หลายคนรู้สึกอิจฉาและคลั่งไคล้ หญิงสาวที่งดงามคนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความงามเท่านั้น แต่ยังมีความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเปรียบ แม้กระทั่งสิงโตระดับทลายมิติยังต้องยอมจำนน
การที่จะทำแบบนั้นได้ พวกเขายังต้องการอะไรอีกในชีวิตหรือไม่?
“น้องชาย จงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ!”
“เคารพราชินีของพวกเราเสีย!”
แม้ว่าคนอื่นจะรู้สึกอิจฉาอยู่ในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะปริปากพูดออกมา แค่บรรยากาศก็หายใจได้ยากลำบากแล้ว แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอย่างมากที่เหล่าทหารต่างส่งเสียงให้กำลังใจหลิงฮันทีละคนทีละคน
ตอนนี้พวกเขายังคงเป็นทหารอยู่ แต่พวกเขากลับแกล้งทำเป็นกลุ่มคนตาบอด!
หลิงฮันพูดไม่ออก คนพวกนี้เป็นอะไรกันแน่?
ราชินีหยินแกล้งทำเป็นไม่มีความสุขและพูดว่า “พวกเจ้าพยายามที่จะก่อกบฎ?”
“มิกล้า!”
“พวกข้าแค่หาชายที่เหมาะสมที่จะแต่งงานให้ท่านก็แค่นั้น!”
“ข้ารู้สึกร้อนใจแทนราชินีของข้า ดังนั้นข้าแค่หาคนนอกที่เหมาะสมให้กับท่าน!”
“ใช่แล้ว พวกเราเห็นน้องชายคนนี้ไม่ธรรมดา เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์น่าทึ่งมาก”
เหล่าทหารต่างส่งเสียงพูดออกมา พวกเขาแต่ละคนดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“หนิวไม่อนุญาตให้ใครแย่งหลิงฮันไปจากหนิวทั้งนั้น!” ฮูหนิวหยุดกินและรีบมายืนอยู่ด้านหน้าของหลิงฮันอย่างรวดเร็ว นางจ้องมองไปที่เหล่าทหารนับร้อยคนด้วยสีหน้าดุดัน
เหล่าทหารต่างส่งเสียงหัวเราะออกมา พวกเขาไม่รู้สึกหวาดกลัวต่อสีหน้าที่ดุดันของฮูหนิวเลยแม้แต่คนเดียว
“โอ้ว ราชินีของข้าพบศัตรูทางด้านความรักเสียแล้ว!”
“รักสามเศร้า!”
พวกเขาเริ่มเปิดปากพูดอีกครั้ง
ราชินีหยินเองก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเช่นกัน นางขี่สิงโตและพูดว่า “หยุดไร้สาระกันได้แล้ว สถานที่แห่งนี้สำคัญมากและไม่อาจตกอยู่ในมือของผู้ใดได้”
“ขอรับ!” เหล่าทหารนับร้อยส่งเสียงตะโกนออกมาพร้อมเพรียงกัน แล้วกลับมามีท่าทีเคร่งขรึมอีกครั้ง
หลิงฮันรู้สึกว่าถ้าพวกเขากระจัดกระจายกัน เขามั่นใจว่าจะจัดการอีกฝ่ายได้ทั้งหมด แต่ถ้าต้องต่อสู้กับพวกเขาพร้อมกัน มีเพียงแค่ความพ่ายแพ้เท่านั้นที่รออยู่
จากนั้นพวกเขาทะยานขึ้นไปในอากาศ และความแข็งแกร่งของจอมยุทธระดับสวรรค์ก็ถูกปลดปล่อยออกมา มันน่าสะพรึงกลัวมาก
ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวและไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า แม้แต่ดวงวิญญาณของพวกเขาก็ยังต้องสั่นไหว มันดูเหมือนกับว่าพวกเขากำลังถูกปลายหอกนับไม่ถ้วนชี้ใส่
ราชินีหยินขี่สิงโตมุ่งหน้าออกไปพร้อมกับคนของนาง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะข้ามทะเลไปด้วยกัน
“พี่ชายหลิง ท่านรู้จักนางหรือ?” เหวินเหรินเชียนเชียนถาม และยากที่จะปกปิดสีหน้าตกใจของตัวเอง
นั่นคือจอมยุทธระดับทลายมิติเชียวนะ
มุมปากของหลิงฮันกระตุกและพูดว่า “รู้จัก”
เมื่อเห็นหลิงฮันไม่ได้พูดอะไรออกมามากนัก คนอื่นก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
“หลิงฮัน!” เจี่ยหมิงตะโกน ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำและมีสีหน้าที่ดุดัน
“เสวี่ยนเอ๋อ!” ย่าวหุยเย่วเองก็หันไปมองดู และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ในตอนนี้ ใบหน้าของจูเสวี่ยนเอ๋อนั้นกลับมาเป็นปกติแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่จะทำให้เขาตื่นเต้น นี่คือเสวี่ยนเอ๋อของเขา!
