ชนะ
“เจ้าใช้ฝ่ามือมาตลอดก็เพราะวิถีแห่งกระบี่ของเจ้าถึงคอขวดแล้ว ที่เจ้าทำการทักษะวรยุทธอื่นที่ไม่ใช่กระบี่ก็เพื่อเสริมความเข้าใจในวิถีวรยุธและทะลวงผ่านคอขวดวิถีกระบี่ของเจ้ารวมถึงสร้างปราณกระบี่เล่มที่สามสิบขึ้นมา” หลิงฮันกล่าว
“ไม่ผิด!” ซวนหยวนจื่อกวงพยักหน้ายอมรับ “โลกนี้เชื่อว่าปราณยี่สิบเก้าอันคือขีดจำกัด แต่เข้าเชื่อว่าสามสิบอันต่างหากคือปราณที่สมบูรณ์แบบ ด้วยพรสวรรค์ของข้า ข้าจะต้องบรรลุมันได้อย่างแน่นอน!”
หลิงฮันพยักหน้าในใจ เหตุผลที่ทำไมทักษะดาบลึกลับสามพันเล่มถึงเป็นสามพันเล่มไม่ใช่สามพันหนึ่งร้อยเล่มก็เพราะขีดจำกัดปราณดาบของจอมยุทธคือยี่สิบเก้าเล่ม ซึ่งเมื่อปลดปล่อยปราณดาบยี่สิบเก้าเล่มออกมาพร้อมกับทักษะ ประกายแสงแห่งดาบก็จะรวมกันเป็นสามพันเล่มพอดี
เพียงแต่ขีดจำกัดนั้นคือสิ่งที่มีไว้ทำลาย ใครจะรู้ได้ล่ะว่ายี่สิบเก้าเล่มคือขีดจำกัดแล้วจริงๆ?
“พ่ายแพ่ต่อข้าซะ!” ซวนหยวนจื่อกวงยืนตรงและเป็นฝ่ายพุ่งเข้าใกล้หลิงฮันก่อน เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้มันมีความมั่นใจอย่างมาก
หลิงฮันกวัดแกว่งดาบและหัวเราะ “คิดรึว่าข้าจะหวาดกลัวเจ้า?”
‘ตูม’ ปราณดาบที่หนาแน่นเล่มหนึ่งปรากฏออกมา มันคือการควบแน่นกันของปราณดาบและอักขระกระดูก รูปร่างของปราณดาบนั้นราวกับเป็นมังกรที่กำลังพุ่งเข้าใส่ซวนหยวนจื่อกวง
“กระบี่สะบั้นจักรวาล ตัวข้าคือผู้แข็งแกร่งที่สุด!” ซวนหยวนจื่อกวงคำราม กระบี่ของมันทะลวงขึ้นฟ้าราวกับจะแหวกสวรรค์ให้แยกออกจากกัน
กระบี่นี้… แข็งแกร่ง!
หลิงฮันใช้งานดาบสกัดแปดลมหายใจ คลื่นอำนาจที่ปลดปล่อยออกมาทำให้ท้องฟ้าแยกออกสร้างคลื่นดาบที่เป็นสุดยอดการป้องกัน
ทักษะดาบนี้โดดเด่นในด้านตั้งรับ ด้วยระดับพลังของหลิงฮันในตอนนี้ อำนาจของทักษะนี้จึงไม่นับว่าอ่อนแอ
‘ตูม!’
เจตจำนงแห่งกระบี่และดาบเข้าปะทะกันก่อให้เกิดคลื่นทำลายล้างที่เกือบจะก้าวข้ามพลังอำนาจของระดับบุปผาผลิบานไปแล้ว
“พวกเขาเป็นระดับบุปผาผลิบานเหมือนข้าแท้ๆ แต่ทำไมความห่างของพลังต่อสู้ถึงได้มากมายขนาดนี้?” ใครบางคนที่เข้าร่วมการแข่งขันอุทานออกมา เมื่อนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับทั้งสองแล้ว พลังต่อสู้ที่ต่างกันนั้นไม่ใช่แค่หนึ่งดาว แต่เป็นระดับพลังที่พวกเขาไม่อาจเอื้อมถึง
พลังต่อสู้ของทั้งสองได้ทำให้ความหยิ่งยโสในตัวทุกคนสลายหายไปหมดสิ้น
ผังเซี่ยงหมิงกำหมัดแน่นและกระตุ้นความกล้าหาญในใจตนเอง สักวันนึงเขาจะต้องก้าวข้ามทั้งสองคนนี้ให้ได้!
