เมื่อจอมยุทธของภูมิภาคตะวันออกถูกตัดสิน พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้กลับ
นี่ทำให้ภูมิภาคตะวันออกรู้สึกหดหู่มาก พวกเขาวิ่งไปมาตามคำสั่งของคนอื่นอย่างกับวิ่งเล่น
หลังจากฟื้นฟูดินแดนที่ได้รับความเสียหายเสร็จ หลิงฮันปล่อยให้เหล่าจอมยุทธของภูมิภาคตะวันออกกลับไปและทำหน้าที่ตามเดิมของพวกเขาในภูมิภาคตะวันออก หลังจากที่เขากำราบภูมิภาคตะวันตกได้แล้ว เขาจะพิจารณาว่าบุกภูมิภาคใต้หรือตะวันออกต่อ
ไม่กี่วันต่อมา เผ่าใต้สมุทรก็เดินทางมาถึง
พวกเขาเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติจากตระกูลเฮ่อเหลียน พวกเขานำจดหมายส่วนตัวจากเฮ่อเหลียนหลงมามอบให้กับหลิงฮันและเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน
——เฮ่อเหลียนหลงเป็นผู้นำตระกูลเฮ่อเหลียน ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในนามราชาเฮ่อเหลียนและเป็นพ่อของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน
ประเด็นหลักของจดหมายเขียนไว้ว่าเรื่องที่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเขียนถึงเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงมาก แต่มันไม่อาจทำใจเชื่อได้เพียงแค่ข้อความไม่กี่คำและเขายังมีคำถามอีกมากมายที่จะถามหลิงฮันกับเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน เขาจึงขอให้ทั้งสองคนเดินทางมาที่ตระกูลเฮ่อเหลียนทะเลเหนือเพื่อมาพูดอธิบายด้วยตัวเอง
จดหมายฉบับนี้ยังกล่าวถึงหลิงเจี้ยนเสวี่ยนด้วย เขาต้องการที่จะเห็นหน้าหลานด้วยตนเอง
“เป็นไงบ้าง?” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนถามหลิงฮัน
หลิงฮันพูดว่า “ถ้าเราต้องการเอาชนะตระกูลเฮ่อเหลียนมีแต่จะต้องไป อย่างไรก็ตาม พวกเราไม่อาจทิ้งการป้องกันที่นี่ได้”
“แล้วเจ้าจะทำยังไง?” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกล่าว ถ้าเป็นไปได้นางก็ไม่อยากกลับไปหาครอบครัวของนาง
หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “ข้าจะไปถามอี้ชวงชวงก่อน ถ้านางยินดีที่จะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเราในการเดินทางครั้งนี้พวกเราก็จะปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมืองจักรพรรดิจะไม่มีนางคอยป้องกัน และข้ากังวลว่าจะถูกลอบโจมตี นี่ค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวทีเดียว”
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนพยักหน้า ตอนนี้ห้านิกายโบราณและนิกายพันศพกำลังเพ่งเล็งจักรวรรดิต้าหลิง แม้ว่าส่วนใหญ่จะมุ่งเป้าไปที่จักรวรรดิจันทราม่วงก็ตาม
หลิงฮันใช้เวลาคิดอยู่ชั่วครู่และส่ายหัว “อี้ชวงชวงจะต้องอยู่ที่นี่ ข้าจะนำรูปแบบอาคมมังกรน้ำแข็งทลายปฐพีไปกับตัว ซึ่งสามารถใช้รับมือกับจอมยุทธระดับทลายมิติได้ บวกกับการคุ้มกันของหอคอยทมิฬ แม้ว่าอีกฝ่ายจะพลิกลิ้นก็ตาม”
“เขาอยากให้พวกเราสองคนไปหาจริงหรือ?” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนรู้สึกกังวลเล็กน้อย
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “เขาไม่ได้ต้องการเห็นหน้าหลานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการตัวด้วย”
“ถ้าเป็นแบบนั้น ข้าก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง แล้วเจ้ารู้หรือไม่?” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกล่าว
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะทำอะไรไม่ได้เลย”
“งั้นเจ้าจะทำอะไรได้บ้าง?” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนหันไปมอง
หลิงฮันมองไปที่ร่างเพรียวบางของนางและพูดติดตลกว่า “เจ้า!”
