ขวดหยก
เมื่อหลิงฮันเดินออกมาจากประตูเมืองเขาก็เข้าไปในหอคอยทมิฬพร้อมกับฮูหนิวและเริ่มสอบปากคำน่าจือเหยียน
เขาอยากรู้เกี่ยวกับเผ่าใต้สมุทรให้มากกว่านี้
ภายในหอคอยทมิฬ น่าจือเหยียนไม่มีอำนาจที่จะต่อต้าน ไม่ว่าหลิงฮันจะถามอะไรมันก็ทำได้เพียงตอบตามจริงไม่กล้าปิดบัง
คนที่น่าจือเหยียนรับใช้อยู่คือเฉวียนคงหยุน ซึ่งตระกูลเฉวียนคือหนึ่งในตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดของมหาสมุทรทิศเหนือ เฉวียนคงหยุนคือสมาชิกที่สำคัญของตระกูลโดยที่พลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับก้าวสู่เทวา จากที่น่าจือเหยียนได้ยินมา เฉวียนคงหยุนผู้นี้เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูงมาก
ทำไมเฉวียนคงหยุนถึงไม่ส่งคนอื่นมาด้วย แต่กลับส่งน่าจือเหยียนมาเพียงคนเดียว?
นั่นเพราะเฉวียนคงหยุนไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ตัว แม้จะเป็นคนตระกูลเฉวียนเหมือนกัน แต่ถ้าหากมีสมบัติต้องสาปลึกลับเข้ามาเกี่ยวกับ เขาเองก็อยากจะได้มันมาครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
ดังนั้นหากมีแค่น่าจือเหยียนคนเดียว การลงมือปิดปากจึงทำได้ไม่ยาก
หลิงฮันสงสัยยิ่งขึ้นไปอีกว่าสมบัติแบบใดกันที่ทำให้ตัวตนระดับก้าวสู่เทวาเกิดความต้องการขนาดนั้น ถึงแม้มันจะเป็นสมบัติต้องสาปอย่างที่หอคอยทมิฬบอก แต่แล้วมันมีประโยชน์อย่างไรล่ะ?
ถ้าไม่ขุดมันขึ้นมาดูเองก็คงไม่รู้
โชคชะตาของหลิงฮันแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และด้วยการมีอยู่ของหอคอยทมิฬ เขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกสาป เขาสามารถสำรวจเหมืองได้อย่างอิสระ
นอกจากนั้นแล้วเขายังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ นั่นคือการพาคนเหมืองทุกคนเข้าไปยังหอคอยทมิฬเพื่อชำระล้างคำสาป
หลิงฮันเดินทางมาถึงเหมืองโบราณและพบว่าองครักษ์จักรพรรดิได้นำม้วนบัญชาของจักรพรรดิอัคคีมาแจ้งแล้ว เหมืองแห่งนี้จึงถูกปิดตัวลงทันที ทุกอย่างเป็นไปตามที่หลิงฮันคิดเอาไว้
หลิงฮันเรียกให้คนเหมืองทุกคนมารวมตัวกันจากนั้นก็ปลดปล่อยกลิ่นอายของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานใส่พวกเขาจนหมดสติและนำตัวเข้าไปยังหอคอยทมิฬ เมื่อชำระล้างคำสาปเสร็จเขาก็เดินทางออกจากเหมืองและโยนผู้คนเหล่านั้นออกไป ส่วนเรื่องที่ผู้คนเหล่านี้จะได้สติเมื่อใดนั้น เขาคร้านเกินไปที่จะมัวไปสนใจ
“นายน้อยฮัน ท่านไม่อาจเป็นศัตรูกับนายท่านคงหยุน!” น่าจือเหยียนอยากจะร้องไห้ออกมา “ข้าต้องคอยรายงานไปยังนายท่านคงหยุนทุกๆสิบวัน และพรุ่งนี้ก็คือวันที่ต้องรายงาน แค่ตอนนี้นายท่านคงหยุนก็ไม่พอใจในความคืบหน้าในตอนนี้อยู่แล้ว ถ้าหากการขุดเหมืองค้นหาสมบัติล่าช้าไปกว่านี้ล่ะก็ นายท่านคงหยุนอาจจะมาที่นี่ด้วยตนเอง! และโศกนาฏกรรมครั้งจะต้องเกิดขึ้น!”
