พลังต่อสู้ที่แท้จริงของสาวน้อย
ชางเย่โจมตีออกไปด้วยปราณกระบี่ พลังของเขามันน่าทึ่งมาก
หยางอิงหยุนยิ้มและกระโจนออกไป และใช้มือเปล่าเพื่อจับไปที่กระบี่ของชางเย่
ชางเย่เค้นเสียงออกมาและเปลี่ยนเส้นทางกระบี่และเล็งไปที่หยางอิงหยุนโดยตรง
“เจ้าเป็นชายที่ไม่รู้จักคำว่าอ่อนโยนเอาเสียเลย ถึงกล้าทำให้ผู้หญิงต้องเจ็บปวด ถ้าเป็นเรื่องบนเตียง ข้าเกรงว่าเจ้าคงไม่ห้าวหาญขนาดนี้ แต่ในเมื่อเจ้าเป็นคนเริ่มควรทำให้มันอ่อนโยนและนุ่มนวล!” ร่างของหยางอิงหยุนกระโดดหลบ
สิ่งที่นางพูดทำให้จูเสวี่ยนเอ๋อ ฉินหยีเย่วและเหอหลันหยุนรู้สึกเขินอายจนใบหน้ากลายเป็นสีแดง และรู้สึกโกรธว่ามีผู้หญิงที่ไร้ยางอายขนาดนี้ได้อย่างไร?
มันน่าละอายมาก!
อย่างไรก็ตาม หยางอิงหยุนเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก
นางเป็นจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับบุปผาผลิบานและมีพลังต่อสู้สิบสองดาว นางไม่ได้เป็นคนที่แข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังแข็งแกร่งมากด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ชางเย่มีพลังต่อสู้เพียงแค่เจ็ดดาวเท่านั้น มันห่างชั้นกันมาก
นอกจากนี้ พลังต่อสู้ของหยางอิงหยุนยังมากกว่าหูชิ่งฟางสองดาว มิฉะนั้นมันคงไม่มีหน้ากลับมา
“อะไรกัน!” หู่ชิ่งฟางรู้สึกว่ามันแปลก ทำไมชางเย่ถึงอ่อนแอขนาดนี้? ทั้งที่ครั้งก่อนตอนที่มันเล่นกับชางเย่ เขากับทำให้มันต้องทุกข์ทรมานได้
ถ้าชางเย่แข็งแกร่งเพียงแค่นั้น ทำไมครั้งก่อนมันต้องทำตัวอับอายขายหน้าและล่าถอยด้วย?
“ข้าจะช่วยเจ้าเอง!” ฉินหยีเย่วร่วมมือกับชางเย่เพื่อต่อสู้กับหยางอิงหยุน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฉินหยีเย่วจะมีความสามารถมากกว่า แต่ระดับพลังของนางยังต่ำเกินไป นางเป็นแค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานขั้นสี่ที่มีพลังต่อสู้สิบดาว ทั้งสองคนจะเติมเต็มช่องว่างระหว่างหยางอิงหยุนได้หรือไม่ หรือว่าพวกเขาจะถูกนางจัดการ
โฉวจื่อเฟยและคนอื่นคิดแค่จะหลบหนี ถ้าฉินหยีเย่วและชางเย่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ คงมีแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่
หลิงฮันใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราและยิงลูกศรล่องหนไปที่หยางอิงหยุนทันที
แม้ว่าพลังของลูกศรล่องหนจะน้อย แต่มันสามารถหลบซ่อนจากสายตาของศัตรูได้ดี
“อ๊าก!” หยางอิงหยุนถูกยิงที่หัวเข่า ทำให้นางล้มลงกับพื้นอย่างกะทันหัน
ชางเย่และฉินหยีเย่วจึงใช้โอกาสนี้โจมตีหยางอิงหยุนทันที
หยางอิงหยุนต้องการที่จะตอบโต้ ทว่านางถูกยิงที่หัวเข่าจึงไม่อาจลุกขึ้นมาตอบโต้ได้ ดังนั้นจึงทำได้แค่ส่งเสียงคำรามเท่านั้น
“อีกแล้ว!” หูชิ่งฟางพึมพัม ที่มันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เพราะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
อีกฝ่ายใช้วิธีการอะไรกันแน่?
หยางอิงซือกระโจนออกมาจากอ้อมแขนของหูชิ่งฟาง ด้วยสีหน้าแปลกใจ นางสัมผัสได้ถึงพลังปราณ แต่มันเบาบางมากจนนางแทบไม่แน่ใจ
“น้องสาว เจ้าต้องการความช่วยเหลือจากพี่สาวของเจ้าไหม?” นางหัวเราะ
“พี่สาวช่วยข้าด้วย!” หยางอิงหยุนบินกลับไปที่รถม้า ฉินหยีเย่วและช่างเย่อยากจะไล่ตาม แต่พวกเขาถูกฝ่ามือของหยางอิงซือหยุดเอาไว้
ชางเย่และฉินหยีเย่วรู้สึกตกใจและรีบล่าถอยอย่างรวดเร็ว
“จ…จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ!” พวกเขาสองคนตัวสั่นเทาและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน
อีกฝ่ายเป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ ในขณะที่พวกเขาสองคนเป็นแค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานขั้นต่ำและขั้นกลาง แม้พวกเขาจะอยู่จุดสูงสุดของบุปผาผลิบานมันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
ไม่แปลกใจเลยที่หูชิ่งเฟงถึงกล้ากลับมา เพราะมันพาจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณด้วย!
แล้วพวกเขาจะไปทำไรได้?
