แม้ว่าอี้ชวงชวงจะค่อนข้างลึกลับ แต่ความแข็งแกร่งของนางนั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้ ดังนั้นหลิงฮันและคนอื่นเลยไม่อยากมีปัญหากับนาง
ทั้งสองฝ่ายยังคงกินกันต่อไป แต่คนอื่นภายในร้านไม่กล้าที่จะมองนางอีกต่อไป และมีโอกาสมากที่พวกเขาจะถูกนางฆ่าตาย
แม้ว่าสาวงามจะเป็นอาหารตาที่ดี แต่หากมองมากไปอาจเป็นสาเหตุของการตาย แน่นอนว่าไม่มีใครอยากโดนเช่นนั้น
ฮูหนิวรู้สึกไม่สบอารมณ์ขณะกินอาหาร นางจ้องมองไปที่อี้ชวงชวงด้วยดวงตากลมโต และปากเล็กๆของนางส่งเสียงพึมพำไม่พอใจออกมาไม่หยุด
อย่างไรก็ตาม อี้ชวงชวงก็ไม่ได้สนใจ และบางครั้งนางก็สบตากับหลิงฮันและฮูหนิวเห็นได้ชัดว่านางสนใจทั้งสองคนมาก
หลิงฮันรู้สึกสงสัย เหมือนว่าเขาจะเคยเห็นนางมาก่อน แต่จำไม่ได้ นอกจากนี้ ถ้าอีกฝ่ายต้องการแย่งชิงสมบัติของเขา ทำไมถึงไม่เริ่มลงมือสักที?
บรรยากาศดูเหมือนจะหนาวเย็นเล็กน้อย ทุกคนไม่พูดคุยกันอีกต่อไป ทำให้บรรยากาศภายในร้านเริ่มเงียบงัน
แต่หลังจากนั้นชั่วครู่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก
หลิงฮันและคนอื่นไม่สนใจ แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เผยสีหน้าแปลกใจ เพราะด้านนอกเสียงดังมาก พวกเขาจึงมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง
พวกเขาเห็นผู้คนหลายพันคนเดินอยู่บนถนนอย่างเชื่องช้าไปตามถนน และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังแบกอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งนั่นคือรถลากขนาดใหญ่
รถลากนั่นมีขนาดใหญ่โตมาก มันดูใหญกว่าถนนเสียอีก คนพวกนั้นคือคนที่รื้อถอนบ้านตามถนนเพื่อให้รถลากผ่านไปได้อย่างราบรื่น
รถลากคันนั้นมีธงของจักรวรรดิจันทราม่วงประดับอยู่ ด้วยสายลมที่โบกสะบัดธงทำให้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่
ใครบางคนที่เป็นผู้รับผิดชอบกล่าวว่า “เจ้าของบ้านโปรดมากับข้าเพื่อไปที่พระราชวังจักรพรรดิเพื่อรับเงินชดเชย พวกข้ายินดีที่จะจ่ายเงินชดเชยให้มากกว่ามูลค่าบ้านของพวกเจ้าสามเท่า และจะไม่ปฏิบัติกับพวกเจ้าอย่างไม่สุภาพ”
ทันทีที่มีการกล่าวเช่นนั้น เจ้าของบ้านที่ถูกบังคับให้ย้ายออกไปต่างดีอกดีใจและยกย่องอ้วนหม่า
“หืม!” เฟิงโป๋วหยุนจ้องมองไปที่รถลาก “ดูนั่น” เขาพูดออกมาอย่างกะทันหัน
“มันไม่เห็นมีอะไรให้ดูเลย ก็แค่เด็กที่ถูกผนึกมาหลายปีก็แค่นั้น” อี้ชวงชวงพูดแทรก ขณะจ้องมองไปที่ฮูหนิว “นี่เด็กน้อย มาหาข้าและเคารพพี่สาวคนนี้ในฐานะอาจารย์ของเจ้าซะสิ”
นางยังคงตามตื้อ
“ฮึ่ม!” ฮูหนิวแลบลิ้นใส่และทำหน้าบูดบึ้ง จากนั้นนางก็ไปหลบอยู่ด้านหลังหลิงฮัน
“เด็กสาวตัวน้อย วันหนึ่งเจ้าจะเรียกข้าว่าท่านอาจารย์!” หยุนชวงชวงยิ้มและดูมั่นใจ
หลิงฮันตามเฟิงโป๋วหยุนพร้อมกับจูเสวี่ยนเอ๋อออกไปดูรถลาก
ตลอดเส้นทางบนถนน บ้านหลายหลังถูกรื้อถอนออกไปเพื่อให้รถลากที่กำลังมุ่งหน้าไปที่พระราชวังผ่านไปได้
“พี่ใหญ่ ท่านพบอะไรงั้นหรือ?” หลิงฮันถาม
เฟิงโป๋วหยุนชี้ไปที่รถลากและพูดว่า “ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังจากที่นั่น แต่ดูเหมือนกลับว่าไม่มีอะไรอยู่ด้านใน มันดูแปลกประหลาดมาก”
มันจะต้องมีอะไรบางอย่างที่ทรงพลังอย่างแน่นอนถึงทำให้เฟิงโป๋วหยุนพูดออกมา
หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “หรือว่าอ้วนหม่าจะอยู่ด้านในนั้น?”