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเหลือบมองก่อนที่จะตอบสนอง และช่วยไม่ได้ที่นางจะบิดตัวปกปิดร่างกาย และคิดว่าเวลาแบบนี้เขายังจะมาพูดเล่นอีก
อี้ชวงชวงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เมืองจักรพรรดิไม่ได้เป็นแค่จุดศูนย์กลางของจักรวรรดิเท่านั้น แต่ยังเป็นฐานที่มั่นของตระกูลหลิงด้วย แล้วเขาจะสูญเสียมันไปได้อย่างไร? ถ้าไม่มีอี้ชวงชวงคอยปกป้อง หลิงฮันก็จะพาพ่อแม่ของเขาเข้าไปในหอคอยทมิฬและพาไปด้วย
หลังจากพูดคุยกัน หลิงฮันได้ตัดสินใจพาเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน ฮูหนิวและลูกของเขาไปที่ทะเลเหนือ
แม้ว่าฮูหนิวจะยังไม่ทะลวงผ่านระดับทลายมิติ แต่นางก็มีความเร็วที่น่าทึ่งมาก แม้จะเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติยังเป็นเรื่องยากเลยที่จะทำร้ายนาง
พวกเขากลับเข้ามาในดินแดนทางตอนเหนืออันโดดเดี่ยวอีกครั้งและไปดูเหมืองโบราณของแคว้นอัคคี พลังปราณสีดำที่แผ่ออกมาเริ่มหนาแน่นขึ้นและน่าหวาดกลัว หลิงฮันเริ่มเป็นกังวลมากยิ่งขึ้นว่าคนพวกนั้นจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่
หลังจากแวะดูเสร็จ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่ตระกูลเฮ่อเหลียน
หลังจากที่กายหยาบของมนุษย์ก้าวเข้าสู่ระดับบุปผาผลิบาน ไม่สำคัญว่าจะหายใจและกินดื่มหรือไม่ มีเพียงแค่พลังปราณอย่างเดียวก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว และเมื่อบรรลุระดับสูงขึ้นไปอีก พวกเขาไม่จำเป็นต้องได้รับพลังปราณก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้นานหลายสิบปีจากพลังปราณของตัวเอง
ดังนั้น พวกเขาสามารถกั้นหายใจและแหวกว่ายเหมือนปลาในทะเลได้่
ส่วนเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนนั้นไม่แม้กระทั่งหายใจ นางมีสายเลือดมังกรที่แท้จริง ไม่ว่าจะอยู่ในน้ำหรือบนบกก็ไม่แตกต่างกัน แต่ถ้าอยู่ในน้ำความแข็งแกร่งของนางก็จะเพิ่มขึ้น
หลิงฮันพยักหน้าอยู่ในใจ พลังปราณที่อยู่ในทะเลไม่ได้แตกต่างจากบนบกมากนัก แต่ทะเลนั้นเป็นคุณสมบัติของธาตุน้ำ ดังนั้นเผ่าใต้สมุทรจึงมีความได้เปรียบอย่างมากในการบ่มเพาะพลัง
ทะเลเป็นแบ่งออกเป็นสามส่วน ปลาตัวเล็กตัวน้อยจะอาศัยอยู่ในบริเวณน้ำตื้น อย่างไรก็ตาม ถ้าดำลึกลงไปอีกปลาตัวใหญ่จะปรากฏตัวออกมาให้เห็นทีละตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ดำดิ่งลงไปใต้ทะเลลึกสิบไมล์จากพื้นผิวทะเลจะมีสัตว์ทะเลสายพันธุ์ยักษ์ปรากฏตัวออกมาให้เห็น
สิ่งมีชีวิตพวกนั้นมีขนาดเทียบเท่ากับภูเขา แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ฝึกฝนบ่มเพาะพลัง เพียงแค่พละกำลังของมันอย่างเดียวก็น่าสะพรึงกลัวแล้ว เพียงแค่ชนก็สามารถทำให้ภูเขาพังทลายลงได้ และเมื่อฟังจากที่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนพูด เหมือนว่ายังไม่ใช่ขนาดที่ใหญ่ที่สุดของพวกมัน
สามวันต่อมา พวกเขาเดินทางออกห่างจากดินแดนทางตอนเหนืออันโดดเดี่ยวมาไกล จากคำบอกกล่าวของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน พวกเขาจะต้องเดินทางอีกเจ็ดวันกว่าจะถึงตระกูลเฮ่อเหลียน
โดยที่หลิงฮันไม่คาดคิด เขาคิดว่าอาณาเขตของตระกูลเฮ่อเหลียนจะอยู่ใต้ทะเลลึกสักอีก ทว่ามันกลับอยู่บนเกาะขนาดใหญ่ ในความเป็นจริง เผ่าใต้สมุทรส่วนใหญ่จะอยู่บนบก เพราะมีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่อยู่ใต้ท้องทะเล พวกมันไม่ฉลาดและไม่ได้บ่มเพาะพลัง พวกมันเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยพละกำลัง หากพวกเขาอาศัยอยู่ใต้ท้องทะเล มันจะเป็นการเสี่ยงที่จะถูกสิ่งมีชีวิตพวกนั้นทำลาย
“ถ้างั้นเจ้าพาข้าไปที่ก้นทะเลทำไม?” หลิงฮันอดที่จะถามออกมาไม่ได้
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนยิ้มและพูดว่า “ในเมื่อเจ้ามาที่เผ่าใต้สมุทร ข้าเลยอยากพาเจ้าชื่นชมทิวทัศน์ของท้องทะเล”
หลิงฮันถึงกับพูดไม่ออก
เจ็ดวันต่อมา ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงดินแดนของตระกูลเฮ่อเหลียน เกาะฉงหยุน
“หยุด ที่นี่คือดินแดนของตระกูลเฮ่อเหลียนเจ้ามีธุระอันใดถึงมาที่นี่?” ทันทีที่พวกเขาย่างก้าวเข้ามา พวกเขาเห็นทหารยามที่คล้าย “คน” สองคนกระโจนเข้ามาหา ร่างกายของพวกเขาส่วนบนเป็นมนุษย์ แต่ส่วนล่างเป็นเหมือนกุ้งมังกร หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้เห็น
“จ…องค์หญิงลำดับเจ็ด!” เมื่อพวกเขาเห็นเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน พวกเขารีบโค้งคำนับทันที
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนหลบหนีจากการแต่งงานและปล่อยให้สองตระกูลใหญ่ร่วมมือกันตามล่านาง แต่ตระกูลเฮ่อเหลียนไม่เคยพูดว่าจะไม่ให้นางย่างก้าวกลับเข้ามาบ้านเกิด ต้องรู้ก่อนว่าสายเลือดของนางสูงส่งแค่ไหน และเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดหางนาง
ด้วยเหตุนี้ทหารยามที่คล้ายกุ้งทั้งสองคนจะไม่กล้าเคารพนางได้อย่างไร?
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนโบกมือและพูดว่า “ข้าต้องการพบพ่อของข้า”
“ขอรับ ข้าน้อยจะรีบไปรายงานให้ท่านประมุขทราบทันที!” ทหารยามกุ้งคนหนึ่งหันหลังและรีบไปรายงานอย่างรวดเร็ว