แววตาของชายคนนั้นราวกับลุกโชนด้วยเปลวเพลิงขณะพูดว่า “ข้ามีนามว่าหนงเสียหยุน ปู่ทวดของข้าเป็นถึงนักปรุงยาระดับสวรรค์! เจ้าหนู เจ้าแน่ใจแล้วหรือที่จะต่อสู้กับข้า?”
ทุกคนส่งเสียงอุทานออกมา ที่แท้บรรพุบุรษของเขาเป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์นี่เอง
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้เพื่อที่จะซื้อของผู้ที่ให้ราคาสูงสุดย่อมเป็นผู้ชนะ แล้วเจ้าจะยกบรรพบุรุษของเจ้าขึ้นมาพูดทำเพื่อ?”
“ดี! แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!” หนงเสียหยุนจ้องมองไปที่หลิงฮันและเดินจากไป
หลิงฮันยิ้มและโยนขวดหยกให้กับชายชรา แล้วหยิบขวดของชายชรามาเป็นการแลกเปลี่ยน
ชายชรารีบเปิดขวดหยกเพื่อตรวจสอบเม็ดยาทันที แต่เขาไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นของจริง?
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้หลอกลวงท่าน!”
แม้ชายชราจะไม่เชื่อ แต่โสมหยกขาวพันปีสองต้นก็เป็นราคาที่เขาตั้งเป้าเอาไว้แล้ว ส่วนเม็ดยาชโลมหัวใจสองเม็ดนั้นอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา
ในทางกลับกัน ถ้าเขายอมรับข้อเสนอของหนงเสียหยุน แล้วเขาจะยืนยันได้อย่างไรว่าเม็ดยาของอีกฝ่ายจะเป็นของจริง?
หลังจากนั้น ชายชราเก็บแผงลอย และรีบวิ่งหนีไปจนไม่สามารถมองเห็นได้อีก แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณแต่ด้วยอายุของเขาแล้วจึงเทียบได้แค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเท่านั้น
คนหนุ่มสาวที่นี่ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะ แม้จะเป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานก็สามารถเอาชนะเขาได้ เขาจึงเกรงว่าจะถูกปล้น
ดังนั้นเผ่นก่อนจะได้อุ่นใจ
หลิงฮันยิ้มและตรวจสอบขวดด้วยเนตรแห่งสัจธรรม แล้วเห็นว่าก้นขวดนั้นแตกต่างจากจุดอื่น ราวกับไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นชิ้นเดียวกัน
น่าสนใจดีนิ หลิงฮันพูดอยู่ในใจและตั้งหน้ารอศึกษามันในหอคอยทมิฬ
หลังจากที่เก็บขวดเข้าไปในหอคอยทมิฬแล้ว หลิงฮันเห็นมีคนมากมายกำลังเดินตามเขาอยู่
ความมั่งคั่งของเขาไม่อาจปกปิดได้ เขานำโสมหยกขาวพันปีสองต้นและเม็ดยาชโลมหัวใจสองเม็ดออกมาอย่างไม่ลังเล ผู้คนจำนวนมากจึงหวังที่จะใช้ประโยชน์จากเขา อย่างไรก็ตาม หลิงฮันไม่ได้สนใจพวกมัน ใครก็ตามที่ต้องการปล้นเขา อีกฝ่ายจะถูกปล้นจนไม่เหลือแม้แต่กางเกง
“โปรดรอสักครู่นายน้อย คุณหนูของข้าให้ข้ามาส่งจดหมายเชิญพวกท่านไปงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้” หลิงฮันกำลังจะจากไป แต่เห็นสาวใช้เดินเข้ามาหาพร้อมกับส่งจดหมายเชิญสีชมพูที่มีกลิ่นหอมจางๆลอยออกมา
หลิงฮันไม่ได้รับจดหมายทันที แต่ถามออกไปว่า “คุณหนูของพวกเจ้าคือใคร?”
“เจ้าหนุ่ม นี่เจ้าไม่จักรู้สาวลูกพีชน้อยงั้นหรือ?” ใครบางคนตะโกน “สาวลูกพีชน้อยคือคุณหนูอีหยุน!”
“ว่าไงนะ คุณหนูอีหยุนรึ!”