เมื่อรถลากมาถึงทางประตูพระราชวัง ในที่สุดมันก็หยุดเคลื่อนที่
พวกของหลิงฮันทั้งสี่คนกำลังยืนอยู่บนยอดตึกสูงเพื่อดู แต่สักพักก็มีกลิ่นหอมลอยโชยออกมา อี้ชวงชวงเองก็ขึ้นมาเหมือนกัน เส้นผมสีแดงของนางพริ้วไหวอยู่ในสายลมเหมือนกลีบดอกกุหลาบ มันดูงดงามอย่างมาก
“นี่ท่านจะอยู่ห่างจากพวกข้าไม่ได้เลยหรือไง?” หลิงฮันกล่าว
“ข้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของข้า หรือเจ้าจะมีปัญหา?” หยุนชวงชวงกล่าวและเอามือเท้าเอว
“น่าเกลียด!” ฮูหนิวไม่พอใจ
“หืม อ้วนหม่าออกมาแล้ว!” หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ เพราะเขาเห็นหม่าตั๋วเป่าเดินออกมาจากพระราชวัง ซึ่งนั่นหมายความว่าคนที่อยู่ในรถลากไม่ใช่อ้วนหม่า
อ้วนหม่าในตอนนี้แตกต่างจากแต่ก่อนอย่างมาก เขาสวมเสื้อคลุมลายมังกรและสวมมงกุฎ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่เด็ดขาด
ด้านหลังของอ้วนหม่ามีกลุ่มคนขนาดใหญ่คอยติดตามรับใช้เขา
หม่าตั๋วเป้าหันไปมองในทิศทางที่กลุ่มของหลิงฮันทั้งห้าคนที่กำลังยืนอยู่และปรากฏรอยยิ้มอยู่ตรงมุมปากของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นพวกหลิงฮันแล้ว แต่ไม่แสดงท่าทีอะไร และพูดว่า “ยินดีต้อนรับราชินีหยินผู้ยิ่งใหญ่!”
“ยินดีต้อนรับราชินีหยินผู้ยิ่งใหญ่!” ทุกคนเปล่งเสียงตะโกน
ประตูรถลากเปิดออก มันไม่มีคนออกมาแม้แต่คนเดียว แต่เป็น…โลงศพ!
นี่คือโลงศพหยก มันโปร่งแสงและสามารถมองเห็นหญิงสาวชุดแดงนอนอยู่ด้านใน แต่ไม่อาจมองเห็นได้ชัดมากนัก
หลิงฮันรู้สึกตกใจเล็กน้อย หม่าตั๋วเป้าออกมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่นับร้อยคนเพื่อพบกับคนตาย? ไม่มีทาง เฟิงโป๋วหยุนบอกว่าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลัง นางน่าจะยังไม่ตาย แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนไม่มีตัวตน
หม่าตั๋วเป้าเดินเข้าไปใกล้และพูดว่า “เปิดโลงศพ”
นี่ค่อนข้างดูไร้ยางอายเล็กน้อย นี่เขาเป็นโจรขโมยหลุมศพหรือไง?
มีชายชราสี่คนสวมหมวกทรงสูงสีขาวพร้อมกับหนวดเครายาวปรากฏตัวออกมา พวกเขาดูเหมือนคนที่อุทิศตน พวกเขาเดินเข้าไปล้อมรอบโลงศพหยก และวางมือลงบนโลงศพ
ด้วยการกระทำของพวกเขา เส้นโลหิตบนร่างกายของนางส่องแสงขึ้นมาทันที และทำให้โลงศพส่องแสงสว่า
หลิงฮันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ภายในโลงศพมีอายุประมาณยี่สิบปี ดวงตาของนางปิดสนิทดูเหมือนว่านางกำลังหลับอยู่ นางเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก ริมฝีปากของนางมีสีแดงเหมือนเปลวเพลิง เส้นผมสีดำเหมือนหมึก และมีผิวที่ขาวเนียน
อย่างไรก็ตาม ด้านในโลงศพดูเหมือนจะเต็มไปด้วยของเหลวบางอย่างไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาราวกับว่ามีชีวิต ซึ่งดูแปลกประหลาดมาก
หลังจากเวลาผ่านไปนาน หลิงฮันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังจากภายในโลงศพ แต่มันก็หายไปทันที
เขารู้สึกแปลกใจมาก ถ้าจอมยุทธจงใจลบกลิ่นอายของตัวเอง กลิ่นอายของพวกเขาก็จะหายไป ดังนั้นถ้าอีกฝ่ายต้องการที่จะลบกลิ่นอายของตัวเอง มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่กลิ่นอายจะเล็ดลอดออกมา แต่ถ้านางอยู่ในสภาวะปกติก็ควรที่จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของนางเป็นครั้งคราว
นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก!
หลังจากที่นักบวชทั้งสี่คนสวดอยู่เป็นเวลาเกือบครึ่งวัน โลงศพหยกทั้งโลงศพก็ถูกปกคลุมด้วยอักขระและส่องแสงสว่างไสว
หม่าตั๋วเป้าเดินไปข้างหน้าและพูดออกมาอีกครั้งว่า “ยินดีต้อนรับราชินีหยินผู้ยิ่งใหญ่!”
“ยินดีต้อนรับราชินีหยินผู้ยิ่งใหญ่!” ทุกคนเปล่งเสียงตะโกนออกมาอีกครั้ง
นักบวชนักสี่คนยกฝาโลงศพ และของเหลวบางอย่างก็พุ่งออกมาจากโลงศพราวกับน้ำที่ระเหยและหายไปอย่างรวดเร็ว
ฝาโลงศพถูกเปิดออกและถูกวางไว้ด้านข้าง
ทันใดนั้น หญิงสาวที่อยู่ในโลงศพก็ลืมตาขึ้นมาทันที