หลิงฮันเป็นฝ่ายเคลื่อนที่ก่อน ที่นี่มีจอมยุทธที่แข็งแกร่งอยู่มากเกินไป บางทีอาจมีจอมยุทธระดับสวรรค์และระดับทลายมิติปรากฏตัวออกมา ดังนั้นเขาจะต้องปิดฉากให้รวดเร็วที่สุด
การสังหารอาจารย์ของสำนักถือเป็นความผิดที่ร้ายแรง แต่หลิงฮันจำเป็นต้องสนใจเรื่องนั้นหรือไม่?
ฆ่าก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องพวกนั้นทีหลัง!
แสงดาบลุกโชติอย่างกับเปลวไฟ แม้ว่าดาบสังหารจะไม่แสดงพลังทั้งหมดออกมา แต่ความแข็งแกร่งของหลิงฮันก็ยังสามารถกระตุ้นให้มันปลดปล่อยพลังทำลายล้างระดับก้าวสู่เทวาออกมาได้ และพุ่งเข้าหาพวกมันทั้งสองคน
“นี่มันไม่ใช่แสงดาบธรรมดา!”
“ดาบอาคม!”
ทั้งสองคนรู้สึกหวาดผวา มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เพียงแค่แสงดาบก็สามารถทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรง และมีเพียงแค่ความคิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในหัวนั่นคือหนี!
ในความเป็นจริงพลังทำลายล้างของมันก็น่ากลัวอย่างแท้จริง
เมื่อหลิงฮันใช้ดาบสังหาร เขาสามารถบดขยี้จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาขั้นสูงได้ แล้วมันจะน่าหวาดกลัวขนาดไหน?
เพียงแค่กี่ไม่กระบวนท่า พวกมันทั้งสองคนก็ได้รับบาดเจ็บและหลั่งโลหิตออกมา
ทุกคนที่กำลังจับตาดูต่างตกตะลึง นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้วและยังสามารถต่อกรกับจอมยุทธที่มีระดับสูงกว่าตัวเองได้หนึ่งระดับใหญ่ ไม่ใช่ว่านั่นหมายความว่าตราบใดที่หลิงฮันทะลวงผ่านระดับสวรรค์เขาจะต่อกรกับจอมยุทธระดับทลายมิติได้หรอกหรือ?
“พี่เหมา พวกเรามาลงมือพร้อมกันเถอะ ตราบใดที่พวกเขาถ่วงเวลาไว้ได้จะต้องมีกำลังเสริมมาอย่างแน่นอน!” ฉีหลีกั่วกล่าว
“เป็นความคิดที่ไม่เลว!” สีหน้าของเหมาจุนดูมั่นใจ และทันใดนั้นก็มีสายฟ้าปรากฏอยู่รอบตัวเขา และดวงตาของเขาเปล่งแสงสว่างไสวราวกับว่ากลายเป็นเนตรสายฟ้า
การโจมตีของหลิงฮันและดาบอาคม ก่อนหน้านี้ทำให้เขาต้องรับทุกการโจมตี ร่างของเขาเขลอะไปด้วยเลือดและต้องการรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ มันเกือบจะเหมือนกับการรนหาที่ตาย
ดังนั้น เขาจะต้องโจมตีครั้งใหญ่แม้จะต้องจ่ายราคาที่ใช้มันก็ตาม
ตู้ม ร่างของเขากลายเป็นสายฟ้าและมีความสูงสามฟุต เหมือนกับคนยักษ์และพุ่งเข้าหาหลิงฮัน
นี่ไม่ใช่ทักษะอสนีเก้าทิวา แต่เป็นทักษะของนิกายอัสนีบาตสีครามซึ่งเป็นทักษะสายฟ้าเหมือนกัน แต่ทักษะอสนีเก้าทิวานั้นจะเป็นสายฟ้าสีขาวที่ทรงพลังกว่าและพลังทำลายล้างน่าสะพรึงกลัวกว่ามาก
“พี่ฉี นี่เจ้าคิดจะไปไหน – กลับมาเดี๋ยวนี้!” เหมาจุนกำลังจะโจมตีทักทายหลิงฮัน แต่เขากลับไม่คิดเลยว่าฉีหลีกั่วจะหลบหนีไปแล้ว
“ฉีหลีกั่ว เจ้าตัวบัดซบ!” เหมาจุนตะโกนเสียงดัง นี่มันคิดจะให้เขาต่อสู้กับหลิงฮันเพียงลำพัง อย่างนั้นรึ?
“พี่เหมา ข้าจะนำคนกลับมาแก้แค้นให้ท่านเอง!” ในระยะไกลเสียงของฉีหลีกั่วดังเข้ามา
ไร้ยางอายอะไรขนาดนี้!
หลิงฮันยิ้มอย่างเย็นชา เขาเก็บดาบสังหารเข้าไปในหอคอยทมิฬและนำคันศรตะวันยอแสงออกมาพร้อมกับลูกศรและใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์สามทักษะออกไปพร้อมกันขณะเล็งเป้าไปที่ฉีหลีกั่ว
“หืม!” เมื่อเหมาจุนเห็นเขาเลือกที่จะยืนดู
ลูกศรนี้มัน!
ฉีหลีกั่ว เจ้าสุนัขไร้ยางอาย!