“คุณหนูอีหยุนแห่งตระกูลหวังงั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว คุณหนูอีหยุนไม่เพียงแค่งดงามราวกับเทพธิดาเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ และเป็นอัจฉริยะที่น่าอัศจรรย์ ในตอนที่นางอายุเก้าปี นางก็เป็นศิษย์ของนิกายอัสนีศักดิ์สิทธิ์แล้ว แม้ว่านางจะไม่มีชื่อเสียงเท่าตงหลิงเอ๋อ แต่ถ้าพูดถึงความงดงามนางจะต้องมีรายชื่อติดหนึ่งในสิบอย่างแน่นอน”
“งดงามดุจเทพธิดา แข็งแกร่งราวกับเทพสงคราม หญิงแกร่ง!”
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ หวังอีหยุนมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมสำนักสวรรค์ได้โดยตรงและจัดงานเลี้ยงขึ้นที่นี่ นางช่างมั่งคั่งอะไรเยี่ยงนี้!
“ตระกูลหวังเป็นตระกูลของจอมยุทธตั้งแต่อดีต ว่ากันว่าบรรพบุรุษของตระกูลหวังยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ แต่ทว่าเขายังไม่อาจทะลวงผ่านระดับทลายมิติได้”
“ด้วยทรัพยากรทางการเงินของตระกูลหวัง มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างวังอยู่ที่นี่”
“เฮ้อ ข้ารู้สึกอิจฉาเขาเสียจริง ถ้าข้าสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงได้ ข้าคงเป็นอัจฉริยะที่เข้าร่วมสำนักสวรรค์ได้โดยตรง”
“แต่ทำไมเจ้าหนุ่มนี่ถึงได้รับคำเชิญ เขาไม่ได้ดูยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นเลยนี่?”
ทุกคนจ้องมองไปที่หลิงฮัน แต่ก็ไม่พบอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจในตัวเขา
หลิงฮันครุ่นคิดและมองไปที่จดหมายเชิญแล้วพูดว่า “ตกลง แล้วเจอกันในคืนนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นสาวใช้รู้สึกดีใจ นางบิดตัวหันหลังกลับ และทุกคนรีบหลีกทางให้นางทันที
“เจ้าหนู ข้าขอดูขวดหน่อย!” กระต่ายยักษ์เริ่มให้ความสนใจขวด
“ทำไมข้าจะต้องให้เจ้าดูด้วย?” หลิงฮันถามไปงั้น
“ก่อนหน้านี้ไม่มีใครให้ความสนใจกับเจ้า แต่ว่าตอนนี้กลับมีใครบางคนเชิญเจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยง เห็นได้ชัดว่านั่นไม่ได้เป็นเพราะความแข็งแกร่งของเจ้า แต่เป็นเพราะเจ้าขวดนี่ ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะต้องอยากได้ขวดอย่างแน่นอนเลยเชิญเจ้าไปงานเลี้ยง ดังนั้น ข้าเลยสนใจมัน” กระต่ายยักษ์กล่าว
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “ดูเหมือนว่าสติปัญญหาของเจ้าจะไม่ได้ต่ำอย่างที่เห็น!”
“นี่เจ้ากล้าพูดจาดูหมิ่นข้างั้นรึ ข้าจะ–อ๊าก!” กระต่ายยักษ์ถูกฮูหนิวกัดและกรีดร้องออกมาอย่างขมขื่น
“ถ้าหลิงฮันไม่ได้บอกให้หนิวฆ่าเจ้า เจ้าคงถูกกินไปแล้ว!” ฮูหนิวเต็มไปด้วยความรุนแรง
เมื่อยามเย็นมาถึง หลิงฮันเดินเข้าไปในสถานที่ลับตาคนและหายตัวเข้าไปในหอคอยทมิฬ
“หืม เจ้าหนุ่มนั่นหายไปไหนแล้ว?” กระต่ายเบิกตากว้าง
“ตรงนั้น เขาเข้าไปในป่าแล้ว” ฮูหนิวกล่าว
กระต่ายยักษ์ไม่เชื่อ แต่หลิงฮันหายตัวไปแล้วจริงๆ นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก
หลังจากที่เข้าไปในหอคอยทมิฬ หลิงฮันเริ่มศึกษาขวดหลอมกลั่นอำมฤต
แคร๊ก แคร๊ก ขวดชั้นนอกเริ่มแตกและก้นขวดกำลังลอยอยู่ในอากาศกลับมาอยู่ในขนาดดั้งเดิมของมันและมีอักขระคมซับซ้อนราวกับดอกไม้เบ่งบาน ผู้คนคงจะลุ่มหลงเมื่อเห็นมัน
“นี่มัน!” หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจมาก