การก้าวผ่านจากระดับแก่นแท้จิตวิญญาณไปยังระดับบุปผาผลิบานคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ภายในแก่นแท้จิตวิญญาณของจอมยุทธจะปรากฏบุปผาศักดิ์สิทธิ์ที่เบ่งบานซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทำให้ร่างกายก้าวข้ามห่วงโซ่มนุษย์
ทำไมระดับบุปผาผลิบานถึงสามารถควบคุมพลังวิญญาณของสวรรค์และปฐพีเพื่อเพิ่มพลังให้การโจมตีได้? นั่นเพราะพวกเขามี ‘บุปผาศักดิ์สิทธิ์’ ที่สามารถชักนำพลังวิญญาณของสวรรค์และปฐพี
แต่จอมยุทธจะสามารถสร้าง ‘บุปผาศักดิ์สิทธิ์’ ขึ้นมาได้อย่างไร?
พวกเขาต้องหว่านเมล็ดบุปผาศักดิ์สิทธิ์ลงบนแก่นแท้จิตวิญญาณในตันเถียนและรอให้มันเติบโตกลายเป็นบุปผาศักดิ์สิทธิ์ หลังจากสำเร็จขั้นตอนนี้แล้วเท่านั้นถึงจะเรียกได้ว่าเป็นระดับบุปผาผลิบานที่แท้จริง
แต่ขั้นตอนแรกนนั้นไม่ใช่เพียงแค่หว่านเมล็ด แต่ต้องเลือกชนิดของเมล็ดที่จะหว่าน
‘เมื่อหว่านเมล็ดแล้ว บุปผาศักดิ์สิทธิ์ของข้าก็จะเบ่งบานและพลังบ่มเพาะของข้าก็จะทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบาน ในชีวิตที่แล้ว ข้าหว่านเมล็ดธาตุไฟ เมื่อเมล็ดบุปผาศักดิ์สิทธิ์ของข้าเบ่งบาน มันทำให้ข้าชักนำพลังวิญญาณธาตุไฟของสวรรค์และปฐพีได้’
‘แต่มีคำกล่าวว่าจอมยุทธหนึ่งคนสามารถหว่านเมล็ดได้ถึงสามเมล็ด และสามบุปผาศักดิ์สิทธิ์ที่เบ่งบานแล้วจะถูกเรียกว่าราชาบุปผาศักดิ์สิทธิ์’
‘ข้าครอบครองรากฐานวิญญาณห้าธาตุ ทำไมถึงไม่ลองหว่านเมล็ดทั้งห้าชนิดดูเลยล่ะ?’
‘เมล็ดบุปผาศักดิ์สิทธิ์สามารถหว่านได้ตอนที่บรรลุระดับแก่นแท้จิตวิญญาณช่วงสูงสุดเท่านั้น ดังนั้นข้าต้องรีบตัดสินใจให้ดี’
‘…ไม่ต้องคิดมาแล้ว ข้าจะเดินไปยังวิถีไร้พ่าย ดังนั้นข้าจะหว่านเมล็ดทั้งห้าชนิด!’
สีหน้าของหลิงฮันเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยวและเริ่มรีดเค้นธาตุทั้งห้าจากดอกบัวหายนะห้าธาตุผสาน ด้วยเมล็ดที่เกิดจากรากฐานห้าธาตุนี้ บุปผาศักดิ์สิทธิ์ที่เบ่งบานแล้วก็จะมีห้าธาตุเช่นกัน
เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะสามารถชักนำธาตุทั้งห้าของสวรรค์และปฐพีมาผสานการโจมตีได้ ซึ่งพลังทำลายล้างของมันจะต้องฝืนสวรรค์อย่างแน่นอน
หลิงฮันเริ่มลงมือหว่านเมล็ดทั้งห้าธาตุ แต่เมล็ดทั้งห้าธาตุนั้นไม่อาจแยกออกจากกันในขณะที่เขามีแก่นแท้จิตวิญญาณสองดวง เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะตัดสินใจหว่านเมล็ดทั้งห้าธาตุลงไปยังแก่นแท้จิตวิญญาณดวงล่าง สำหรับอีกดวงหนึ่งนั้น… คงต้องเอาไว้คิดว่าจะทำอย่างไรกับมันทีหลัง
หลังจากฝังเมล็ดทั้งห้าธาตุลงไปยังแก่นแท้จิตวิญญาณแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องใช้เพื่อทำให้เมล็ดเติบโตคือพลังงานอันมหาศาลและความเข้าใจในศาสตร์แห่งวรยุทธ ทั้งสองสิ่งนี้เปรียบได้กับ ‘ปุ๋ย’ ที่ใช้เพาะเลี้ยงเมล็ดธาตุซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจขาดได้
หลิงฮันนำสมุนไพรและหยดวิญญาณออกมาเคี้ยวกินเพื่อใช้เป็นพลังงาน ส่วนความเข้าใจในศาสตร์แห่งวรยุทธนั้นเข้าไม่คาดเหลืออยู่แล้ว แม้ครั้งนี้จะเป็นการเพาะเลี้ยงเมล็ดธาตุถึงห้าธาตุ แต่จิตใจของเขาก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ความเข้าใจในศาสตร์แห่งวรยุทธที่เขามีสามารถช่วยเหลือเขาได้ไปจนถึงระดับสวรรค์
