สังหารหยานเทียนจ้าว
หยานเทียนจ้าวแสยะยิ้ม “หลิงฮัน สมบัติที่เจ้าครอบครองอยู่ ข้าจะกลับมาแย่งชิงพวกมันในอนาคต!”
“เจ้ายังมีอนาคตอยู่อีกรึ?” จิตสังหารของหลิงฮันปะทุออกมาและพุ่งเข้าใส่หยานเทียนจ้าว “วันนี้เจ้าจะต้องตาย!”
“ฮ่าๆ เจ้ากำลังพูดจาผายลม?” หยานเทียนจ้าวตอบโต้และอุทานด้วยความประหลาดใจ “เจ้าบรรลุระดับแก่นแท้จิตวิญญาณขั้นแปดแล้ว?” มันแสยะยิ้มอีกครั้ง ถึงอย่างไรหลิงฮันก็ยังด้อยกว่ามันที่เป็นระดับบุปผาผลิบานอยู่ดี
‘พรึบ พรึบ พรึบ’ ผู้คนที่เข้าไปยังเขตแดนลี้ลับเริ่มกลับออกมาทีละคน
พวกเขาจ้องมองมายังหลิงฮัน ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลเจียงตามหาเจ้าบ่าว พวกเขาทุกคนพ่ายแพ้ต่อหลิงฮันและหยานเทียนจ้าว แต่ตอนนี้พวกเขาทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบานแล้ว ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“หอคอยน้อย ขอพรศักดิ์สิทธิ์ให้ข้า!” หลิงฮันพูดในใจ ถึงแม้พรศักดิ์สิทธิ์จะได้ผลลัพธ์ดีที่สุดเมื่อตอนเขาบรรลุระดับแก่นแท้จิตวิญญาณขั้นเก้า แต่เขาจำเป็นใช้มันในตอนนี้เพื่อสังหารหยานเทียนจ้าวและทำให้บ่วงกรรมที่เขาสร้างขึ้นสิ้นสิ้นลง
‘ตูม’ กลิ่นอายของหลิงฮันทะยานขึ้นฟ้า พลังบ่มเพาะของเขากลายเป็นระดับบุปผาผลิบานขั้นแปดในทันที
‘หืม?’ สายตาทุกคู่ของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานตกไปอยู่ที่หลิงฮัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เป็นไปได้อย่างไรที่พลังบ่มเพาะของเขาจะเพิ่มขึ้นได้อย่างน่ากลัวขนาดนี้?
สีหน้าของหยานเทียนจ้าวเปลี่ยนเป็นจริงจังโดยสัญชาตญาณ พลังต่อสู้ของหลิงฮันนั้นน่าสะพรึงกลัวเกินไปซึ่งมันก็ได้ประจักด้วยตนเองแล้ว ก่อนหน้านี้ที่มันมีพลังบ่มเพาะสูงกว่าหลิงฮัน พวกเขาทั้งคู่สู้กันได้อย่างสูสี แต่ตอนนี้พลังบ่มเพาะของหลิงฮันสูงกว่ามันแล้วแถมยังไม่ใช่น้อยๆด้วย การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องสาหัสแน่ๆ
“ตาย!” หลิงฮันสะบั้นคมดาบ ‘ฟุบ’ ปราณดาบสิบเล่มพุ่งตรงออกไป
หยานเทียนจ้าวล่าถอยและรีดเค้นพลังป้องกันจนถึงขีดสุด