อัจฉริยะแห่งยุคทั้งสองปลดปล่อยความรุ่งโรจน์ของตนเองออกมาราวกับดวงตะวันที่ให้แสงสว่างต่อโลก การต่อสู้นี้ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะก็ไม่ส่งผลด้านลบต่อชื่อเสียงของพวกเขา
“กระบี่แห่งพระพุทธองค์!” ซวนหยวนจื่อกวงใช้กระบวนท่าที่ทรงพลัง กลิ่นอายที่กระบี่นี้แผ่ออกมานั้นราวกับพระพุทธองค์ที่กำลังรู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้
หลิงฮันเค้นเสียงในใจ เขายกมือขวาขึ้นพร้อมกับใช้กระบวนที่แข็งแกร่งที่สุดของดาบสกัดแปดลมหายใจออกไปต่อต้านการโจมตีที่รุนแรงของซวนหยวนจื่อกวง
ทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างดุเดือด การปะทะกันของพวกเขานั้นน่าตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบมิได้
“ข้าคือผู้ไร้พ่าย!” ซวนหยวนจื่อกวงคำราม พลังแห่งสายเลือดของเขาถูกกระตุ้นใช้งานพร้อมกับเปลวเพลิงอันไร้ที่สิ้นสุดที่ถูกปล่อยออกมาจากร่าง เปลวเพลิงเหล่านั้นขยายรูปร่างกลายเป็นมังกรที่แท้จริง นกอมตะ และสัตว์อสูรโบราณตัวอื่นๆอยู่ล้อมรอบตัวเขา
พลังต่อสู้ของซวนหยวนจื่อกวงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจนเหนือกว่าระดับบุปผาผลิบานในพริบตา พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้เทียบได้กับระดับตัวอ่อนวิญญาณ
หลิงฮันพูดอย่างเย็นชา “ข้ารออยู่แล้ว!” เขาโยนเม็ดยาเข้าไปในปาก
มันคือเม็ดยาห้าหยกพลิกผันที่เขาหลอมขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน
เม็ดยาห้าหยกพลิกผันคือเม็ดยาระดับปฐพีขั้นสูง ซึ่งช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ชั่วคราวให้กับจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาได้ถึงห้าดาว แต่ถ้าหากเป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณนั้น พลังต่อสู้จะเพิ่มขึ้นเจ็ดดาว ตามทฤษฎีแล้วจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานไม่สามารถกินมันเข้าไปได้เพราะพลังงานในเม็ดยานั้นรุนแรงเกินกว่าร่างกายจะรับไหว แต่ใครใช้ให้หลิงฮันบ่มเพาะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์กันล่ะ ร่างกายของเขาทนทานราวกับเหล็กกล้าและสามารถทนทานต่อฤทธิ์ของเม็ดยาเช่นนี้ได้
‘บึม’ พลังต่อสู้ของหลิงฮันเพิ่มขึ้นสูงอย่างฉับพลัน
ตามหลักแล้ว เม็ดยาห้าหยกพลิกผันจะเพิ่มพลังต่อสู้ให้กับจอมยุทธระดับผลิบานได้เกือบสิบดาว แต่นั่นก็เป็นในกรณีที่ร่างกายสามารถรองรับฤทธิ์ของเม็ดยาได้ไหว พลังต่อสู้ดั้งเดิมของหลิงฮันคือสิบห้าดาว และหากเพิ่มขึ้นไปอีกสิบดาวพลังต่อสู้ของเขาก็จะเทียบเท่าได้กับระดับตัวอ่อนวิญญาณ
อัจฉริยะทั้งสองเข้าปะทะกันต่อ และฝ่ายที่ได้เปรียบก็คือหลิงฮัน!
หลังจากกระตุ้นใช่งานพลังสายเลือดแล้ว พลังต่อสู้ของซวนหยวนจื่อกวงจะเพิ่มขึ้นเกือบห้าดาว ทำให้มีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับระดับตัวอ่อนวิญญาณซึ่งเหมือนกับหลิงฮัน แต่ที่ต่างกันก็คือพลังต่อสู้ของหลิงฮันนั้นเพิ่มขึ้นมาสิบดาว
พลังต่อสู้ของทั้งคู่แตกต่างกันถึงห้าดาว!
ได้เปรียบก็ใช่ว่าจะชนะ แต่เมื่อกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว หลิงฮันก็คิดจะใช้ที่ทรงพลังออกไป
“หมื่นแปรผันเป็นหนึ่ง!”
หลิงฮันควบแน่นปราณดาบทั้งยี่สิบสามเล่มให้กลายเป็นกึ่งรัศมีดาบ ขนาดของรัศมีดาบนั้นมีขนาดหนาเพียงแค่หนึ่งนิ้วของเขา แต่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมานั้นน่าสะพรึงกลัวเกินจะบรรยายออกมาได้ เมื่อควบแน่นเสร็จสิ้น หลิงฮันก็โจมตีใส่ซวนหยวนจื่อกวงอย่างรวดเร็ว
หลบไม่พ้น!
ซวนหยวนจื่อกวงอุทานในใจ เพลงดาบที่กำลังพุ่งเข้ามานี้ ไม่ว่ามันจะรวดเร็วขนาดไหนก็ไม่สามารถหลบหลีกได้พ้น
เขาคำรามและตั้งกระบี่ไว้ที่หน้าอกเพื่อป้องกัน
คลื่นรัศมีดาบที่ทรงพลังทะลวงโอบไปทั่วร่างซวนหยวนจื่อกวงจนกระเด็นราวกับว่าวที่ด้ายขาด ‘ตูม’ ร่างของเขาร่วงหล่นสู่พื้นและกระอักโลหิตออกมาไม่หยุด เมื่อมองลงไปที่กระบี่ เขาพบว่าบนตัวกระบี่นั้นถูกทิ้งรอยบิ่นเอาไว้มากมาย
แม้จะยังอยากสู้ต่อ แต่เมื่อก้าวเท้าพยายามจะลุกยืน ร่างกายของเขาก็สั่นไหวและกระอักโลหิตออกมาจนต้องลงไปนั่งที่พื้นอีกครั้ง
ถ้ากระบี่ที่เขาถืออยู่ไม่ใช่อาวุธวิญญาณระดับสูง กระบวนท่าหมื่นแปรผันเป็นหนึ่งเมื่อครู่คงผ่าร่างของเขาเป็นสองส่วนไปแล้ว
การปะทะกันของสองอัจฉริยะ ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าก็คือหลิงฮัน
“เมื่อครู่นี้มันไม่ยุติธรรม!” หยินเล่อตะโกนขึ้นมาทันทีและชี้ไปยังหลิงฮัน “เขากินเม็ดยาเสริมพลังเข้าไป ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎ!”