การฝึกฝนทักษะอัสนีบาตรเก้าทิวาไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อตอนเริ่มฝึกฝนทักษะนี้หลิงฮันใช้เวลาหลายวันในการเข้าใจถึงส่วนเล็กๆของมัน และเพื่อเสริมแกร่งให้กับกายาสายฟ้าเขาจำเป็นต้องดูดซับแก่นแท้สายฟ้าจำนวนมาก
การพัฒนาของเขาเป็นไปอย่างเชื่องช้า ตั้งแต่ที่เขาฝึกฝนมา เขายังบรรลุได้เพียงแต่ส่วนเล็กๆของทักษะ ถ้าหากเขาสามารถฝึกฝนทักษะนี้จนบรรลุระดับสูงได้ด้วยเวลาห้าสิบปีก็ถือว่ารวดเร็วมากแล้ว
ที่จริงการฝึกฝนทักษะกายาสายฟ้านั้นต้องเป็นจอมยุทธระดับทะลายมิติเป็นอย่างน้อย แต่ถึงแม้จะเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติ พวกเขาจะฝึกฝนมันถึงระดับสูงได้ด้วยเวลาห้าสิบปีรึเปล่า?
ไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาทั่วไปที่อาจจะไม่สามารถฝึกฝนกายาสายฟ้าได้เลยด้วยซ้ำ
ผลประโยชน์อันน่าอัศจรรย์ที่เขาได้รับจากดอกไม้สายฟ้านั้น มีมากกว่าพลังงานสายฟ้าทั้งหมดในอดีตที่เขาเคยดูดซับมาเสียอีก
“ฮูหนิว เจ้าเป็นดาวนำโชคของข้าโดยแท้!” หลิงฮันกล่าวชม
ฮูหนิวมีความสุขและตอบกลับอย่างภาคภูมิใจ “หนิวคือดาวนำโชคของหลิงฮันอยู่แล้ว!”
ทั้งสองคนสำรวจต่อ แต่ที่ทำให้หลิงฮันผิดหวังคือแม้จะหาเป็นเวลานานเขาก็ไม่พบดอกไม้สายฟ้าเลย จนในที่เขาเมื่อผ่านไปอีกสักพักเขาถึงจะพบดอกไม้สายฟ้าดอกที่สอง
ฮูหนิวเดินเข้าไปใกล้และเด็ดดอกไม้ขึ้นมา
หลิงฮันไม่หลิงรีบดูดซับและเก็บมันเข้าไปในหอคอยทมิฬ ตอนนี้เขาต้องเพ่งความสนใจไปที่หุบเขาแห่งนี้ก่อน
แม่น้ำอัสนีแห่งนี้คืออะไรกันแน่?
หลังจากมองตรวจสอบอีกครั้ง เขาก็เห็นคลื่นกระแสน้ำอีกคลื่นหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่คลื่นจากแม่น้ำอัสนี
หลิงฮันตกตะลึง เขามองไปยังคลื่นน้ำอีกคลื่นหนึ่งและมองเห็นแม่น้ำอีกสาย แต่สิ่งที่ไหลเชี่ยวอยู่ในแม่น้ำนั้นไม่ใช่น้ำหรือสายฟ้า แต่เป็นเพลิง!
เป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้ว่ามีเพลิงที่ไหลเชี่ยวเป็นกระแสน้ำอยู่จริงๆ
ถ้ามันเป็นลาวาเขาก็ยังคงพอเข้าใจได้ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น สิ่งที่ไหลเชี่ยวอยู่คือเพลิงบริสุทธิ์
หลิงฮันลองคิดในใจ ถ้าหากแม่น้ำอัสนีและแม่น้ำเพลิงไหลผสานกันมันจะเกิดอะไรขึ้น?
