หลิงฮันเข้ามาในหอคอยทมิฬไม่ใช่เพราะเขาอยากจะเข้า แต่เป็นเพราะฮูหนิว
เขารู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้แยกจากฮูหนิว มิฉะนั้นมันคงจะเป็นเลือกยากที่จะตามหาเด็กสาวตัวน้อยเจอในสภาพแวดล้อมแบบนี้
ตอนนี้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว
มันทำให้เขารู้สึกมีความสุขราวกับเกิดใหม่ เช่นเดียวกับจูเสวี่ยนเอ๋อที่พุ่งพรวดเข้ามาหา หลิงฮันเลยจูบริมฝีปากที่น่าหลงใหล และกลิ่นหอมที่เย่ายวนก็เข้าไปในจมูกของเขา ทำให้ร่างกายของจูเสวี่ยนเอ๋อเริ่มร้อนขึ้นและทำให้หลิงฮันสัมผัสได้ถึงความเป็นจริง จูเสวี่ยนเอ๋อไม่คิดว่าหลิงฮันจะรีบร้อนขนาดนั้น ช่วยไม่ได้ที่นางจะรู้สึกตกใจจนหน้าแดงและจ้องมองอีกฝ่าย แต่ในไม่ช้านางก็ถูกหลิงฮันจูบไปตามร่างกายของนางและเริ่มส่งเสียงครางออกมาเล็กน้อย
นางกำลังมีอารมณ์
“หนิวโกรธแล้วนะ!” ฮูหนิวรู้สึกโกรธมากและจ้องมองไปที่จูเสวี่ยนเอ๋อราวกับจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคามือ
หลิงฮันหัวเราะ เขาเดินไปหาฮูหนิวและวางมือลงบนหัวแล้วพูดว่า “เด็กดี”
ฮูหนิวพึมพำกับตัวเองและไม่สามารถระบายความโกรธออกมาได้
หลิงฮันเลยนำขาหมูออกมาให้ฮูหนิว ตอนแรกเด็กสาวตัวน้อยยังคงรู้สึกโกรธ แต่ก็ไม่อาจต้านทานกลิ่นหอมของมันได้ และในไม่ช้าก็รับมันมาจากหลิงฮัน แล้วใบหน้าของเด็กสาวตัวน้อยก็กลับมาร่าเริงทันที
ตราบใดที่เขามีอาหาร ผลลัพธ์ก็จะลงเอยเช่นนี้
“พี่ฮัน!” จูเสวี่ยนเอ๋อกระซิบอยู่ข้างหูของหลิงฮันด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและเย้ายวน
“เจ้าชู้! เจ้าชู้!” เจ้ากระต่ายนั่งพึมพัมอยู่ด้านข้าง
หลังจากนั้นหลิงฮันก็พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในถ้ำก่อนหน้านี้ ทำให้จูเสวี่ยนเอ๋อรู้สึกหวาดหวั่น แต่เจ้ากระต่ายก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “ทำให้สูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้าเป็นอำนาจพลังที่เด็ดขาดยิ่งนัก! เจ้ากำลังเผชิญหน้ากับอำนาจพลังดังกล่าว ถ้าถูกฆ่าตายเจ้าก็คงไม่รู้สึกตัว”
เมื่อสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าการโจมตีมาจากทิศทางไหน? แล้วควรจะโจมตีไปที่ไหน?
“แต่หนิวมองเห็น” ฮูหนิวเลียขาหมู ปากของนางเขลอะไปด้วยน้ำมันขณะที่โบกมือเล็กๆไปมาพูดกับหลิงฮํน
“เจ้ามองเห็น?” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ
“อืม!” ฮูหนิวพยักหน้า
แม้จะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ความสามารถของฮูหนิวนั้นน่าสะพรึงกลัวมาก แล้วนางจะทำไม่ได้ได้อย่างไร?
“ถ้างั้นข้าคงต้องปล่อยให้หนิวเป็นคนนำทางซะแล้ว” หลิงฮันลูบหัวเด็กสาวตัวน้อย
“ไว้ใจหนิวได้เลย!” ฮูหนิวโบกขาหมูไปมา
พวกเขาทั้งสองคนออกมาจากหอคอยทมิฬ ฮูหนิวจับมือหลิงฮันและทำให้หลิงฮันรู้สึกผ่อนคลายลงมาก แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกว่าจับมือของฮูหนิวอยู่ แต่เขาเชื่อในตัวฮูหนิวและปล่อยให้นางเป็นคนนำทาง
ในความเป็นจริง เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเคลื่อนไหวอยู่เลยด้วยซ้ำ เขาสูญเสียทิศทางและเวลาไปอย่างสมบูรณ์และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เห็นแสงสลัวอยู่ด้านหน้า
หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะเอื้อมมือออกไป เขามองเห็นแสงสว่างแล้ว!
หลิงฮันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว
แต่แสงสลัวด้านหน้ามันไม่ใช่ทางเข้า ฮูหนิวไม่พาเขาไป แต่พาเขาไปที่บ้านหินที่เปล่งแสงสีขาวอันเลือนลางออกมา
หลิงฮันเดินเข้าไปและมองไปรอบๆ บ้านหินดูธรรมดามาก แต่ถ้าให้พูดตามตรงมันดูเหมือนถ้ำมากกว่า แล้วทำไมถึงเรียกว่าบ้านหิน? มันเป็นเพราะมีรูปปั้นหินอยู่ตรงกลาง
นี่ไม่ใช่รูปปั้นธรรมดาอย่างแน่นอน มันเป็นรูปปั้นที่ดูเหมือนจริงมากและเก็บรายละเอียดได้อย่างแนบเนียน
รูปปั้นหินเป็นรูปลักษณ์ของชายชรา แม้ว่าจะเป็นรูปปั้นหิน แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่น่าเกรงขามของเขา
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะแสดงสีหน้าผิดหวังออกมา ต้นกำเนิดของแม่น้ำสองสายที่แปลกประหลาด ถ้ำที่ทำให้ผู้คนสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้า ปลายทางคือบ้านหินที่ดูธรรมดานี่อย่างนั้นหรือ?
แม้ว่าบ้านหินนี่จะถูกสร้างขึ้นตามธรรมชาติโดยที่ไม่มีร่องรอยของมนุษย์ ยกเว้นรูปปั้นหิน
แปลก แปลกมาก ใครเป็นคนวางรูปปั้นหินในสถานที่แบบนี้กัน?
“ทำไมเจ้าถึงแสดงสีหน้าผิดหวังเมื่อได้เห็นข้าผู้นี้?” ทันใดนั้นได้มีเสียงดังขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของหลิงฮัน
หลิงฮันรู้สึกตกใจจนเส้นผมตั้งตรงและหนังศีรษะด้านชา ผี? เขาไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว!
“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน เจ้าหนู เจ้ากำลังมองไปที่ไหนกัน?” เสียงดังขึ้นอีกครั้ง
“โผล่หัวของเจ้าออกมาซะ!” หลิงฮันกล่าวขณะจับมือฮูหนิวและพร้อมที่จะเข้าไปในหอคอยทมิฬทุกเมื่อ
“ข้าก็อยู่ตรงหน้าเจ้ามิใช่หรือ? นี่ข้าควรที่จะโยนพวกเจ้าออกไปหรือไม่?” เสียงนั่นกล่าวอีกครั้ง
ด้านหน้า?
ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะจ้องมองไปที่รูปปั้นที่อยู่ด้านหน้าและชี้นิ้วไปที่รูปปั้น “นี่คือท่าน?”
“ข้าไม่ชอบถูกชี้นิ้วใส่ ส่วนเจ้าจะเชื่อหรือไม่นั้น ข้าจำเป็นต้องรู้ด้วยหรือไม่?” เสียงนั่นกล่าวอีกครั้ง
หลิงฮันรีบดึงแขนกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาเคยเห็นเรื่องแปลกประหลาดมาเยอะ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รูปปั้นหินจะมีชีวิตเหมือนกับอสูรศิลา
แต่นี่ไม่ใช่จิตวิญญาณห้าธาตุ หลิงฮันสามารถสรุปได้แค่ว่านี่เป็นรูปปั้นหินธรรมดา แต่ด้วยวิธีการบางอย่างทำให้มันปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ออกมาได้
หลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว หลิงฮันทำจิตใจให้สงบและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไมผู้อาวุโสไม่ออกมาจากรูปปั้นหินล่ะ? พวกเราจะได้พูดคุยกันซึ่งหน้า”
“ถ้าข้าออกไปได้ ข้าจะพูดกับเจ้าอยู่แบบนี้รึ?” น้ำเสียงของเขาดูโกรธเล็กน้อย
“หรือว่าท่านจะติดอยู่ในนั้น?” หลิงฮันถาม
“เจ้าหนู หากเจ้าสามารถมาที่นี่ได้ถือว่าพวกเรามีชะตาร่วมกัน เอาแบบนี้เป็นไง ถ้าเจ้าหาสมบัติบางอย่างเจอให้กับข้า ข้าผู้นี้จะมอบทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้แก่เจ้า เจ้าคิดว่าไง?” เสียงนั่นกล่าวล่อลวง
ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะส่งเสียงหัวเราะออกมาและพูดว่า “ผู้อาวุโสที่ท่านพูดมันเหมือนกับจับเสือมือเปล่า เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำข้าจะเชื่อท่านได้อย่างไร?”
“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าไม่รู้หรอกว่ามีผู้คนมากเพียงใดที่แย่งกันเลียแข้งเลียขาข้าผู้นี้ แต่ข้าจะมองข้ามสิ่งที่เจ้าพูดเมื่อครู่ ตอนนี้ข้ายังคงเสนอทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเป็นการแลกเปลี่ยนกับเจ้า หรือเจ้าคิดว่ามันยังไม่เพียงพอ?” เสียงนั่นกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชาและโศกเศร้า และมือข้างหนึ่งของรูปปั้นกำลังปล่อยประกายสายฟ้า
มันน่าสะพรึงกลัวมาก พลังของสายฟ้านั่นอย่างน้อยอาจเทียบได้กับระดับสวรรค์ขั้นสูงสุด ซึ่งเกิดขีดจำกัดของหลิงฮัน
หลิงฮันคิดอยู่ในใจ และสรุปได้ว่าแม่น้ำสองสายที่แปลกประหลาดนั้นอย่างน้อยแม่น้ำอัสนีจะต้องมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับรูปปั้นหินนี่