“ฮูหนิว มีใครบางคนมาขัดขวางเวลากินอาหารของพวกเรา พวกเราควรทำเช่นไรดี?” หลิงฮันยิ้มและพูดกับฮูหนิว
“ตบตีคนพวกนั้นให้หมด!” ฮูหนิวพูดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“แล้วหนิวอยากเป็นคนจัดการไหม?” หลิงฮันยิ้ม
“ได้!” ฮูหนิววางจานลงและเห็นทุกคนกำลังจ้องมองมาที่นาง ช่วยไม่ได้ที่หนิวจะพูดออกมาว่า “หรือว่าพวกเขาคิดที่จะแย่งอาหารของหนิว?” หลังจากคิดเช่นนั้น นางก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง “จะเป็นยังไงก็ช่าง เพราะมันไม่อร่อยอยู่แล้ว”
“นี่เจ้าหวาดกลัวถึงขั้นให้เด็กสาวตัวน้อยเป็นคนออกหน้าเลยรึ นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?” ชูเสี่ยวเทียนแสยะยิ้ม “เจ้าช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจยิ่งนัก!”
“ระวังให้ดี!” ฮูหนิวกระโจนออกไป พรึบ ร่างของนางกระพริบหายไป และปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าชูเสี่ยวเทียน จากนั้นนางปล่อยหมัดแสกกลางใบหน้าของชูเสี่ยวเทียน ทำให้โลหิตไหลออกมาจากจมูกของมัน
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของนาง ชายหนุ่มทุกคนรู้สึกตกตะลึง ความเร็วของเด็กสาวตัวน้อยคนนี้น่าอัศจรรย์มาก
“ถึงตาเจ้าแล้ว!” ฮูหนิวไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ ร่างของนางกลายเป็นลำแสงพุ่งเข้าไปในกลุ่มฝูงชน ปัง ปัง ปัง พวกมันถูกฮูหนิวจัดการทีละคนทีละคน
เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ ชายหนุ่มหลายสิบคนถูกฮูหนิวทุบตีและนอนกองลงบนพื้นทีละคน
ธิดาจิ่งยืนนิ่งราวกับถูกแช่แข็งและนางไม่เคยคิดเลยว่าเด็กสาวตัวน้อยคนนี้จะแข็งแกร่งขนาดนี้ และสามารถทุบตีผู้ติดตามของนางได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าผู้ติดตามของนางจะมีหลายคน แต่คนที่แข็งแกร่งมีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น มิฉะนั้นพวกเขาคงไม่มีคุณสมบัติถูกเชิญมายังที่นี่
พรสวรรค์ที่น่าหวาดกลัว เด็กสาวตัวน้อยนี่เป็นใครกันแน่?
การเคลื่อนไหวของฮูหนิวนั้นน่าทึ่งมาก คนอื่นที่เห็นมีหลายคนที่รู้สึกประหลาดใจ ในขณะที่มีบางคนเผยท่าสนใจ
“เทพธิดาหลิงมาถึงแล้ว!” หญิงสาวคนหนึ่งเหยียบย่างบนดอกบัว ร่างกายของนางนั้นสง่างามและพลิ้วไหว นางดูงดงามมาก ผิวของนางราวกับหยกขาวและผ้าไหมสีฟ้าราวกับน้ำตกที่ส่องแสงระยิบระยับ
นางกำลังเดินมาจากระยะไกล และผู้คนบนถนนล้วนเปิดทางให้นางเดินผ่าน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความลุ่มหลงและมึนเมากับความงาม
ความงดงามของนางเหนือกว่าธิดาจิ่ง
หลิงฮันจ้องมองไปที่นางและพูดว่า “เจ้าคือ–”
นางยิ้มให้กับหลิงฮันเล็กน้อย รอยยิ้มของนางเป็นเหมือนกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน แล้วพูดออกมาว่า “ข้ามีนามว่าหนงม่านม่าน ซึ่งข้าเองก็เป็นคนที่เชิญท่านมาที่นี่เหมือนกับน้องอีหยุน”
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “เจ้าเป็นพี่สาวหรือน้องสาวของหนงเสียหยุนงั้นรึ?”
