เลือกวัตถุดิบและเปิดหม้อปรุงยา
“นั้นคือคนของเจ้า?” หยินเล่อพูดอย่างเฉยเมย นางมั่นใจในคนของตัวเองมาก
ในการแข่งขันปรุงยา นางได้เชิญนักปรุงยาระดับปฐพีเข้าร่วม และในการแข่งขันวรยุทธ นางได้เชิญซวนหยวนจื่อกวง ส่วนการแข่งขันรูปแบบอาคมเขาลงแข่งด้วยตัวเอง ซึ่งเขาเป็นถึงปรมาจารย์อาคมระดับหกแล้ว
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การแข่งขันนี้นางจะต้องเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน
“ใช่แล้ว” หยินหงตอบกลับ
“ดูเหมือนว่าการแข่งขันครั้งนี้พี่หยินเล่อจะเป็นฝ่ายชนะ” หยินเฮ่าฉีกล่าว
ภายใต้การดูแลของเหล่าผู้อาวุโส การแข่งขันปรุงยาเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
แต่ละคนสามารถส่งนักปรุงยาเข้าร่วมได้สามคนแล้วเลือกคนที่เก่งที่สุดมาหนึ่งคน หยินเล่อนั้นเต็มไปด้วยความมันใจ นางเลือกซวนจี้หยุนเข้าร่วมเพียงคนเดียว และหยินหงเชื่อมั่นใจตัวหลิงฮัน นางจึงส่งเขาเข้าร่วมแค่คนเดียวเช่นกัน
ส่วนนักปรุงยาอีกสามคนที่เหลือหมดจิตวิญญาณที่จะต่อสู้และกลัวล้มเหลว
มันเป็นเรื่องปกติที่นักปรุงยาจะทำหม้อปรุงระเบิด อันตราความสำเร็จของนักปรุงยาระดับสวรรค์อย่าง คังสื่อฉี และหนงโป๋ยังไม่หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงคนอื่น
การแข่งขันปรุงยามีโอกาสมีแค่ครั้งเดียว หากล้มเหลวคือพ่ายแพ้ทันที
เริ่มแรกคือการเลือกวัตถุดิบและตัดสินใจว่าจะปรุงเม็ดยาอะไร
โดยทั่วไปแล้ว นักปรุงยาระดับปฐพีขั้นต่ำจะมีอัตราสำเร็จประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์หากปรุงเม็ดยาที่ต่ำกว่าระดับของตัวเอง เทียบได้ว่าหากปรุงยาสามเตาจะมีเพียงแค่เตาเดียวเท่านั้นที่จะปรุงสำเร็จ
ดังนั้น ถ้าซวนจี้หยุนเลือกที่จะปรุงเม็ดยาที่ต่ำกว่าระดับตัวเองแล้วประสบความสำเร็จ นักปรุงยาคนอื่นคงทำได้แค่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ถ้ามันล้มเหลวล่ะ?
ดังนั้น เม็ดยาที่เลือกปรุงไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับของตัวเองเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายจะเลือกปรุงเม็ดยาอะไรด้วย
หลังจากนั้น นักปรุงยาที่เข้าร่วมการแข่งขันปรุงยาเดินไปที่ตู้เก็บวัตถุดิบและหยิบวัตถุดิบจนเต็มตระกร้า
มีเพียงแค่หลิงฮันคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหวติง และเลือกวัตถุดิบที่ต้องใช้ปรุงยาเท่านั้น
แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีวัตถุดิบสำหรับปรุงเม็ดยาระดับสวรรค์อยู่ในตู้!
นั้นเป็นเพราะวัตถุดิบปรุงเม็ดยาระดับสวรรค์นั้นมีค่ามาเกินไป ใครมันจะนำออกมาใช้ในการแข่งขันกัน? อย่างที่ทุกคนรู้ ในตอนนี้ทั้งโลกมีนักปรุงยาระดับสวรรค์เพียงแค่สามคนเท่านั้น
อย่างมากคนที่เข้าร่วมการแข่งขันสามารถปรุงเม็ดยาระดับปฐพีขั้นสูงได้
หลิงฮันหยิบวัตถุดิบและไม่สนใจคนอื่นแม้แต่น้อย การแข่งขันนี่เป็นเพียงแค่การแข่งขันฆ่าเวลาสำหรับเขา เป้าหมายของเขาคือการต่อสู้กับซวนหยวนจือกวงในอีกหกวันเพื่อดูว่าใครเป็นรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุด
หลิงฮันกลับไปที่ของตัวเองและเปิดหม้อปรุงยาทันที
“เจ้าหมอนี่มันโง่หรือเปล่าถึงเริ่มปรุงยาเลย?”
