การต่อสู้แห่งเกียรติยศ
หมัดของหลิงฮันสั่นไหวพร้อมกับปลดปล่อยคชสารคลั่งสงครามทั้งยี่สิบเอ็ดตัวออกมา
การต่อสู้ครั้งนี้ย่อมเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานไม่ผิดแน่ ดังนั้นหลิงฮันจึงไม่รีบที่จะใช้ทักษะดาบไม้ตายของเขา
ซวนหยวนจื่อกวงสงบนิ่งเป็นอย่างมาก มันไม่แสดงออกถึงความเร่งรีบออกมาให้เห็น
จากการต่อสู้ครั้งนี้ ทุกคนต่างก็คิดกันไปว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาหลายปี เพราะทั้งสองคนสู้กันโดยไม่ใช้ไพ่ตายออกมาราวกับกำลังทดสอบพลังกันอยู่
แต่ยิ่งปะทะกันนานไป กระบวนท่าของทั้งสองก็กลายเป็นรุนแรงมากขึ้น
ซวนหยวนจื่อกวงทรงพลังเป็นอย่างมาก ฝ่ามือของเขาและปราณหมัดทั้งยี่สิบสองราวกับภูเขาที่หล่นลงมา
หลิงฮันตอบโต้กลับไปอย่างไม่แยแส เพราะถึงแม้วิถีแห่งหมัดของเขาก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่ากับวิถีแห่งดาบ แต่เขาก็สร้างปราณหมัดได้ถึงยี่สองอัน และบวกกับทักษะกายาเก้ามังกรทรราช พลังทำลายของเขาต้องไม่แพ้แน่นอน
‘ตูม! ตูม! ตูม!’
ทั้งสองแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอย่างต่อเนื่อง
“สองคนนั้นช่างแข็งแกร่ง!”
“จะมีรุ่นเยาว์สักกี่คนเชียวที่สามารถทัดเที่ยมกับพวกเขาได้?”
“รุ่นเยาว์ในยุคสมัยนี้แข็งแกร่งจนสามารถเทียบเท่ารุ่นเยาว์ของยุคบรรพกาลได้แล้ว”
“เหอะ เจ้าไม่มีคุณสมบัติจะมาทัดเทียมกับข้า!” ซวนหยวนจื่อกวงพูดอย่างเย็นชา มันปล่อยหมัดพยัคฆ์เพลิงขนาดใหญ่ออกมา
มันอัดแน่นปราณหมัดทั้งยี่สิบสองให้กลายเป็นการโจมตีเดียว ทำให้อำนาจของมันทรงพลังเป็นอย่างมาก
หลิงฮันหัวเราะและพูด “ข้าลืมขอบคุณเจ้าที่สอนเคล็ดลับเช่นนี้ให้ข้าไปเลย” หลิงฮันปล่อยหมัดออกไปพร้อมกับร่างของมังกรคชสารสีทองที่มีขนาดมหึมาราวกับภูผา
ไม่ว่าจะเป็นพยัคฆ์เพลิงหรือมังกรคชสาร ร่างของพวกมันก็ถูกอัดแน่นไปด้วยเจตจำนงอันทรงพลัง
‘ตูม!’
พยัคฆ์เพลิงปะทะเข้ากับมังกรคชสาร การปะทะเช่นนี้คือการปะทะกันของเจตจำนง คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นจึงรุนแรงมากจนทำให้ร่างของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานมากมายสั่นสะท้าน
แต่มังกรคชสารนั้นเป็นฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่า จมูกที่ยืดยาวของมันม้วนพันร่างของพยัคฆ์เพลิงและเหวี่ยงออกไป
“เป็นไปได้อย่างไร!” ซวนหยวนจื่อกวงอุทานออกมา นั่นคือกระบวนท่าที่เกิดจากการอัดแน่นปราณทั้งยี่สิบสองของเขาซึ่งมีจำนวนมากกว่าปราณของหลิงฮัน แต่ทำไมเขาถึงเป็นฝ่ายอ่อนแอกว่า?
ไม่อาจยอมรับได้!