“พี่สาว” หนงม่านม่านยิ้ม “ข้ามาที่นี่เพื่อพูดคุยกับน้องชายหลิงเกี่ยวกับขวดใบนั้น เจ้าพอจะปล่อยวางมันได้หรือไม่?”
“โอ้ว แค่ขวดใบนั้น ทำไมต้องให้ข้ามาที่นี่เพื่อพูดคุยด้วย?” หลิงฮันพูด “หรือว่าเจ้ากลัวว่าข้าจะไม่มีที่พักพิง? เทพธิดาม่านม่านช่างเป็นคนดีจริงๆ!”
ช่วยไม่ได้ที่หนงม่านม่านจะรู้สึกแปลกใจ นางไม่ได้เป็นห่วงหลิงฮัน แต่นางแค่อยากจะใช้งานเลี้ยงนี้กดดันหลิงฮัน แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะตั้งใจตีความผิด ดังนั้นนางจึงไม่รู้วิธีรับมือ
“เจ้าเด็กเหลือขอ นี่เจ้ากล้ามากที่จะใช้ประโยชน์เทพธิดาของพวกเรา!” ทันใดนั้นหลายคนส่งเสียงกรีดร้องออกมา พวกเขาเหล่านั้นต่างเป็นมังกรและนกฟีนิกซ์และปลดปล่อยพลังปราณออกมาเพื่อกดดันหลิงฮัน
“พวกเจ้ากล้าทำร้ายหลิงฮันของหนิวงั้นรึ?” ฮูหนิวโกรธเกรี้ยว
“ใช่แล้ว ทุบตีพวกมันเลย!” เจ้ากระต่ายส่งเสียงยั่วยุ ราวกับกลัวว่าโลกจะวุ่นวายไม่พอ
พรวด!
หลายคนน้ำลายแทบพุ่งออกมา สัตว์อสูรพูดได้เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างวุ่นวายเล็กน้อย และหนงม่านม่านรีบควบคุมสถานการณ์และพูดว่า “เจ้าไม่ปลอดภัย! น้องชายหลิง ข้าสนใจเจ้าขวดนั้นจริงๆ ถ้าน้องชายหลิงมอบมันให้กับข้า ม่านม่านจะไม่ปล่อยให้น้องชายหลิงต้องผิดหวัง”
“โอ้ว?” หลิงฮันเงยหน้ามองสำรวจเรือนร่างของหนงม่านม่านและยิ้ม “ตระกูลหนงขาดแคลนลูกสะใภ้หรือไม่?”
ทันใดนั้นสีหน้าของหนงม่านม่านดูหมอง ชายคนนี้บ้ามาก นี่เขาต้องการเป็นลูกเขยของตระกูลหนงงั้นหรือ?
“สามห้าว!” หนงเสียหยุนปรากฏตัวออกมาและชี้นิ้วใส่หลิงฮันขณะพูดว่า “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงอยากกินเนื้อหงส์!”
ผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงส่งเสียงหัวเราะออกมา หนงม่านม่านเป็นอัญมณีเม็ดงามของตระกูลหนง และตระกูลหนงเป็นตระกูลของนักปรุงยาระดับสวรรค์ ซึ่งเทียบได้กับจอมยุทธระดับทลายมิติ แล้วชายที่ต้องการแต่งงานเข้าตระกูลหนงจะต้องดีเลิศขนาดไหน?
“โอ้ว ตระกูลหนงนั้นสูงศักดิ์มาก แม้แต่หลิงฮันก็ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอย่างนั้นหรือ?” คำพูดดังกล่าวลอยออกมา จักรพรรดิพิรุณและมู่หลงชิงเดินมาพร้อมกัน
ผู้คนรอบข้างเผลอหลีกทางให้โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ผู้คนที่จะมาที่นี่ได้แน่นอนว่าจะต้องเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ แต่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณที่อยู่ที่นี่ที่สามารถปะมือกับจักรพรรดิพิรุณและมู่หลงชิ่งได้นั้นอาจไม่มี
จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณสองคนกำลังยืนอยู่ข้างหลิงฮันและยืนกอดอกด้วยท่าทางน่าเกรงขาม
จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ!