ในขณะที่เขากำลังคิดเช่นนั้น ในตอนนั้นเองแม่น้ำทั้งสองสายก็ไหลเข้าหากัน แต่สิ่งที่หลิงฮันไม่คาดคิดก็คือแม่น้ำทั้งสองสายไม่ได้ไหลผ่านกันแบบปกติ พวกมันหลอมรวมเข้าด้วยกัน
ตอนนี้เหลือแม่น้ำอยู่เพียงหนึ่งสาย แม่น้ำหนึ่งสายนี้มีอัสนีและเปลวเพลิงไหลปพร้อมๆกัน ประกายสายฟ้าและคลื่นความร้อนได้ทำให้แม่น้ำเกิดแสงที่สว่างไสว
หลิงฮันเกิดความสงสัยมากขึ้นไปอีก ที่สุดปลายแม้น้ำมีอะไรอยู่กันแน่ ทำไมสิ่งที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ถึงเกิดขึ้นได้?
แต่การที่เขาจะเดินตามแม่น้ำไปก็ทำได้ยากลำบากมากกว่าเดิม
นั่นเพราะแม่น้ำในตอนนี้มีทั้งอัสนีและเปลวเพลิงกำลังพัวพันกันอยู่ คลื่นพลังที่เกิดจากแม่น้ำจึงน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก แม้จะยังไม่สัมผัสกับพวกมันโดยตรง แต่คลื่นอัสนีก็ทำให้ชั้นบรรยากาศโดยรอบปริแตก และเปลวเพลิงก็ได้เปลี่ยนชั้นบรรยากาศในหุบเขาให้ร้อนระบุเหมือนเตากับเตาอบมราสามารถแผดเผาได้ทุกสิ่ง
“หนิวไม่ชอบที่นี่เลย” ฮูหนิวเริ่มเปิดปากบ่น แม้นางไม่เกรงกลัวสายฟ้า แต่ดูเหมือนว่ากับเปลวเพลิงแล้วนางจะไม่สามารถต้านทานมันได้มากเท่าไหร่ ใบหน้าเล็กๆของนางเริ่มมีเหงื่อไหลออกมา
“ลองสำรวจต่ออีกสักหน่อย ถ้าเจ้าทนไม่ไหว พกวเราจะล่าถอยทันที!” หลิงฮันกล่าว ถึงแม้เขาจะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ แต่เขาก็ไม่คิดจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เช่นกัน
เพราะอย่างไรระดับพลังบ่มเพาะของเขาตอนนี้ก็ยังต่ำเกินไป เขาสามารถรอให้ตนเองบรรลุระดับสวรรค์หรือไม่ก็ระดับทลายมิติก่อนแล้วค่อยกลับมาอีกครั้งก็ได้
แต่เมื่อพวกเขากำลังคิดจะล่าถอย พวกเราเดินมาถึงส่วนปลายทางแม่สายเพลิงอัสนีแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ตรงบริเวณล่างสุดของหุบเขา ด้านหน้าของพวกเขามีกำแพงภูเขากั้นอยู่ ซึ่งแม่น้ำอัสนีเพลิงได้ไหลออกมาจากรูถ้ำด้านล่างกำแพงภูเขานี้
เมื่อมาถึงจุดนี้ ทั้งอำนาจของอัสนีและเปลวเพลิงต่างลดลงไปมาก แม้มันจะยังรุนแรงอยู่แต่มันก็อยู่ในระดับพวกเขาทนไหว
หลิงฮันมองไปยังถ้ำด้วยความลังเล
ความลับของหุบเขาแห่งนี้อาจจะซ่อนอยู่ในถ้ำด้านหน้า แต่ข้างในนั้นก็อาจจะมีภัยอันตรายนับไม่ถ้วน
เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจเข้าไปสำรวจดูสักหน่อย
เขาครอบครองยันต์เคลื่อนย้ายมิติและหอคอยทมิฬ ถ้าหากจนมุมเขาก็ยังมีพรศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่มพลังต่อสู้ของเขาได้ทัดเทียมกับจอมยุทธระดับทลายมิติ หากเป็นเช่นนั้นจะมีสิ่งมีชีวิตใดในทวีปฮงเทียนที่สามารถสังหารเขาได้?