“มันมีเวลาแข่งขันปรุงยาถึงสามวัน วันแรกเป็นแค่การดูเชิง มันจะดีกว่าถ้าปล่อยให้คู่ต่อสู้ทำผิดพลาดและเลือกปรุงเม็ดยาที่ยากขึ้น ความเป็นไปได้ที่หม้อปรุงยาจะระเบิดนั้นสูงมาก”
“ดูเหมือนว่าตำหนักสมบัติวิญญาณภูมิภาคเหนือไม่อยากได้รับชัยชนะ”
“ครั้งล่าสุดพวกเขาได้ที่โหล่ ข้าเกรงว่าครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน”
“อันดับหนึ่งคงจะเป็นตำหนักสมบัติวิญญาณภูมิภาคใต้นักปรุงยาระดับปฐพีขั้นสูงได้เปรียบกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเขาเลือกปรุงยาระดับดำขั้นสูงไม่เพียงแค่อันตราความสำเร็จจะสูงขึ้นเท่านั้น แต่คนอื่นเองก็จะถูกบังคับให้ปรุงเม็ดยาที่มีระดับสูงกว่าเม็ดยาระดับดำขั้นสูง ซึ่งมีโอกาสล้มเหลวมาก”
“จริงสิ ซวนหยวนจื่อกวงเองก็มาจากตำหนักสมบัติวิญญาณภูมิภาคใต้ การแข่งขันวรยุทธเขาน่าจะเป็นอันดับหนึ่ง”
“ส่วนความแข็งแกร่งด้านรูปแบบอาคมของหยินเล่อเองก็ไม่ธรรมดา ถ้าเขาไม่ได้รับอันดับหนึ่ง อย่างน้อยก็เป็นอันดับสอง อันดับหนึ่งสองคนบวกกับอันดับสองหนึ่งคน พวกเขาจะต้องเป็นอันดับหนึ่งของการแข่งขันครั้งนี้อย่างแน่นอน”
ตำหนักสมบัติวิญญาณแน่นไปด้วยผู้คน แต่ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่แสดงสีหน้าของพวกเขาออกมา อย่างเช่นยิ่นเฉวยางที่กำลังจ้องมองหลิงฮันอยู่
การได้เป็นพี่น้องกับจอมยุทธระดับทลายมิติ เขาจะธรรมดาได้อย่างไร?
“เดี๋ยวก่อน เทคนิคของเจ้าหนูนั่นมันน่าอัศจรรย์มาก!” ในไม่ช้าบางคนส่งเสียโห่ร้องออกมา แม้ว่าตำหนักสมบัติวิญญาณจะไม่มีนักปรุงยาของตัวเอง แต่ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสมาคมนักปรุงยา ดังนั้นจึงมีนักปรุงยาแวะเวียนอยู่บ่อยครั้ง
วิธีการของหลิงฮันนั้นน่าทึ่งมาก!”
“มีไหวพริบ!”
“รื่นไหล!”
“สำเร็จกระบวน เพียงหนึ่งลมหายใจ!”
ผู้คนจำนวนมากที่เห็นต่างรู้สึกตกใจ เจ้าเด็กนี่อายุเพียงแค่ยี่สิบสี่หรือยี่สิบห้าปีเท่านั้น ทำไมถึงเชี่ยวชาญขนาดนี้?
“เขากำลังปรุงเม็ดยาอะไรอยู่?”
“ดูจากวัตถุดิบของเขาแล้ว…ดูเหมือนว่าจะเป็นเม็ดยาห้าหยกพลิกผัน”
“มันเป็นเม็ดยาระดับปฐพีขั้นสูงมิใช่หรือ?”
“หรือว่าเจ้าเด็กนี่จะบ้าไปแล้วถึงต้องการปรุงเม็ดยาระดับปฐพีขั้นสูง?”
การเคลื่อนไหวของหลิงฮันนั้นทั้งคล่องแคล่วและเชี่ยวชาญ ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความงดงาม ราวกับว่ามันไม่ใช่การปรุงยา แต่เป็นศิลปะ
มันน่าอัศจรรย์เกินไป
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการคัดแยกและทำให้วัตถุดิบบริสุทธิ์แล้ว หลิงฮันก็เริ่มลงมือปรุงยา
ตอนนี้เขาเป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน การปรุงเม็ดยาระดับปฐพีขั้นสูงไม่จำเป็นต้องใช้จิตวิญญาณเปลวเพลิงเข้าช่วย แค่ความแข็งแกร่งของเขาก็เพียงพอแล้ว
กระแสพลังของสวรรค์และปฐพีถูกชักนำเข้าไปในหม้อปรุงยา ซึ่งมันเป็นการผสมผสานที่งดงามมาก
“น่าทึ่ง เทคนิคของเขาช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก หรือว่าเขาจะเป็นความหวังของเหล่านักปรุงยา?”
“แต่ว่าจากนี้เป็นต้นไปมันอาจเกิดความผิดพลาดได้ทุกเมื่อ”
“เฮ้อ มีอัจฉริยะปรากฏออกมาอีกคนแล้ว ตอนนี้ความสามารถของเขาอยู่ที่ระดับปฐพีขั้นสูงด้วยอายุยี่สิบปี และเป็นไปได้มากกว่าในอนาคตเขาจะก้าวเข้าสู่ระดับสวรรค์”
“เจ้าอย่าลืม ความสามารถด้านวรยุทธของเขาเองก็ไม่เลวเช่นกัน”
หลิงฮันไม่ไหวติงและจดจ่ออยู่กับการปรุงยา หลังจากนั้นไม่นาน เม็ดยาได้ลอยอยู่เหนือกระแสพลังปราณที่ปรากฏภาพของภูเขา แม่น้ำ นกและสัตว์อสูร มันดูวิเศษมาก
“หรือว่ามันจะเป็นเม็ดยา….!” ทุกคนอุทานออกมา
ซวนจี้หยุนและนักปรุงยาคนอื่นรู้สึกตกตะลึง การปรุงยากับการฝึกฝนวรยุทธนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันมีช่องว่างที่ไม่อาจเทียบได้อยู่ และทำให้ทุกอย่างอยากจะเทิดทูนหลิงฮัน