแคระนั้นมีขนาดตัวที่เตี้ยอย่างมาก คลื่นแสงที่ถูกปล่อยออกไปจึงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่ได้กระจายไปหาคนอื่นๆต่อ
เชียนจ้าวเถี้ยนค่อยๆก้มลงมาดูและพบว่าร่างกายบริเวณส่วนหน้าอกของตนเองได้หายไปแล้ว เพียงแต่ว่าอำนาจจากคลื่นแสงยังไม่สิ้นสุดและมีควันสีดำลอยออกมาจากร่างกายของเขา
ใบหน้าของเชียนจ้าวเถี้ยนเปลี่ยนเป็นหวาดผวาและพยายามเอื้อมมือไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น แต่ในขณะที่เขากำลังยกมือขึ้นนั่นเอง ร่างของเขาก็ถูกกัดกร่อนอย่างรวดเร็วจนแปรสภาพกลายเป็นก้อนโคลนร่วงลงสู่พื้น
เชียนจ้าวเถี้ยนตายแล้ว!
นิรันดร์ระดับสามนิพพานสูงสุดที่ทรงพลังจากขุมอำนาจสามดาว ถูกสังหารโดยคลื่นแสงจากแท่งไม้ของจอมยุทธระดับทลายมิติ
ช่างน่าอัศจรรย์!
ธิดาโร๋วและคนอื่นใบหน้าเปลี่ยนสีและรีบล่าถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว เนื่องจากแท่งไม้ของเหล่าคนแคระยังคงชี้มายังพวกเขาอยู่!
ถึงแม้หลิงฮันจะไม่ได้หันหลังกลับมาดู แต่ภายในการสอดสองของสัมผัสสวรรค์ แน่นอนว่าเขาย่อมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นและใบหน้าก็เปลี่ยนสีไม่ต่างกัน
หากเป็นเขาจะสามารถรอดพ้นจากคลื่นแสงนั่นได้รึเปล่า?
หลิงฮันไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากคลื่นแสงจากแท่งไม้ไม่ใช่พลังโจมตีทั่วไป แต่เป็นการโจมตีด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่มีระดับสูงลิ่ว เพราะงั้นเพียงแค่ถูกคลื่นแสงจากแท่งไม้สัมผัสตัว ร่างกายของเชียนจ้าวเถี้ยนจึงแหลกสลายโดยไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย
“คลื่นแสงนั่นคือพลังส่วนหนึ่งของแก่นกำเนิดปฐพี” เสียงของหอคอยน้อยเอ่ยดังขึ้น “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ตัวเจ้าที่มีแก่นกำเนิดพลังถึงสองชนิดอยู่ในร่างกาย การโจมตีประเภทนั้นไม่สามารถสังหารเจ้าได้”
“ดูเหมือนหยกต้นกำเนิดวิถีสวรรค์จะอยู่แถวๆนี้ไม่ผิดแน่ เพราะอาวุธที่เหมือนแท่งไม้นั่นได้รับพลังทำลายมาจากหยก”
หลิงฮันเหงื่อตกก่อนจะกล่าว “ไม่ใช่เจ้าบอกว่าหากอยู่ใกล้ๆจะสัมผัสถึงตำแหน่งของหยกต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ได้ไม่ใช่รึไง?”
“แล้วข้าบอกไปแล้วรึไงว่าต้องอยู่ใกล้แค่ไหน?” หอคอยน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะปัดความรับผิดชอบ
หลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูดกับความหยิ่งทะนงของหอคอยน้อย
“หลู่สิบเจ็ด เจ้าสังหารมนุษย์ไปแล้ว!” เหล่าคนแคระอุทานเสียงดัง
“ข้าสังหารมนุษย์!” คนแคระที่เป็นการโจมตีส่งเสี่ยงโอดครวญ “ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ ข้าแค่วิตกกังวลจนเผลอมือลั่น!”
มุมปากของพวกธิดาโร๋วกระตุกไปมาเล็กน้อย พวกนางรู้สึกว่าความตายของเชียนจ้าวเถี้ยนช่างไร้ความยุติธรรมยิ่งนัก
ราชาแห่งยุคคนหนึ่งต้องมาตายเพราะจอมยุทธที่อ่อนแอมือลั่นเนี่ยนะ? เป็นเรื่องราวที่น่าขันอะไรอย่างนี้