ลุย!
เขาพาฮูหนิวเดินเข้าไปในถ้ำ ถ้าสถานการณ์ไม่สู้ดีเขาจะนำฮูหนิวเข้าไปในหอคอยทมิฬทันที
ทางเข้าถ้ำมืดเป็นอย่างมาก แม้เขาจะมองด้วยเนตรแห่งสัจธรรมเขาก็ยังเห็นแต่ความมืดมิด เขาแบมือออกมาเพื่อควบแน่นปราณก่อเกิดให้เป็นบอลเพลิง แม้เขาจะรู้สึกว่าบนมือของเขามีบอลเพลิงอยู่แต่เขากลับมองไม่เห็นบอลเพลิงในมือแม้แต่น้อย
เขาลองหันหลังไปและมองด้านนอกถ้ำ เขาสามารถมองเห็นแม่น้ำอัสนีที่กำลังไหลเชี่ยวได้อย่างชัดเจน
หลิงฮันอดคิดไม่ได้ว่าถ้ำแห่งนี้มันยังไงกันแน่!
ก่อนหน้านี้ที่พบเจอหมอกม่วง เขาก็ได้รับผลที่การมองเห็น แต่อย่างน้อยเขาก็ยังพอรับรู้รอบๆกายได้ แต่ตอนนี้ล่ะ? ไม่เพียงแต่เขามองไม่เห็น สัมผัสสวรรค์ของเขาก็ใช้งานไม่ได้ ถ้าเขาไม่จับมือฮูหนิวเอาไว้เขาก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่ามีคนอยู่ข้างๆเขา
ใช่แล้ว แม้แต่การได้ยินของเขาก็สูญเสียไป
แปลกประหลาดเกินไป!
ในใจหลิงฮันเกิดความกังวล แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังก้าวเดินหน้าต่อไป
ยิ่งแปลกประหลาดเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้นเท่านั้น
“หอคอยน้อย เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับที่แห่งนี้รึไม่?” เขาสื่อสารกับหอคอยทมิฬในความคิด
“ที่แห่งนี้… มีร่องรอยของพลังต้นกำเนิด!” หอคอยทมิฬแสดงตื่นเต้น “ถ้าข้าได้กลืนกินมัน ข้าจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้หนึ่งส่วนจากร้อยล้านส่วน!”
พรวด!
หลิงฮันอยากจะบ้าตาย สถานที่แห่งนี้อันตรายเกินกว่าจะจินตนาการได้ แถมแม่น้ำเปลวเพลิงอัสนีก็ยังปลดปล่อยอำนาจที่คุกคามได้แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติออกมา เมื่อคิดถึงพลังต้นกำเนิดที่ว่า มันกลับซ่อมแซมได้เพียงหนึ่งส่วนจากร้อยล้านส่วน? นี่เขาจะมีชีวิตอยู่ถึงวันที่หอคอยทมิฬกลับมาอยู่สภาพสมบูรณ์รึเปล่า?
“ระวังตัวด้วย!” หอคอยทมิฬเตือน “ถ้าที่แห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตอยู่ เจ้าจะถูกสังหารอย่างง่ายดาย”
เขาไม่รู้ว่าเขาเดินมานานเท่าไหร่แล้ว หลิงฮันไม่สามารถรับรู้อะไรรอบกายได้เลย เขาไม่รู้แม้กระทั้งว่าเขายังอยู่ในถ้ำรึเปล่า เขาสูญเสียสัมผัสทั้งห้าไปอย่างสิ้นเชิง
เขาไม่รู้แม้แต่ว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน แม้เขาจะพยายามคลำกำแพงรอบๆแต่เขาก็ไม่สามารถรู้สึกได้ว่าเขาสัมผัสกำแพงอยู่รึเปล่า
จนในที่สุดเขาก็ต้องเข้าไปยังหอคอยทมิฬ