ความเร็วในการเติบโตของเมล็ดธาตุนั้นไม่แน่นอน… มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่ามี ‘ปุ๋ย’ ที่มากพอรึเปล่า บางทีก็อาจจะเติบโตเต็มที่ได้ภายในระยะเวลาสองวัน แต่ถ้ามีปุ๋ยไม่เพียงพอก็อาจจะใช้เวลาหลายปี หลายสิบปี หรืออาจจะร้อยปีเลยก็ได้
…เกินกว่าร้อยปีนั้นคงไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะอายุขัยที่มากกว่าร้อยปีนั้นมีเพียงจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานขึ้นไปเท่านั้น
ในขณะที่เมล็ดธาตุกำลังเติบโต พวกมันก็ถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายอักขระที่ส่องสว่างเจิดจ้า
ด้วยความเข้าใจในศาสตร์แห่งวรยุทธของหลิงฮันทำให้เม็ดธาตุเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยความพยายามเพียงหนึ่งวันเมล็ดธาตุก็เติบโตกลายเป็นลำต้นที่มีดอกไม้ตูมอยู่ด้านบนซึ่งดอกนั้นใกล้จะเบ่งบานกลายเป็นบุปผาศักดิ์สิทธิ์แล้ว
เมื่อใดที่บุปผาศักดิ์สิทธิ์บานออก หลิงฮันก็จะกลายเป็นระดับบุปผาผลิบานที่แท้จริง โดยที่ตอนนี้เขานับว่าเป็นเพียงระดับบุปผาผลิบานครึ่งก้าวเท่านั้น
หลิงฮันนั่งขัดสมาธิ นี่คือขั้นตอนที่ยุ่งยากที่สุดและจำเป็นต้องใช้พลังงานมหาศาล
กิน! กิน!
หลิงฮันยัดสมุนไพรเข้าปากอย่างมูมมามราวกับจะไม่มีวันพรุ่งนี้ เต๋าแห่งเพลิงในร่างของเขาเผาผลาญสมุนไพรให้เปลี่ยนเป็นพลังงานอย่างบ้าคลั่ง
‘บัดซบ ทำไมพลังงานมากขนาดนี้ยังไม่พออีก?’ หลิงฮันสาปแช่งในใจ เมื่อตอนที่เขาทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบานในชีวิตที่แล้ว เขาใช้พลังงานเพียงหนึ่งในร้อยส่วนของครั้งนี้เท่านั้น
ทางเลือกเดียวในตอนนี้คือกินอย่างต่อเนื่อง!
หลิงฮันกลายเป็นตัวตะกละเหมือนกับฮูหนิว หลิวอู๋ตงและคนอื่นๆมองมายังเขาด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง เจ้ากำลังทะลวงผ่านระดับหรือกำลังแปลงร่างเป็นอสูรที่หิวโหย? แม้แต่ฮูหนิวก็ยังแสดงอาการตกตะลึงและพูดพึมพำ “ดูเหมือนจะกินเยอะกว่าหนิวอีก สมกับเป็นหลิงฮันของหนิว!”
เขากินอย่างตะกละตะกลามเป็นเวลาสองวันสองคืนจนในที่สุดหลุมลึกอั้นไร้ก้นบึ้งของเขาก็รู้สึกอิ่ม ดอกไม้ห้าดอกเรียงตามธาตุสั่นไหวเล็กน้อยราวกับมันจะเบ่งบานได้ตลอดเวลา
บุปผาศักดิ์สิทธิ์กำลังเบ่งบานอย่างช้าๆ!
‘ปัง ปัง ปัง’ เสียงแห่งเต๋าก้องกังวานไปทั่วหอคอยทมิฬพร้อมกับหลิวอู๋ตงและคนอื่นๆที่เข้าสู่สภาวะรู้แจ้ง
การสังเกตการณ์ใครบางคนทะลวงระดับ โดยเฉพาะระดับบุปผาผลิบานแล้วนับว่าเป็นผลประโยชน์ครั้งใหญ่
แต่แน่นอนว่าคนที่ร่างกายกำลังเกิดการเปลี่ยนมากที่สุดคือหลิงฮัน บนแก่นแท้จิตวิญญาณดวงล่าง บุปผาศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุกำลังเบ่งบานทีละดอก
ดอกสีครามคือตัวแทนของธาตุไม้ ดอกสีแดงคือตัวแทนของธาตุไฟ ดอกสีขาวคือตัวแทนของธาตุทอง ดอกสีดำคือตัวแทนของธาตุน้ำ และดอกสีทองคือตัวแทนของธาตุดิน
ดอกไม้ทั้งห้าธาตุเบ่งบานออกมาพร้อมกันทั้งหมด
ระดับบุปผาผลิบานที่แท้จริง!