สำหรับหลิงฮัน นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย
กายหยาบของเขาแข็งแกร่งมาก ถ้าเขาเปรียบเหมือนภูเขา แล้วสายลมพวกนี้จะพัดเขาปลิวได้อย่างไร? และเขาก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างมั่นคง
“การทดสอบรอบที่สองคือการเก็บรวบรวมก้อนหิน ยิ่งเก็บรวบรวมได้เยอะยิ่งดี”
“อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่สามารถมาถึงการทดสอบรอบที่สองได้ภายในสามวัน แม้จะมาช้าแต่ก็ไม่เป็นไร เพียงแค่ปล่อยให้คนอื่นเก็บรวบรวมไปก่อน แล้วค่อยแย่งชิงก็ทำได้เช่นกัน”
“การต่อสู้ย่อมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ข้ารู้สึกสนใจกระแสพลังปราณที่ปรากฏอยู่ที่นี่มาก มันน่าจะเป็นแก่นรูปแบบอาคมที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”
“ถ้าข้าได้รับแก่นรูปแบบอาคมมาล่ะก็…มันไม่เลวเลย”
“ถ้างั้นตัดสินใจตามนั้น”
หลิงฮันเดินค้นหาแก่นรูปแบบอาคมพร้อมกับสาวงามทั้งสองคน
ที่นี่ไม่มีสมุนไพรเลยแม้แต่ต้นเดียว มันเป็นเพียงแค่ป่าธรรมดาเท่านั้น ดังนั้นทุกคนจึงสนใจแค่การก้าวเดินไปข้างหน้าโดยไม่สนใจเรื่องสมุนไพร เมื่อผู้คนเห็นหลิงฮันเดินมาพร้อมกับหญิงสาวสองคนในอ้อมแขนของเขาอย่างผ่อนคลาย ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกตกใจ
บนเส้นทางมีการไหลเวียนของกระแสพลังปราณที่รุนแรง ปัดเป่าพวกเขาเหมือนคนธรรมดาทั่วไป การก้าวเดินแต่ละก้าวนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่เขากลับโอบหญิงสาวสองคนไว้ในอ้อมแขนด้วยท่าทีผ่อนคลายและเดินอย่างสบายใจ มันทำให้พวกเขาอย่างจะร้องไห้ออกมา
แม้แต่สุดยอดอัจฉริยะอย่างเหวินเหรินเชียนเชียนและจ้าวจื่อหยวนยังรู้สึกตกใจ
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับคำเชิญโดยตรงจากสำนักสวรรค์ แต่พวกเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเองเต็มเปี่ยม
ในตอนนี้พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน
แต่ทว่าพวกเขาไม่ได้ทำให้คนอื่นรู้สึกประหลาดใจ แต่เป็นพวกเขาเองที่เป็นฝ่ายประหลาดใจ
“เขาน่าจะฝึกฝนเทคนิคปฐพีประเภทแรงโน้มถ่วงเลยทำให้ศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงมั่นคงขนาดนั้น” เมื่อผู้คนได้ยินคำพูดของเหวินเหรินเชียนเชียนกล่าว ทำให้ความคิดที่อยู่ในใจของพวกเขาถูกปัดเป่าออกไป
หลิงฮันไม่ได้สนใจคนอื่นมากนัก เขาวิ่งข้ามภูเขาและในที่สุดก็พบแก่นรูปแบบอาคมอันแรกที่ขอบด้านนอกภูเขา
มันเป็นธงที่มีความสูงเท่าคน ส่วนเสาธงทำมาจากโลหะสีดำและมีอักขระสลักอยู่ และมีราชสีห์สยายปีกกางกรงเล็บอยู่บนธง
“อะไรกัน?” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ อักขระถูกจารึกบนเสาธงดูปกติ และธงที่ดูไม่มีอะไรแต่กลับมีบทบาทสำคัญ น่าเสียดายที่หลิงฮันไม่อาจเข้าใจความลึกลับนี้ได้
“เจ้าสิงโตตัวนี้เหมือนมีชีวิตเลย!” ฮูหนิวชี้ไปที่ธงและพูด
หลิงฮันตกตะลึง บทบาทของรูปแบบอาคมคือการรวบรวมพลังแห่งสวรรค์และปฐพี และธงนี่ดูเหมือนจะแสดงพลังของมันออกมาและสร้างสายลมที่รุนแรงพัดใส่ภูเขา
“ข้าต้องการมัน!”
หลิงฮันเอื้อมมือหยิบธง แต่ทันใดนั้น สิงโตตัวนั้นปรากฏตัวออกมาจากธงและกลายเป็นสิงโตที่มีขนาดห้าฟุตสยายปีกออกมาและก่อให้เกิดสายลมที่รุนแรง
“สิงโตตัวน้อยเข้ามาในชามเร็ว!” ฮูหนิวหยิบหม้อและกระทะออกมาพร้อมกับน้ำลายที่ไหลยืด
“แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่พลังของมันเป็นของจริง!” หลิงฮันจ้องมองด้วยความประหลาดใจ สิงโตตัวนั้นเกิดขึ้นจากธงที่รวบรวมพลังของสวรรค์และปฐพี แต่ก็มีร่องรอยของเลือดก่อนที่มันจะตาย
มันน่าจะเกิดขึ้นมาจากเลือดของสิงโต ดังนั้นสิงโตที่เกิดขึ้นมาจากภาพลวงตานี่จึงดูเสมือนจริงมาก ราวกับว่ามันมีสัตว์อสูรอยู่เบื้องหน้าพวกเขาจริง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฮูหนิวถึงน้ำลายไหลอย่างกับสายน้ำ
“เอาล่ะ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องจัดการเจ้าก่อน!” หลิงฮันยิ้มและเริ่มโจมตีใส่สิงโตมีปีก
หลิงฮันแข็งแกร่งมาก เขาสร้างรัศมีดาบขึ้นมาและมีสายฟ้าพันอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ใช้ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์อย่างอื่นเพิ่ม แต่แค่นี้พลังต่อสู้ของเขาก็เกินกว่าระดับตัวอ่อนวิญญาณแล้ว และเป็นเรื่องจากที่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาจะทำร้ายเขา
สิงโตมีปีกมีพลังต่อสู้แค่ระดับตัวอ่อนวิญญาณขั้นสูงเท่านั้น แลัวมันจะรับมือกับหลิงฮันได้อย่างไร?
