ร่างนั้นคือหลิงฮัน!
สิ่งที่ทุกคนไม่สังเกตเห็นเลยคือ คลื่นแสงที่พุ่งเข้าใส่เขานั้นไม่ได้ทะลุร่างกับเหมือนกับตอนเชียนจ้าวเถี้ยน
หลิงฮันขดตัวลงพร้อมกับใช้มือกุมหน้าท้องด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ฮ่าๆๆๆ!” หลังจากชะงักตกตะลึงไปชั่วขณะ พวกเป่ยหยิ่วย้งก็หัวเราะลั่น
ธิดาโร๋วยังไม่ตาย นับว่าเป็นเรื่องดี!
“ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะลุ่มหลงในความรักจนถึงกับยอมสละชีวิตแบบนี้!” เถิงเซินกล่าว
“เจ้ามันสมควรตายไปนานแล้ว!” เป่ยหยิ่วย้งแสยะยิ้มอย่างโหดเหี้ยมและดวงตาส่องประกาย
เขาผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาในหัว คือจะเก็บซากศพของหลิงฮันเอาไว้และนำไปมอบให้กับจื่อเหอปิงอวิ๋นเพื่อสร้างความดีความชอบ
“คืนสมบัติของข้ามา!” ถานเว่ยที่ได้สติกลับคืนมาก็ยื่นมือไปคว้าท่อนไม้จากหลินฟาง เพียงแต่ว่าหลินฟางนั้นไม่ยินยอมและผลักร่างของเขาออกไปด้วยพลังต่อสู้ระดับสี่นิพพานที่เหนือกว่า
ธิดาโร๋วอ้าปากค้าง สายตาของนางจดจ้องไปยังแผ่นหลังของบุรุษเบื้องหน้าที่ใช้ร่างกายตนเองปกป้องนาง
ตั้งแต่นางมีชีวิตมา ไม่รู้ว่ามีบุรุษพูดจาประจบประแจง หรือให้คำมั่นสัญญากับนางมาแล้วกี่คนต่อกี่คนว่าจะปกป้องนางด้วยชีวิต แต่ในสถานการณ์ที่ชีวิตของนางตกอยู่ในวิกฤตจริงๆ บุรุษที่จะยืนหยัดเพื่อนางเหมือนคำมั่นที่ให้ไว้จะมีซักกี่คนเชียว?
เกรงว่าจนถึงตอนนี้ก็มีเพียงหลิงฮันแค่หลิงฮันเท่านั้น!
แถมบุรุษผู้นี้ก็ไม่เคยกล่าวประจบประแจงหรือให้คำสัญญาเลยสักครั้งว่าจะปกป้องนาง
ณ เวลานี้หัวใจของธิดาโร๋วได้ถูกหลอมละลายเป็นที่เรียบร้อย ดวงตาของนางเริ่มพร่ามัวเนื่องจากมีหยาดน้ำตาไหลออกมา
นางตกหลุมรักหลิงฮันแล้วรึ?
บางทีอาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหัวใจของนางในตอนนี้กำลังรู้สึกหวั่นไหวอย่างแท้จริง
“เจ้าคือคนของตระกูลหลิง เพราะงั้นสามีของข้าจึงต้องคุ้มครองเจ้าเป็นธรรมดา!” เสียงของจักรพรรดินีดังขึ้นจากด้านหลัง
ธิดาโร๋วหันกลับไปมองและพบว่าใบหน้าของจักรพรรดินีนั้น ประดับเอาไว้ด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีร่องรอยของความเศร้าโศกใดๆเลย
นะ… นี่เจ้าใจแข็งเกินไปรึเปล่า?
เจ้าสามารถยิ้มได้ในขณะที่บุรุษของตัวเองถูกสังหารเนี่ยนะ?
ระหว่างนั้นสีหน้าของเป่ยหยิ่วย้งก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ‘ฟุบ’ เขาทะยานร่างเข้ามายืนด้านหน้าหลิงฮันเพื่อหวังจะเก็บซากศพ
“เจ้าคนน่ารังเกียจ!” ธิดาโร๋วสบถและคิดจะลงมือโจมตีเป่ยหยิ่วย้ง แต่ก็ถูกจักรพรรดินีรั้งเอาไว้ก่อน
เป่ยหยิ่วย้งที่เห็นเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก สิ่งที่เขาคิดคือจักรพรรดินีคงจะตัดใจจากหลิงฮันไปแล้วเรียบร้อย เพราะต่อให้ยึดติดกับคนตายไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา
เขาเอื้อมมือขยับเข้าหาหลิงฮัน ซึ่งก็เป็นในตอนนี้เองที่ใบหน้าของเขาได้แสดงท่าทางหวาดผวาออกมา
หลิงฮันกำลังแสยะยิ้มมองมายังเขา!
ชักไม่ดีแล้ว!
เป่ยหยิ่วย้งรับรู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เพียงแต่ทุกอย่างก็สายไปแล้ว
‘โพล๊ะ’ หมัดของหลิงฮันเจาะทะลุหน้าอกของเป่ยหยิ่วย้ง พริบตาเดียวกันความเย็นยะเยือกอันไร้ที่สิ้นสุดก็ได้กัดกร่อนไปทั่วห้วงจิตวิญญาณของเป่ยหยิ่วย้ง ทำให้พลังชีวิตของเขาถูกแช่แข็งและหลับไหลไปชั่วนิจนิรันดร์
ราชาในระดับสี่นิพพานสูงสุดถูกสังหารในกระบวนท่าเดียว!