ซวนหยวนจื่อกวงปล่อยหมัดออกไปอีกครั้งเพื่อต่อต้านมังกรคชสาร แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหน้าเกลียด
“ไม่ใช่!” ซวนหยวนจื่อกวงพบว่ามังกรคชสารนั้นถูกปกคลุมไปด้วยอักขระลึกลับบางอย่าง ซึ่งเป็นกุญแจที่ทำให้อำนาจของมังกรคชสารเพิ่มมากขึ้น
แต่เมื่อคิดได้เช่นนั้น ความมั่นใจในตนเองของซวนหยวนจื่อกวงก็กลับมา ไม่ใช่เพราะปราณของหลิงฮันแข็งแกร่งกว่าของเขา แต่เพราะอีกฝ่ายเชี่ยวชาญทักษะลับบางอย่างทำให้พลังของปราณแข็งแกร่งขึ้น
“ข้าซวนหยวนจื่อกวง ไม่เคยอ่อนแอกว่าใคร!” ซวนหยวนจื่อกวงคำรามและปลดปล่อยพายุคลั่งออกมา
หลิงฮันยิ้มและพูด “วันนี้ข้าจะเหยียบย่ำเจ้า!” เขากระตุ้นใช้งานเนตรแห่งสัจธรรม ภายในพายุคลั่งนั่น จุดอ่อนเล็กๆน้อยๆของซวนหยวนจื่อกวง ได้ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
ร่างของเขาคือกายาเหล็กไหล แถมยังฝึกฝนทักษะกายาเก้ามังกรทรราชด้วย เพราะงั้นร่างของเขาจึงไม่ใช่แค่ทนทานแต่พลังแฝงไปด้วยอำนาจทำลายล้างที่ทรงพลังอีกด้วย หากเป็นการต่อสู้ระยะประชิด ด้วยหมัดที่เกิดจากกายาเหล็กไหลและปราณหมัดทั้งยี่สิบหมัดนั้น แม้แต่ระดับตัวอ่อนวิญญาณขั้นต้นก็ไม่อาจต้านทานได้
ซวนหยวนจื่อกวงรู้ว่าร่างของหลิงฮันแข็งแกร่ง เขาจึงพยายามเคลื่อนไหวเพื่อสร้างระยะห่างกับหลิงฮัน
ภายใต้การจ้องมองของเนตรแห่งสัจธรรม จุดอ่อนของซวนหยวนจื่อกวงเริ่มขยายให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้หลิงฮันกำลังรอโอกาสมอบความพินาศครั้งใหญ่ให้กับอีกฝ่าย
ซวนหยวนจื่อกวงคำรามอีกครั้ง เขาไม่เคยต้องลงมือจริงจังขนาด ซึ่งทำให้เขาคลั่งจนแทบบ้า
“เจ้าทำให้ข้าโกรธ!” ผมของซวนหยวนจื่อกวงสยายออก คิ้วของมันกลายเป็นคมกริบราวกับกระบี่ยาว
หรือว่าซวนหยวนจื่อกวงจะเป็นผู้ใช้กระบี่?
หลิงฮันตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ซวนหยวนจื่อกวงไม่เคยใช้อาวุธแม้แต่ครั้งเดียว เขาจึงคิดไปว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ามือ
“บังคับให้ข้าใช้กระบี่ได้ นับว่าเจ้าไม่เลวจริงๆ” ซวนหยวนจื่อกวงพูดอย่างหยิ่งยโสพร้อมกับกระบี่ที่ปรากฏขึ้นในมือ
“แล้วมันต่างจากเดิมยังไง?” หลิงฮันยิ้ม
“เดี๋ยวเจ้าก็ได้รู้เอง!” กระบี่ของซวนหยวนจื่อกวงเคลื่อนไหว ‘พรึบ’ ปราณกระบี่ยี่สิบเก้าเล่มปรากฏและพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน
ยี่สิบเก้าเล่ม!
หลิงฮันรีบใช้ย่างก้าวเทพธิดาปีศาจเพื่อหลบหลีกปราณกระบี่เหล่านั้น
ไม่ใช่แค่จำนวนของปราณกระบี่ที่มาก แต่กระบี่ที่ซวนหยวนจื่อกวงใช้ยังเป็นอาวุธวิญญาณระดับเจ็ดอีกด้วย เพราะงั้นถึงแม้กายหยาบของหลิงฮันจะเทียบได้กับแร่เหล็กระดับหก ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะรับปราณกระบี่เหล่านั้นตรงๆ
“ปราณกระยี่สิบเก้าเล่ม!”
“พระเจ้า… ทำไมพรสวรรค์ของหมอนั่นถึงได้ราวกับสัตว์ประหลาดขนาดนี้!”
“ข้าคิดมาตลอดว่าเขาเป็นผู้ใช้ฝ่ามือ ไม่เคยคาดคิดเลยว่าที่จริงแล้วจะเป็นผู้ใช้กระบี่ แถมวิถีพระบี่ของเขายังน่ากลัวขนาดนั้นอีกด้วย!”
“ข้าเกรงว่าแม้แต่ราชากระบี่น้อยของนิกายกระบี่ไร้พ่ายก็ยังไม่ทรงพลังเท่าซวนหยวนจื่อกวง?”
ทุกคนอุทานออกมาเนื่องจากตกตะลึงกับความสามารถของซวนหยวนจื่อกวง ความสามารถของรุ่นเยาว์ผู้นี้ยังยากจะหยั่งถึง ใครจะคาดคิดว่าแท้จริงแล้วเขาจะเป็นผู้ใช้กระบี่?
หลิงฮันนำดาบปีศาจม่วงออกมาถือในมือ มือขวาของเขาเคลื่อนไหวพร้อมกับปลดปล่อยปราณดาบยี่สิบสามเล่มออกมา
“สัตว์ประหลาดอีกคนนึง!” ฝูงชนอุทานออกมาอีกครั้ง
‘ตูม’ ปราณดาบและปราณกระบี่เข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่องจนแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ซวนหยวนจื่อกวงไม่หวั่นไหว ด้วยจำนวนของปราณกระบี่ที่มากกว่าและความคมของอาวุธกระบี่วิญญาณ พลังทำลายของปราณกระบี่จึงมหาศาลจนน่าสะพรึงกลัว
“กระบี่ตัดนรก!” ซวนหยวนจื่อกวงคำราม ปราณกระบี่ทั้งยี่สิบเก้าเล่มควบแน่นรวมเป็นหนึ่งกลายเป็นรัศมีกระบี่ที่ทรงพลังพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันสะบั้นดาบในมือ ปราณดาบทั้งยี่สิบสามเล่มควบแน่นรวมเป็นหนึ่งและผสานเข้ากับอักขระกระดูกเพื่อต้านทานปราณกระบี่ที่พุ่งเข้ามา