ในหมู่คนรุ่นเยาว์ที่เป็นจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวานั้นยังไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น ดังนั้นระดับตัวอ่อนวิญญาณถือเป็นที่สุดของหมู่คนรุ่นเยาว์แล้ว การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิพิรุณและมู่หลงชิ่งนั้นแผ่กระจายไปทั่ว แม้ว่าพวกเขาเพิ่งจะทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณ แต่พลังต่อสู้ของพวกเขานั้นมีอย่างน้อยเจ็ดหรือแปดดาว และพวกเขาสามารถต่อสู้กับคนรุ่นก่อนได้
“แม่นางม่านม่าน ถ้าเจ้าแต่งงานกับน้องชายหลิงของข้า ข้าจะมอบแร่เหล็กมังกรหิมะที่ข้าเพิ่งได้รับมาให้กับเจ้าเพื่อแสดงความยินดี!” มู่หลงชิงยิ้มและโยนเศษแร่เหล็กสีขาวที่มีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นให้นาง แต่มันทำให้หลายคนเบิกตากว้างด้วยความโลภ
แร่เหล็กมังกรหิมะนั้นเป็นอะไรที่หาได้ยาก เพราะมันมีความพิเศษ เมื่อใช้ผสมกับแร่เหล็กชนิดอื่นจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอาวุธ ดังนั้นถ้าเป็นอาวุธระดับเจ็ดจะสามารถต้านทานอาวุธระดับแปดได้
ขีดจำกัดคือระดับเจ็ด และเป็นไม่ได้ที่จะเปลี่ยนวัตถุดิบระดับแปดเป็นระดับเก้า
ดังนั้นทุกคนจึงเกิดความโลภ แม้ว่าเศษแร่เหล็กมังกรหิมะจะมีขนาดเท่ากำปั้น และถ้าใช้มันผสมกับแร่เหล็กระดับเจ็ด มันเพียงพอที่จะทำให้อาวุธยกระดับขึ้นเป็นระดับแปด ที่หลายคนส่วนใหญ่พึงพอใจ
หนงม่านม่านถอนหายใจ แต่ใบหน้าอันงดงามของนางกลายเป็นบูดบึ้ง นางเป็นถึงลูกหลานของนักปรุงยาระดับสวรรค์ แร่เหล็กมังกรหิมะจะ ‘ซื้อ’ นางได้อย่างไร?
“ฝันไปเถอะ!” นางกล่าว
หลิงฮันถอนหายใจและตบไหล่ของมู่หลงชิง แล้วพูดว่า “มู่หลง ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้พูดล้อเล่น เช่นนั้นข้าจะยกนางให้เจ้าและช่วยเจ้าพูดคุยเกี่ยวกับงานแต่งงานครั้งนี้เอง แต่คนอื่นยังไม่ยอมรับในตัวเจ้าเลย”
“หืม ข้าหรือ?” มู่หรงชิงชี้ตัวเองและเผยสีหน้าตกใจ จากนั้นเขารีบส่ายหัวอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ข้าไม่ได้สนใจนาง!”
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องเขินอาย เจ้าจะสนใจหรือไม่นั้นก็ต่อเมื่อข้าพูดว่าไม่!”
มันดีจริงๆหรือที่จะเล่นกับคนแบบนี้?
ดวงตาของหนงม่านม่านแดงก่ำ และสีหน้าของนางไม่ค่อยดีนัก ในอีกด้านหน้าซั่วเฉียวเล่อเองก็เข้ามาช่วย และรีบวิ่งเข้าไปล้อมพวกหลิงฮัน
“เจ้าชักจะมากเกินไปแล้ว!”
“แต่พวกเราจะมองข้ามจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณสองคนไปได้อย่างไร?”
ทุกคนจ้องมองไปที่หลิงฮันอย่างเย็นชา ครั้งนี้มีอัจฉริยะระดับแนวหน้าหลายคนได้รับเชิญให้เข้าร่วมสำนักสวรรค์ ทันทีที่พวกเขามาถึงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการหลิงฮัน
ซู่ ซู่ ซู่ เสียงน้ำดังขึ้นอย่างกะทันหัน ราวกับว่ามันเป็นเสียงของนางฟ้าที่ทำให้เปลวเพลิงแห่งความโกรธของทุกคนสงบลง