“ยอดเยี่ยม เป็นเมล็ดพันธ์ที่ยอดเยี่ยม!” ชายชราร่างแกร่งดวงตาเปิดกว้างและเผลอปรบมือทันที ส่วนอัจฉริยะที่ตายไปน่ะรึ? ช่างมันสิ
สิ่งที่สำนักนี้ไม่ขาดแคลนคืออัจฉริยะ และการที่ถูกสังหารด้วยหนึ่งกระบวนเช่นนั้นก็หมายถึงเขาไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมกับสำนักสวรรค์
“สาวน้อย เจ้าชื่ออะไร?” ชายชราคนนี้ดูแข็งแกร่งและหล่อเหลา เขาคือผู้รับศิษย์ของนิกายกระบี่ไร้เทียมทาน กั้วเหลียงไฉ ด้วยพลังบ่มเพาะระดับก้าวสู่เทวาของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยี้รุ่นเยาว์แห่งยุคสมัยนี้
เขามองไปยังฮูหนิวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล ถ้าไม่ใช่เพราะพลังบ่มเพาะของเขายังต่ำเกินไป เขาคงจะรับฮูหนิวเป็นศิษย์แล้ว
แต่เด็กสาวอัจฉริยะที่มีอายุเพียงหกหรือเจ็ดปีและบ่มเพาะพลังมาถึงระดับตัวอ่อนวิญญาณด้วยตนเองได้เช่นนี้ เขาจะมีคุณสมบัติพอจะสอนนางรึ? เกรงว่าคงมีแต่ผู้นำนิกายหรือไม่ก็เหล่าผู้อาวุโสสูงสุดเท่านั้นถึงจะมุณสมบัติพอ
“ข้าชื่อฮูหนิว หนิวเป็นของหลิงฮัน!” ฮูหนิวพูดและวิ่งกลับไปหาหลิงฮันพร้อมกับจับมือของเขาด้วยท่าทีไร้เดียงสา
สายตาของกั้วเหลียงไฉกวาดผ่านหลิงฮันและตัดสินใจทันที ถ้าพรสวรรค์ของหลิงฮันไม่น่าเป็นที่พอใจ เขาจะสังหารหลิงฮันเพื่อนำตัวฮูหนิวมา เมล็ดพันธ์เช่นนางไม่อาจใช้อย่างเสียเปล่า!
ยิ่งกว่านั้นคืออายุของนางยังน้อย การล้างสมองจึงทำได้ไม่ยาก
ฮูหนิวกลับไปทดสอบอายุกระดูกอีกครั้ง ซึ่งศิษย์แต่ละคนก็ปฏิบัติต่อนางด้วยเคารพอย่างมาก ฮูหนิวได้รับความรักจากจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวา ตราบใดที่พวกเขาไม่โง่ พวกเขาย่อมรู้ดีว่าอนาคตของฮูหนิวจะรุ่งโรจน์ขนาดไหน
พวกเขาจะทำได้เพียงแหงนหน้าจ้องมองนาง
“อายุกระดูกอยู่ในช่วงเจ็ดปีและยังไม่เกินแปดปี!” อายุกระดูกถูกทดสอบอย่างรวดเร็ว ฮูหนิวรู้สึกไม่พอใจมากที่ต้องถูกเข็มตรวจสอบอายุกระดูกทำให้รู้สึกเจ็บนิดๆ นางจ้องเขม็งไปยังศิษย์ที่ทำการตรวจสอบกระดูกจนทำให้เหล่าศิษย์หวาดกลัว
หลิงฮันเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาไม่คาดคิดเลยว่าฮูหนิวจะทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณแล้ว ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของนางเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
หลิงฮันก้าวออกมาพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายของระดับตัวอ่อนวิญญาณออกมาเล็กน้อยเพื่อยืนยันถึงคุณสมบัติในการตรวจสอบอายุกระดูก ณ ตอนนี้เขาเปลี่ยนรูปลักณ์ให้กลับเป็นปกติแล้ว ในเมื่อเขาตัดสินใจจะทำการเปิดสวรรค์ เขาจึงต้องเปิดเผยใบหน้าของตัวเองให้คนอื่นจดจำในอนาคต
นักปรุงยาระดับสวรรค์ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เป็นที่ยำเกรง
“ได้โปรดนำแขนออกไปด้วย” เพื่อที่จะไม่ทำให้ฮูหนิวโมโห ศิษย์ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบกระดูกจึงใช้คำว่า ‘ได้โปรด’
การปรากฏตัวของฮูหนิวทำให้พวกเขารู้สึกตัวว่าสวรรค์และปฐพีนั้นกว้างใหญ่ขนาดไหน และยังมีสุดยอดอัจฉริยะเช่นนางอยู่
“ห้ามไร้มารยาทกับหลิงฮันของหนิวด้วย” ฮูหนิวยังคงไม่พอใจ นางปล่อยหมัดเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างดุร้าย
ศิษย์คนนั้นล้มลงไปที่พื้นทันที เขารู้สึกราวกับว่าตนเองถูกอุ้งเท้าของสัตว์อสูรจู่โจมเข้าใส่
ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ใช่มนุษย์!
หลิงฮันยิ้มและพูด “เอาล่ะ เลิกสร้างปัญหาได้แล้ว!”