ระดับก้าวสู่เทวาสามารถสังหารระดับตัวอ่อนวิญญาณได้เพียงแค่นึกคิด แม้จะเป็นความสามารถราวกับสัตว์ประหลาดของหลิงฮันก็ไม่อาจต่อกร
“เร็วขนาดเชียว?” หลิงฮันขมวดคิ้ว หลายวันมานี้แรงกดดันจากกลิ่นอายของซากศพพระเจ้าได้ลดลงไปมาก คิดว่ามันคงสามารถสร้างแรงกดดันได้แค่กับจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน ซึ่งไร้ประโยชน์สำหรับหลิงฮันในตอนนี้แล้ว
กับจอมยุทธระดับบุปาผลิบานด้วยกัน เขาจำเป็นต้องใช้อะไรช่วยด้วยรึ?
“นายน้อยฮัน เพื่อชีวิตของพวกเราแล้ว ท่านไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปได้!” น่าจือเหยียนพยายามชักนำ จากการคาดเดาของมัน แม้แต่ตัวตนระดับก้าวสู่เทวาอย่างเฉวียนคงหยุนยังให้ความสำคัญขนาดนั้น ขวดหยกต้องสาปต้องเป็นสมบัติระดับสูงแน่นอน
นั่นเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไป แม้แต่ตระกูลจักรพรรดิของเผ่าใต้ทะเลก็อาจจะเคลื่อนไหว
หลิงฮันส่ายหัว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดที่จะขุดเหมืองแห่งนี้ แต่ภัยคุกคามของตัวตนระดับก้าวสู่เทวาก็ไม่อาจมองข้ามได้เช่นกัน ถ้าเขาได้รับสมบัติต้องสาปนั่นมา ตัวตนระดับก้าวสู่เทวาคนนั้นจะต้องไล่ตามเขาแน่นอน
แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องไปภูมิภาคกลางอยู่แล้ว และแต่ละเขตแดนมีกำแพงที่กั้นระหว่างภูมิภาคอยู่ ถ้าหากตัวตนระดับก้าวสู่เทวาบุกรุกเข้ามาพลังของเขาก็จะถูกบั่นทอนลงไป และสำหรับภูมิภาคกลาง ตัวตนระดับก้าวสู่เทวาไม่ได้เรียกว่าเป็นระดับพลังที่แข็งแกร่งอะไรมาก
ใช่แล้ว… หลิงฮันจะต้องค้นหาอาวุธต้องสาปอย่างเร่งด่วน
หลิงฮันกลับเข้าไปยังเหมืองโบราณและเริ่มลงมือสำรวจพร้อมกับฮูหนิว
เหมืองโบราณเป็นสถานที่ที่พิเศษที่อบอวลไปด้วยปราณคำสาป มันปิดกั้นการรับรู้ของสัมผัสสวรรค์ทำให้หลิงฮันไม่สามารถใช้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบได้ไกลนัก แต่เมื่อรู้ว่าขวดหยกต้องสาปคือต้นกำเนิดของปราณคำสาปเหล่านี้ สิ่งที่หลิงฮันต้องทำคือการค้นหาตำแหน่งที่มีปราณคำสาปหนาแน่นที่สุดและขุดลงไป
หากพูดถึงเรื่องการขุด แน่นอนว่าเขาทำได้เร็วยิ่งกว่าคนเหมืองหมื่นคนเสียอีก
อะไรคือพลังอำนาจของของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน? ถ้าเกิดมีหินหรือดินที่ขวางหน้า แค่ระเบิดมันทิ้งไปก็เรียบร้อยแล้ว แม้เศษที่ดินเกิดขึ้นจากการขุดจะไม่สามารถนำออกไปข้างนอกได้เพราะมันอันตราย แต่เขาก็สามารถโยนพวกมันเข้าไปในหอคอยทมิฬได้