“เป็น… ไป… ได้… อย่…” เป่ยหยิ่วย้งมองไปที่ใบหน้าของหลิงฮันและยื่นมือออกไป ราวกับต้องการซักถามหาเหตุผล
หลิงฮันไม่ตอบโต้อะไร เขากัดฟันและหันไปกล่าวกับจักรพรรดินี “ภรรยาข้า เลิกพูดเรื่องนั้นเสียที รู้ไหมว่าข้าเจ็บจะตายแล้ว”
ภายในร่างกายของเขามีแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพีอยู่ถึงสองชนิด เพราะงั้นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ถึงแม้จะมีระดับสูงกว่า จึงไม่อาจบดขยี้หรือสังหารเขาได้ เพียงแต่ถึงแม้เขาจะไม่ตาย แต่ความเจ็บปวดที่ได้รับก็มากพอที่จะทำให้เขาตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปถึงครึ่งวัน
บรรยากาศโดยรอบกลายเป็นเงียบกริบ ร่างของทุกคนในตอนนี้แข็งค้างราวกับรูปปั้นหิน
สัตว์ประหลาด!
เจ้าต้องเป็นสัตว์ประหลาดแน่ๆ!
ไม่ว่าใครก็เห็นเหมือนกันว่าเชียนจ้าวเถี้ยนที่ถูกคลื่นแสงโจมตีใส่นั้น ร่างกายได้แหลกสลายหายไปภายในพริบตา แต่เจ้าที่โดนโจมตีใส่เต็มๆเหมือนกันกลับบอกแค่ว่ารู้สึกเจ็บงั้นรึ?
“จะ… เจ้าไม่เป็นอะไรได้อย่างไร?” ถานเว่ยถามด้วยสีหน้าโง่งม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกตะลึงให้แก่เขาเป็นอย่างมาก
หลิงฮันยักไหล่และกล่าว “อยากรู้งั้นรึ? เอาแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงออกมาสักหมื่นจินสิแล้วข้าจะบอก ไม่สิ… แต่สุดท้ายพวกเจ้าก็ต้องตาย ยังไงสมบัติของพวกเจ้าก็ต้องตกเป็นของข้าอยู่ดี”
ตั้งแต่ตอนแรกที่เข้าเขตแดนลี้ลับมา คนพวกนี้ก็มีแผนการคิดจะสังหารเขาเพื่อสร้างความดีความชอบกับจื่อเหอปิงอวิ๋น แต่ทว่าก่อนหน้านี้บังเอิญว่าพวกเขาได้พบเห็นเสียก่อนว่าเขามีกายหยาบที่ไร้เทียมทานขนาดไหน จึงได้หยุดแผนการไปชั่วคราวและเพิ่งกลับมาลงมืออีกครั่งในตอนนี้ เพราะงั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้เขาต้องไว้ชีวิตคนเหล่านี้
“พวกคนยักษ์ช่างชั่วร้าย! จัดการเลย!” เหล่าคนแคระเองก็ค่อยๆตั้งสติกลับมาได้ และเริ่มโจมตีอีกครั้ง
หลินฟางและคนอื่นๆรีบแยกย้ายกันหลบหลีกคลื่นแสง และเนื่องจากพวกเขาเองก็ถือครองท่อนไม้อยู่เหมือนกัน พวกเขาจึงสามารถโจมตีตอบโต้พวกคนแคระได้ ความเร็วของคลื่นแสงที่ถูกใช้ออกด้วยเงื้อมมือของนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก จนหลิงฮันไม่รู้ว่าการคลื่นแสงจะพุ่งไปที่ใครและช่วยป้องกันให้ไม่ทัน
“อ้ากก! ข้าโดนโจมตีแล้ว” คนแคระผู้หนึ่งร้องโอดครวญ แต่ร่างกลายก็ไม่ได้แหลกสลาย
พวกเจ้าก็เป็นสัตว์ประหลาดเหมือนกัน!
หลินฟางและคนอื่นๆที่เป็นราชาแห่งยุคหรืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ สามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าคนแคระเหล่านี้มีความสามารถในการต้านทานคลื่นแสงจากท้อนไม้ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ถึงแม้คลื่นแสงจะสามารถให้เขาพวกเขาบาดเจ็บได้ แต่ก็ไม่สามารถสังหารให้ตาย!
หลิงฮัน ธิดาโร๋วและจักรพรรดิรับท่อนไม้มาจากคนแคระและกระหน่ำโจมตีสวนพวกหลินฟาง
คลื่นแสงจากท่อนไม้พุ่งทะลวงยุ่งเหยิงไปทั่วบริเวณ
ถึงแม้แค่ใช้นิ้วจับท่อนไม้ก็สามารถปลดปล่อยคลื่นแสงได้เหมือนกัน แต่ความเร็วของคลื่นแสงเมื่อถูกใช้ออกด้วยพลังของพวกหลิงฮันทั้งสามคนนั้น ย่อมว่องไวกว่าความเร็วในการโจมตีของพวกคนแคระอย่างเทียบไม่ติด