เขาคิดว่าเหมาจุนคอยรั้งหลิงฮันเอาไว้และวิ่งออกไประยะไกลขึ้นอีกเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย แต่ในขณะนั้นก่อนที่เขาจะผ่อนคลาย การโจมตีที่รวดเร็ว แม่นยำและทรงพลังก็พุ่งเข้ามาหาเขา!
ฟิ้ว ลูกศรทะลวงผ่านหัวใจของเขา
ลูกศรนี้เป็นที่รู้จักกันว่า ศรฆ่ามังกรทะลวงดารา และด้วยทักษะอสนีเก้าทิวากับเนตรแห่งสัจธรรมที่ทำให้เห็นจุดอ่อน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกศรนี้จะน่าสะพรึงกลัว!
ฉีหลีกั่วดิ้นรนก้าวเดินไปข้างหน้าก่อนที่จะหันหน้ากลับไปมองหลิงฮันและเหมาจุนอย่างช้าๆด้วยความสับสน แต่เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเหมาจุน เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที
ถ้าเขาเลือกที่จะต่อสู้เคียงข้ามเหมาจุน บางทีอาจรับมือกับหลิงฮันและรอให้กำลังเสริมมาถึงได้ แต่เขาไม่อยากตายเลยปล่อยให้เหมาจุนรับมือคนเดียว ทว่าผลลัพธ์กลับเป็นเขาที่ถูกฆ่าเป็นคนแรก
เขารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจที่ผิดพลาด!
ร่างกายของเขากระแทกกับพื้นและโลหิตเริ่มไหลทะลักออกมาจากหัวใจของเขาและซึมลงไปในพื้นดิน
พรึบ ร่างของเหมาจุนแวบหายไป ตอนนี้เขากลายเป็นสายฟ้าแม้ว่าจะไม่ใช่ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม แต่ความเร็วของมันก็ยังคงน่าทึ่งอยู่ดี
หลิงฮันโบกทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตเพื่อนำลูกศรอันมีค่าที่ยิงออกไปกลับคืนมา และไล่ตามเหมาจุน ร่างกายของเขาเองก็กลายเป็นสายฟ้าเช่นกัน ซึ่งสามารถเห็นได้ว่าความเร็วของเขารวดเร็วกว่าอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด
จูเสวี่ยนเอ๋อ ฮูหนิวและเจ้ากระต่ายเองก็รีบตามหลิงฮันไปอย่างรวดเร็ว
เหมาจุนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคิดหาวิธี แต่เขามีความคิดเดียวเท่านั้นนั่นคือการหลบหนี รุ่นเยาว์ที่อยู่ด้านหลังเขาเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัวมากและไม่ใช่คนที่เขาสามารถต่อกรด้วยได้
ความเร็วของเขาไม่ได้เชื่องช้า และมีชายคนหนึ่งมุ่งหน้ามาทางเขา เขาเป็นชายรูปร่างผอมเพรียวที่ดูธรรมดา แต่หากจ้องมองไปที่ดวงตาของเขาจะรู้สึกเหมือนกับมองจักรวาลที่ไร้ก้นบึ้ง
ฉือชิ่วเหริน!
“หลานฉือช่วยข้าด้วย!” เขารู้สึกดีใจมากและตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
แต่ฉือชิ่วเหรินแสดงสีหน้ารีบร้อนและเอื้อมมืออกไปขณะตะโกนว่า “ระวัง!”
ระวังอะไร?
เหมาจุนรู้สึกประหลาดใจ ฉึก และเห็นดาบแทงทะลุออกมาจากร่างกายของเขา ก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลงกระแทกกับพื้น
หลิงฮันดึงดาบกลับมาและจ้องมองไปที่ฉือชิ่วเหรินด้วยสายตาเย็นชา เขาไม่กังวลที่จะฆ่าอัจฉริยะของนิกายกระบี่ไร้เทียนทาน
การเข่นฆ่าจอมยุทธทุกคนจากห้านิกายโบราณคือการกำจัดสิ่งกีดขวางสำหรับการเปิดสวรรค์ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัจฉริยะอย่างฉือชิ่วเหรินและเจี่ยวหมิง ในอนาคตพวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจะต่อกร
“นั่นคือเหมาจุนแห่งนิกายอสนีบาตสีคราม” ฉือชิ่วเหรินเดินตรงเข้ามา
“แล้วมันทำไมหรือ?” หลิงฮันกล่าวด้วยเสียงเย็นชา
“เจ้าได้ฆ่าราชันกระบี่น้อยและเหมาจุน ถ้าเรื่องนี้ถึงหูสำนักสวรรค์เจ้าคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น?” ฉือชิ่วเหรินถามด้วยเสียงเรียบเฉย
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ที่จริงมันยังมีอีกคนอยู่ตรงโน้นรู้สึกชื่อของมันคือฉีหลีกั่ว และข้าเป็นคนสังหารเอง”
“คนของนิกายดาบสวรรค์” ฉือชิ่วเหรินไม่รู้สึกโกรธและดูเฉยเมย “หลิงฮัน ข้าต้องการปฏิบัติกับเจ้าในฐานะคู่แข่ง แต่เจ้าเอาแต่ทำตัวรนหาที่ตายของตัวเอง มันคงไม่มีโอกาสต่อสู้สำหรับข้าที่จะได้ต่อสู้กับเจ้าในอนาคต”