ฮูหนิวยิ้มและจ้องมองหลิงฮันอย่างไร้เดียงสา
หลิงฮันยื่นมือออกไป ศิษย์คนนั้นเช็ดเหงื่อบนใบหน้าและลุกขึ้นมาพร้อมกับถือเข็มสีทองเอาไว้ในมือ เขายังคงรู้สึกหวาดกลัวฮูหนิวจนมือที่ถือเข็มสั่นไปมา
เขาพยายามทำใจให้สงบและแทงเข็มลงไปยังแขนของหลิงฮัน แต่ถึงอย่างนั้นเข็มสีทองกลับไม่สามารถทะลุผ่านผิวของหลิงฮันเข้าไปได้
“อย่าใช้พลังก่อเกิดต้านทานเข็ม…” ศิษย์คนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย แต่ทันทีที่เขายังไม่ทันพูดจบ ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นขาวซีด
ไม่ปกติแล้ว ไม่ว่าจะมองยังไงร่างของหลิงฮันก็ไม่ได้ถูกป้องกันไว้ด้วยปราณก่อเกิด แต่ทำไมผิวหนังของหลิงฮันถึงได้หนาขนาดนี้ แม้แต่เข็มทดสอบกระดูกก็ไม่สามารถทะลุผ่านเข้าได้
เข็มทดสอบกระดูกนั้นคือเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทดสอบอายุกระดูก มันสามารถแทงทะลุผิวหนังของจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณได้อย่างง่ายดาย
เข็มทดสอบกระดูกไม่สามารถทะลุผ่านผิวหนังหลิงฮันได้ทั้งๆที่ไม่ได้โคจรปราณก่อเกิดเพื่อป้องกัน มันเป็นไปได้อย่างไร?
“เร็วๆเข้าสิ เจ้าจะเอาเข็มทิ่มหลิงฮันไปถึงเมื่อไหร่?” ฮูหนิวรู้สึกไม่พอใจ
ศิษย์ที่เคยโดนฮูหนิวทำร้ายกลายเป็นกระวนกระวายจนมือสั่น
“ไร้ประโยชน์จริงๆ!” กั้วเหลียงไฉก้าวออกมาและผลักศิษย์คนนั้นกระเด็น เขาคว้าเข็มทองคำมาและทิ่มลงไปที่มือหลิงฮัน
‘ปัก!’
เข็มทองคำทิ่มลงไปและหดลง
แทงเข้าไปแล้ว?
ไม่ใช่!
กั้วเหลียงไฉตกตะลึง ที่เข็มสั้นลงนั้นไม่ใช่เพราะมันทะลุเข้าผิวหนังของหลิงฮัน แต่เป็นเพราะพลังของกั้วเหลียงไฉนั้นมากเกินไปบวกกันผิวหนังที่ทนทานของหลิงฮัน เข็มก็เลยเบี้ยวจนทำให้รู้สึกเหมือนแทงเข้าไปแล้ว
นี่มันไม่ปกติแล้ว!
ผู้คนรอบข้างที่เคยหัวเราะเยาะศิษย์คนเมื่อครู่กลายเป็นชะงักจนหัวเราะไม่ออก
ช่างเป็นร่างกายที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ แม้แต่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวายังแทงเข็มไม่เข้า
“ข้าจัดการเอง” หลิงฮันกล่าวและนำดาบกำเนิดมาออกมากรีดมือตนเองจนมองเห็นกระดูก
กั้วเหลียงไฉจ้องมองอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะทิ่มเข็มลงไปสัมผัสกับกระดูกของหลิงฮัน ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความตกตะลึง “อายุประมาณสิบเก้าปี ไม่เกินไปกว่ายี่สิบปี!”
ข้าปวดหัวไปหมดแล้ว!
ผู้คนที่อยู่รอบข้างตกตะลึงไปตามๆกัน สัตว์ประหลาดปรากฏตัวอีกคนแล้ว ถึงแม้จะไม่เท่าฮูหนิวในด้านพลังบ่มเพาะ แต่ในด้านกายหยาบหลิงฮันเหนือกว่าฮูหนิวมากนัก
หลิงฮันเก็บดาบกำเนิดมาร เขาไม่จำเป็นต้องโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ เพราะกายาเพชรนั้นได้สลักพลังของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ไปยังโลหิตและกล้ามเนื้อทุกส่วนของหลิงฮันแล้ว บาดแผลของเขาฟื้นฟูเองอย่างรวดเร็วจนมองไม่เห็นกระดูกอีกต่อไป ราวกับว่าเขาไม่เคยโดนดาบเฉือนมาก่อน
สิ่งนี้ทำให้ผู้คนอ้าปากค้างอีกครั้ง
แล้วพวกเขาจะสู้หลิงฮันได้อย่างไร?
กายหยาบของเขาเหนือกว่าขีดจำกัดของระดับตัวอ่อนวิญญาณไปแล้ว คงมีอัจฉริยะไม่กี่คนที่สามารถสร้างความเสียหายให้เขาได้ แต่สิ่งสำคัญก็พลังฟื้นฟูของหลิงฮัน เขาคือผู้ไร้พ่ายในระดับพลังเดียวกัน