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” หูชิ่งฟางหัวเราะ “นางทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณตั้งแต่หกเดือนก่อน การกำจัดจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเป็นเรื่องง่ายสำหรับนาง”
ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอีกฝ่ายเป็นถึงจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ เรื่องเอาชนะอีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องพูดถึง แค่หลบหนียังเป็นเรื่องยาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า!’ หยางอิงซือหัวเราะและมองไปที่เหล่าชายหนุ่ม “ทาสหนุ่มนี่แหละดี ไม่เพียงแค่จะถูกปลุกเร้าได้ง่าย แต่ยังเข้มแข็งและหนักแน่น!”
“พี่สาว ท่านจะเล่นสนุกคนเดียวไม่ได้!” หยางอิงหยุนกล่าว
เปรี๊ยะ!
หูชิ่งฟางตบหน้านางและพูดว่า “แค่นี้พอใจเจ้าแล้วหรือยัง?”
“พวกเราสองพี่น้องเป็นของนายน้อยเพียงคนเดียวเท่านั้น! นอกจากนี้ไม่ใช่ว่านายน้อยต้องการหญิงสาวแซ่ฉินหรอกหรือ?” หยางอิงหยุนไม่รู้สึกละอายใจและพูดจี้จุด
“น้องสาว ถ้าเจ้าดูดพลังหยวนของชายพวกนั้นและมีความเข้าใจครึ่งหนึ่ง เจ้าจะทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณ!” หยางอิงซือหันหลังกลับ
หยางอิงหยุนรู้สึกดีใจและพูดว่า: “ยอดเยี่ยมเลยพี่สาว!”
หยางอิงซือพยักหน้าและพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “สุภาพบุรุษทั้งหลาย มีใครอยากเสนอตัวให้น้องสาวของข้าไหม? แล้วพวกเราสองพี่น้องจะทำให้พวกเจ้าเพลิดเพลิน!”
โฉวจื่อเฟยและคนอื่นสีหน้าเปลี่ยนสี อีกฝ่ายจะจับพวกเขาไปดูดพลังหยาง! บรรดาผู้ที่ตกอยู่ในมืออีกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงจะต้องตายอย่างแน่นอน!
“หืม ตรงนั้นมีเด็กสาวตัวน้อยอยู่ นายน้อยท่านต้องการตัวนางหรือไม่?” หยางอิงซือมองไปที่ฮูหนิวและหันกลับไปมองหูชิ่งฟาง
“ฆ่า!” หูชิ่งฟางสบัดมือ ตอนนี้มันต้องการแค่ฉินหยีเย่วเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้ที่นี่จะมีสาวงามอยู่หลายคน แต่เมื่อเทียบกับเหอหลันหยุนและหยางอิงซือแล้วความงามของพวกนางถูกฉินหยีเย่วบดบังจนหมด
ฮูหนิวรู้สึกโกรธมาก พวกมันต้องการฆ่าฮูหนิวที่น่ารักคนนี้?
นางกระโจนออกมาจากอ้อมแขนของหลิงฮันและชี้นิ้วไปที่หยางอิงซือ “ยัยแก่ เด็กสาวตัวน้อยคนนี้จะเป็นคนฆ่าเจ้าเอง” ฮูหนิวคิดและหันไปถามหลิงฮัน “หนิวฆ่านางได้ไหม?”
“ได้” หลิงฮันพยักหน้าหลังจากที่เห็นสีหน้าจริงจังของฮูหนิว เขาปฏิเสธไม่ลง
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” หยางอิงซือหัวเราะเยาะ มันคงไม่มีเรื่องไหนตลกไปกว่าเรื่องนี้แล้ว เด็กสาวตัวน้อยอายุเจ็ดถึงแปดขวบกำลังพูดว่าจะฆ่านางด้วยตัวเอง นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน
“ระวังตัวเอาไว้ให้ดี หนิวขอเตือนไว้ก่อน” ฮูหนิวยกมือขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง
ทุกคนอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แต่พวกเขากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่สิ้นหวังอยู่
“ข้าเป็นเป้าหมายของพวกมัน พวกเจ้าหนีไป!” ฉินหยีเย่วเป็นตัวต้นเหตุ นางไม่อยากลากคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีกแล้ว
“หนีเร็ว!” โฉวจื่อเฟยและคนอื่นพูดออกมาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจที่ต้องทิ้งฉินหยีเย่ว แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้นพวกเขาจะต้องตาย
“พวกเจ้าคิดจะไปไหน?” หยางอิงซือแสยะยิ้ม ถ้าจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณโจมตีใส่ แล้วจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานขั้นกลางจะป้องกันได้อย่างไร?
ฉินหยีเย่วใช้ดาบจ่อคอตัวเองและพูดว่า “ถ้าเจ้าขยับ ข้าจะฆ่าตัวตาย!’
“หยุดเดี๋ยวนี้!” หูชิ่งฟางรีบตะโกนออกมา เป้าหมายของมันคือฉินหยีเย่ว ถ้าสาวงามอย่างนางตายความพยายามทั้งหมดจะต้องสูญเปล่า
หยางอิงซือเค้นเสียงและหยุด แต่พูดเยาะเย้ยออกมาว่า “ช่างเป็นสุภาพบุรุษยิ่งนัก ถึงเอาแต่หลบอยู่ด้านหลังผู้หญิง”
โฉวจื่อเฟยและชายหนุ่มคนอื่นพูดไม่ออก
“หนิวขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ระวังหมัดของหนิวไว้ให้ดี!” ฮูหนิวกระโจนออกไปข้างหน้าและปล่อยหมัดเล็กๆออกไป