“หืม หลิงฮันรึ?” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งมุ่งเข้ามา เขาดูธรรมดามาก แต่ถ้ามองให้ดีจะเห็นว่าดวงตาของเขานั้นลึกเหมือนกับมหาสมุทรที่ไม่มีที่สิ้นสุด
หลิงฮันยักไหล่และพูดพึมพัมว่า “ทำไมมีแต่คนเพ่งเล็งมาที่ข้าล่ะเนี่ย?”
“เสวี่ยนเอ๋อ!” ย่าวหุยเย่วรีบกระโจนเข้าไปหาจูเสวี่ยนเอ๋ออย่างบ้าคลั่ง แต่นางก็ไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย
ย่าวหุยเย่วหันกลับไปมองที่หลิงฮันและพูดว่า “หลิงฮัน ข้าต้องการสู้กับเจ้า”
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “พวกเราเคยต่อสู้กันแล้ว และมันก็คงไม่ได้เป็นเรื่องดีนักที่จะต่อสู้กันจนตาย ดังนั้นข้าจะให้คู่หูตัวน้อยของข้าเป็นฝ่ายสู้ ถ้าเจ้าชนะมันได้ แค่ยินดีที่จะต่อสู้กับเจ้าอีกครั้ง”
หลิงฮันเรียกอสูรศิลาออกมา ปัง เมื่ออสูรศิลาลงมาบนพื้น มันรีบวิ่งวนอยู่รอบหลิงฮันราวกับลูกสนัขตัวน้อย
ย่าวหุยเย่วเต็มไปด้วยความโกรธ หลิงฮันกล้ามากที่จะส่งมันมาเล่นกับเขา อีกฝ่ายดูถูกเขาขนาดไหนกัน? เขานับดาบออกมาและใช้ปลายดาบชี้ไปที่หลิงฮัน “ต่อสู้กับข้า!”
เมื่ออสูรศิลาเห็นเช่นนั้น มันรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที อีกฝ่ายกล้ามากที่ใช้ปลายดาบชี้มาที่เจ้านายของมัน นี่หมายความว่าไง?
มันกระโดดขึ้นไปและเปิดปากคำรามใส่ย่าวหุยเย่ว
ปัง!
เสียงนั่นมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และกระแทกใส่ย่าวหุยเยว่
ตอนนี้อสูรศิลาก้าวเข้าสู่ระดับตัวอ่อนวิญญาณช่วงปลายแล้ว บวกกับจิตวิญญาณห้าธาตุของมันแล้วทำให้ความแข็งแกร่งของมันนั้นน่าสะพรึงกลัวมาก
“หืม?” เส้นผมของย่าวหุยเย่วปลิวอยู่ในอากาศอย่างกับพายุ เขาจ้องมองไปที่อสูรศิลาและเขาไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่น้อย เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆและดูเคร่งขรึม ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง
“ขึ้นไปบนฟ้า” หลิงฮันตะโกน
อสูรศิลาลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที อย่างไรก็ตาม มันยังไม่บรรลุระดับก้าวสู่เทวา จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะดึงพลังของปฐพีเพื่อเสริมแกร่งให้กับตัวเอง เลยไม่แตกต่างกันที่จะต่อสู้บนท้องฟ้า
ย่าวหุยเย่วและอสูรศิลาต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนท้องฟ้า
จากนั้นหลิงฮันไม่ได้หันไปมองเจี่ยหมิง แต่เขากลับหันไปมองชายหนุ่มที่เขาไม่รู้จัก เขาพูดว่า “ข้าควรเรียกเจ้าว่าอะไรดี?”
“ฉือชิ่วเหริน” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงแผ่วเบา และยิ้มให้กับหลิงฮัน
ที่แท้เขาก็คือฉือชิ่วเหรินนี่เอง
หัวใจของหลิงฮันเตือนให้ถึงอันตราย เขาพูดว่า “เจ้ามากับเขา?” เขาชี้ไปที่เจี่ยหมิง
“ฮึ่ม!” เจี่ยหมิงหันหลังกลับและพูดว่า “ฉือชิ่วเหริน ข้าจะปล่อยให้เจ้าเป็นคนจัดการหลิงฮัน ข้ารู้สึกได้ว่าจะพบโชคลาภในทะเลสาป ดังนั้นข้าไม่อาจเสียเวลาให้กับตัวตนเล็กๆอย่างเขา” เขาหยุดพูดและหันไปมองที่จูเสวี่ยนเอ๋อและเหวินเหรินเซียนเซียนด้วยรอยยิ้มที่เหมือนกับสัตว์ป่า “แต่นางทั้งสองคนจะต้องเป็นของข้า!”
พรึบ เจี่ยหมิงกระโดดขึ้นไปและดิ่งลงไปในทะเล ด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
ฉือชิ่วเหรินยืนกอดอกและพูดว่า “หลิงฮัน เจ้าฆ่าศิษย์นิกายกระบี่ไร้เทียมทานของข้า ในฐานะที่ข้าเป็นประมุขนิกายกระบี่ไร้เทียมทานคนต่อไป ข้าต้องขอรับความยุติธรรมจากเจ้า”