แต่หลิงฮันนั้นทรงพลังเกินไป เมื่อดาบกำเนิดมารถูกกวัดแกว่ง พลังที่น่ากลัวก็ปลดปล่อยออกมาเกิดเป็นประกายแสงล้อมรอบหยานเทียนจ้าวอย่างสมบูรณ์ ด้วยพลังบ่มเพาะที่ต่ำกว่ามันตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ฮ่าๆ เจ้าเพียงแค่ฝืนบังคับให้พลังบ่มเพาะกลายเป็นระดับบุปผาผลิบานเท่านั้น เจ้าไม่ใช่ระดับบุปผาผลิบานที่แท้จริง!” หยานเทียนจ้าวมองเห็นจุดอ่อนของหลิงฮันในทันที
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ระดับบุปผาผลิบานทรงพลัง? นั่นเพราะพวกเขาสามารถชักนำพลังวิญญาณของสวรรค์และปฐพีมาโอบล้อมตนเองและทำให้พลังโจมตีแข็งแกร่งขึ้นสิบเท่าหรืออาจจะร้อยเท่า! หลิงฮันเพียงแค่มีพลังบ่มเพาะระดับบุปผาผลิบานขั้นแปดเท่านั้น เขาไม่สามารถใช้งานพลังวิญญาณของสวรรค์และปฐพีได้
นี่คือจุดอ่อนของหลิงฮัน
แต่ถึงอย่างไรความต่างเพียงขั้นพลังเล็กๆของระดับบุปผาผลิบานก็ยังกว้างอยู่ดี ดังนั้นระดับบุปผาผลิบานขั้นแปดจึงเพียงพอที่จะทำให้เขามีอำนาจเหนือความการชักนำพลังวิญญาณของสวรรค์และปฐพีของหยานเทียนจ้าว
หยานเทียนจ้าวไม่หวั่นเกรง มันแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับหลิงฮัน ความเข้าใจในวิถียุทธของมันนั้นสูงส่งทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ถึงแม้จะเป็นมันก็ไม่กล้าที่จะปะทะกับความคมของดาบกำเนิดมารซึ่งๆหน้า ทำให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานคนอื่นอ้าปากค้าง พลังต่อสู้ของทั้งสองคนนี้จะต้องเกิดกว่าหกดาวแน่ๆ ซึ่งเหนือกว่าเหล่าจอมยุทธอาวุโสไปไกล
“หลิงฮัน เจ้าไม่สามารถสังหารข้า จงหยุดมือและเก็บรักษาชีวิตของเจ้าเอาไว้ซะ เมื่อเวลามาถึง ข้าจะเป็นคนตามหาเจ้าเอง!” หยานเทียนจ้าวหัวเราะลั่น
เวลาที่มันกล่าวก็คือตอนที่มันบรรลุระดับทะลายมิติได้แล้ว และมีคุณสมบัติที่จะบดขยี้มิติเพื่อกลายเป็นพระเจ้า
“เจ้าจะไม่มีวันนั้น ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าก็ต้องตาย!” หลิงฮันพูดอย่างเย็นชา เขารวบรวมพลังปราณและปลดปล่อยทักษะดาบลึกลับสามพันเล่มออกไปจนปรากฏประกายแสงแห่งดาบพันเล่ม
สีหน้าของหยานเทียนจ้าวเปลี่ยนเป็นมืดมน กระบวนท่านี้แข็งแกร่งเกินไปทำให้มันไม่กล้าป้องกันซึ่งๆหน้า มันรีบหันหลังและบินหนีทันที ตัวตนระดับบุปผาผลิบานนั้นสามารถเหาะเหินกลางอากาศได้ มันบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและพูด “หลิงฮัน รอข้าก่อนล่ะ!”