“เจ้าสิงโตน้อย จงเชื่อฟังข้า!” หลิงฮันหัวเราะและสะบั้นรัศมีดาบไปที่ปีกของมัน
ฉึก!
สิงโตมีปีกถูกตัดเป็นสองส่วนด้วยรัศมีดาบ แน่นอนว่าไม่มีโลหิตสาดกระเซ็นออกมาแต่อย่างใด เพราะมันเป็นการรวบตัวกันจากพลังของสวรรค์และปฐพี และร่างทั้งสองส่วนของมันพยายามที่จะกลับมารวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง แต่ก็ไร้ประโยชน์
การโจมตีของหลิงฮันทำลายล้างลึกเข้าไปถึงไขกระดูก แม้มันจะถูกตัดออกเป็นสองส่วนไปแล้ว แต่พลังทำลายล้างของหลิงฮันยังคงดำเนินต่อไปเหมือนกับลูกโซ่
“พี่ชายฮัน ท่านแข็งแกร่งขึ้นมากเลย!” จูเสวี่ยนเอ๋อมองเขาด้วยแววตาที่งดงาม ยิ่งชายที่นางรักแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหน นางยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
หลิงฮันยกมือขึ้นมาและสัมผัสใบหน้าของนางแล้วพูดว่า “อย่าโปรยเสน่ห์ใส่ข้ามากเกินไป!” เสน่ห์ของนางเกือบทำให้หลิงฮันสติหลุด
“ฮึ่ม!” ฮูหนิวรู้สึกไม่พอใจ นางกอดอกและบุ้ยปาก
หลิงฮันเดินเข้าไปเก็บธงอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่มีสิงโตมีปีกปรากฏตัวออกมาเพื่อหยุดเขาอีกต่อไป เขาดึงธงขึ้นมาและทันใดนั้นสายลมที่พัดโหมกระหน่ำบนภูเขาแห่งนี้เริ่มอ่อนแอลงขึ้นมาทันที
ที่นี่มีธงมากกว่าหนึ่งธง แต่ไม่มีใครรู้วงธงผืนอื่นนั้นอยู่ที่ไหน ดังนั้นการได้รับธงผืนแรกมาถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก
“เสวี่ยนเอ๋อ ธงผืนนี้เหมาะกับเจ้า” หลิงฮันโยนธงให้กับจูเสวี่ยนเอ๋อ ซึ่งมันไร้ประโยชน์สำหรับเขา
“ขอบคุณ” จูเสวี่ยนเอ๋อรู้สึกมีความสุขมาก ตราบใดที่เป็นของที่หลิงฮันให้นางมา ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็สามารถทำให้นางรู้สึกมีความสุขได้
“หนิวเองก็อยากได้!” ฮูหนิวเปิดปากพูด
“ถ้างั้นไปหาธงผืนอื่นกันเถอะ” หลิงฮันยิ้ม
จากสีหน้าที่ไม่พอใจของฮูหนิวดูมีความสุขขึ้นมาทันที เมื่อถูกเกลี้ยกล่อม
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน พวกเขาก็พบธงผืนที่สอง และหลิงฮันมอบมันให้กับฮูหนิว จึงทำให้เด็กสาวตัวน้อยรู้สึกมีความสุขมาก แต่หลังจากเล่นได้ไม่นาน นางก็รู้สึกว่ามันไร้ความหมาย นางจึงโยนมันลงบนพื้นและหมดความสนใจ
จูเสวี่ยนเอ๋อจึงหยิบธงผืนนั้นขึ้นมา ธงผืนนี้สามารถยับยั้งจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณทั่วไปได้ ถ้าปักไว้ที่ภูมิภาคเหนือมันจะเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก
พวกเขาทั้งสามคนยังคงออกเดินทางต่อ เมื่อพวกเขาเห็นธงผืนอื่น พวกเขาก็จะเก็บมันเอาไว้
“หืม ทำไมพลังของสายลมที่แปลกประหลาดนี่ถึงอ่อนแรงลงขนาดนี้?”
“ใช่แล้ว ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของลมก็น้อยลง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ามีความมั่นใจขึ้นมาแล้วว่าจะไปถึงหุบเขาผนึกภูติภายในสามวัน”
ผลที่ตามมาจากการกระทำของหลิงฮันทำให้ความยากลำบากของการทดสอบลดลงอย่างมาก เมื่อผู้อาวุโสของสำนักสวรรค์ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นใบหน้าของพวกเขาถึงขั้นบิดเบี้ยวเป็นสีเขียว