ผ่านไปเพียงครึ่งวันกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากใต้ดินก็ยิ่งรุนแรงขึ้น เพียงแค่สัมผัสก็อาจจะทำให้ผิวหนังแตกและมีโลหิตไหลออกมา แถมยังมีจิตใจบางอย่างรุกล้ำเข้ามาในจิตใจและสังหารให้สังหารทุกสิ่ง
ด้วยอำนาจคำสาปที่รุนแรงเช่นนี้ ขุดไปได้เพียงสักพักหลิงฮันกับฮูหนิวก็รู้สึกถึงแรงกดดันและรีบเข้าไปยังหอคอยทมิฬ
“นี่ไม่ใช่พลังของคำสาป แต่เป็นไปได้ว่ามันคืออำนาจแห่งความตายที่รุนแรง ดูเหมือนว่าใต้ดินของเหมืองแห่งนี้จะได้รับผลกระทบจากมันมาเป็นเวลานานแล้ว” หอคอยน้อยพูด
หลิงฮันขมวดคิ้วและพูด “เจ้าหมายความว่าใต้เหมืองนี้ไม่ได้มีแค่สมบัติต้องสาปแต่ยังมีซากศพของสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งด้วย?”
“อาจจะเป็นคนที่ถูกสังหารโดยสมบัติต้องสาป” หอคอยน้อยคาดเดา
หลังจากเข้ามาในหอคอยทมิฬได้สักพัก แรงกระตุ้นอันชั่วร้ายภายในร่างกายของพวกเขาก็ถูกขจัดออกไป ทั้งสองคนออกจากหอคอยทมิฬและลงมือขุดอีกครั้ง
“ช่างเป็นพลังชั่วร้ายที่รุนแรงยิ่งนัก!” หลังจากขุดไปได้สิบนาที หลิงฮันก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างรุกล้ำเข้ามาในร่างกายของเขา มันคืออำนาจลึกลับที่ทำให้เขารู้สึกถึงการคุกคาม
นี่คือพลังแห่งคำสาป?
พลังแห่งคำสาปจะไม่สังหารผู้คนในทันทีแต่จะค่อยรุกลามอย่างช้า จนสุดท้ายก็ต้องจบชีวิต
“ขวด!” ฮูหนิวชี้ไปยังใต้พื้นดิน
หลิงฮันพยักหน้า ภายในหลุมที่ฮูหนิวขุดมีปากขวดบางอย่างปรากฏขึ้นมา เขารีบไปขุดพื้นดินบริเวณขวดนั่นจนสามารถมองเห็นรูปร่างของขวดหยกได้ มันเป็นขวดหยกที่มีรูปร่างเรียวยาวและขนาดไม่ใหญ่มาก แม้จะถูกฝังอยู่ใต้ดินมาเป็นเวลานานก็ปรากฏร่องรอยเสียหายใดๆแม้แต่รอยเดียว
บนผิวของขวดหยกมีอักขระวาดเอาไว้มากมาย มันสมควรเป็นเจตจำนงแห่งเต๋าที่ใช้สำหรับสาปแช่ง
เขาเอื้อมมือลงไปหยิบขวดหยกแต่ก็ไม่สามารถทำได้
มันถูกยึดติดกับพื้นติดเอาไว้?
หลิงฮันต้องออกเพิ่มอีกนิดหน่อยขวดหยกถึงจะถูกยกขึ้นมาได้ แต่ทันใดนั้นตำแหน่งที่เคยมีขวดหยกวางอยู่ก็มีนำพุโลหิตทะลักออกมา กลิ่นอายที่สัมผัสได้จากน้ำพุโลหิตเหล่านี้ แม้แต่หลิงฮันที่เคยเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
“หนี!” เขาเก็บขวดหยกและคว้าตัวฮูหนิวเพื่อเผ่นหนี