“ข้าไม่จำเป็นต้องรอ!” หลิงฮันเก็บดาบกำเนิดมารเข้าฝักและตั้งท่าใช้มันแทนคันศร ในมือที่ว่างเปล่าของหลิงฮันจู่ๆก็มีลูกศรปรากฏขึ้นจากอากาศที่ว่างเปล่า เขากระตุ้นใช้งานเนตรแห่งสัจธรรมเพื่อมองหาจุดอ่อนของหยานเทียนจ้าว
‘ฟุบ’ ลูกศรพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนไม่อาจมองทัน
“อ้ากก!” หยานเทียนจ้าวกรีดร้อง ซี่โครงของมันถูกลูกศรแทงทะลุ โลหิตสีเขียวสาดกระจายไปทั่ว บริเวณซี่โครงคือจุดอ่อนของมัน ทันทีที่ถูกลูกศรแทงทะลุปราณก่อเกิดในร่างของมันหลั่งไหลออกมาจนร่างของมันโซเซล่วงหล่นจากท้องฟ้า
หลิงฮันพุ่งเข้าใส่พร้อมกับกวัดแกว่งดาบในมือ เมื่อร่างของหยานเทียนจ้าวล่วงหล่นเขาก็ใช้ออกด้วยทักษะดาบลึกลับสามพันเล่ม
ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในแววตาของหยานเทียนจ้าว ในขณะนี้มันรู้สึกอย่างชัดเจนว่าความตายกำลังใกล้เข้ามา มันไม่อยากตาย มันครอบครองความทรงจำของพระเจ้าและมีโอกาศถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ที่จะกลายเป็นพระเจ้าได้ในอนาคต
แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้ว ประกายแสงแห่งดาบนับพันกำลังพุ่งเข้าใส่มัน นี่คือกระบวนท่าสังหารของหลิงฮัน จุดอ่อนของหยานเทียนจ้าวได้รับบาดเจ็บสาหัสแถมร่างก็ยังกำลังดิ่งลงสู่พื้น มันไม่สามารถหลบหลีกประกายแสงแห่งดาบนับพันได้
ภายใต้สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด มันสร้างตราประทับขึ้นที่ฝ่ามือและปลดปล่อยตาข่ายสีเขียวมากมายออกมาด้านหน้าเพื่อยับยั้งการโจมตีของหลิงฮันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ ประกายแสงแห่งดาบที่ราวกับห่าฝนฉีกกระชากตะข่ายสีเขียวจนขาดทันที ประกายแสงแห่งดาบที่เหลืออยู่อย่างน้อยห้าร้อยเล่มกระหน่ำเข้าใส่ร่างของหยานเทียนจ้าว กล้ามเนื้อของมันถูกฟันขาดจนกระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้าจนเหลือแต่กระดูก
บนหน้าผากของมันปรากฏรูกลวงที่ถูกประกายแสงแห่งดาบแทงจนทะลุ
ทุกคนส่ายหัว หยานเทียนจ้าวถูกบดขยี้จนใกล้ล่วงหล่นสู่ประตูแห่งความตายแล้ว ภายในไม่กี่ลมหายในนี้ชีวิตของมันคงดับสิ้น
หยานเทียนจ้าวจ้องมองไปยังหลิงฮัน ตอนนี้ลูกตาสองข้างของมันหลุดออกไปแล้วจนเหลือเพียงรูสีดำ มันยังไม่อยากจะเชื่อว่าการดูถูกหลิงฮันจะทำให้ชีวิตของมันดับสิ้นไปตลอดกาล
“ฮ่าๆๆๆ หลิงฮัน ตอนนี้ชีวิตของข้าจบสิ้นแล้ว แต่อย่าคิดว่าเจ้าจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข!” มันพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายคำรามออกมา “ชายผู้นี้ได้รับกุญแจของตระกูลเจียงและเปิดประสู่เข้าสู่พระราชวังราศีธนูที่เป็นขุมสมบัติของพระเจ้าเรียบร้อยแล้ว สมบัติที่ถูกซ่อนอยู่ในนั้นคือสิ่งที่แม้แต่จิตใจของพระเจ้ายังต้องหวั่นไหว! นอกจากนั้นเขายังมีสมบัติที่สามารถนำสิ่งมีชีวิต…”
‘ฉัวะ!’
ดาบของหลิงฮันถูกสะบั้นออกไปและจบชีวิตของหยานเทียนจ้าว
แต่ถึงอย่างนั้นเมล็ดก็ถูกหว่านไปแล้ว สายตาของหลิงฮันกวาดผ่านโดยรอบและมองเห็นผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความละโมภราวกับต้องการกลืนกินตัวเขา
‘ขุมสมบัติของพระเจ้า!’