หลังจากนั้นไม่นานตัวตนที่ทรงอำนาจหลายคนก็ปรากฏตัวออกมา ถึงแม้พวกเขาจะตั้งใจกลบเกลื่อนกลิ่นอายอันทรงพลังของตนเอาไว้แค่ไหน แต่ภายในแววตาของพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยออร่าอันน่าสะพรึงกลัวอยู่ดี
มันคือออร่าอันทรงพลังของตัวตนระดับทลายมิติ
“สวินเสวี่ยน!” ชายในวัยกลางคเอ่ยขึ้น เขาสวมเสื้อคลุมห้าสีและมีร่างที่สูงใหญ่ บนหัวเขามีบริเวณที่นูนแหลมขึ้นมาเล็กน้อยราวกับเป็นเขาขนาดเล็ก มันคือหลักฐานว่าเขาคือผู้ที่สืบสายเลือดมาจากมังกร แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นนี้ อย่างเช่นเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนที่สืบสายเลือดมังกรและมีสายเลือดที่บริสุทธิ์ก็ไม่มีเขางอกออกมา
“คารวะท่านพ่อ!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนคำนับ อีกฝ่ายไม่ใช่แค่บิดาของนาง แต่ยังเป็นถึงผู้นำตระกูลเฮ่อเหลียนสวินและเป็นตัวตนระดับทลายมิติที่ทรงพลัง
หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะก่อนจะกล่าว “ข้าคือหลิงฮัน ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเฮ่อเหลียนแห่งมหาสมุทรทางเหนือ”
ตระกูลเฮ่อเหลียนยังไม่ได้แสดงท่าทีออกมาแน่ชัดว่าพวกเขายอมรับหรือปฏิเสธหลิงฮันเป็นลูกเขยรึยัง ดังนั้นหลิงฮันจึงไม่คิดจะทำท่าทีเย็นชาใส่พวกเขา
“ฮึ่ม!” นอกจากเฮ่อเหลียนหลง ผู้อาวุโสคนอื่นอีกห้าคนแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์ต่อหลิงฮันออกมา
หลิงฮันคือชายที่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเฮ่อเหลียนและตระกูลเซียนหยู่ พวกเขาอยากจะสังหารหลิงฮันให้ตายๆไปซะเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ!
เฮ่อเหลียนหลงพยักหน้าและกล่าว “เข้ามาข้างในก่อน”
ทั้งหกคนหันหลังเดินกลับเข้าไป เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเองก็หันมาพยักหน้าให้หลิงฮันและเดินตามเข้าไปเช่นกัน
พวกเขาทุกคนเดินเข้าไปในห้องโถงห้องหนึ่งและพบกับผู้คนมากมายที่นั่งอยู่ในห้อง ผู้คนเหล่านี้มีทั้งผู้อาวุโสและรุ่นเยาว์ เหล่าผู้อาวุโสนั้นจะมีที่นั่งในขณะที่รุ่นเยาว์จะยืนอยู่รอบๆ แต่ก็มีรุ่นเยาว์บางคนที่เป็นข้อยกเว้นและมีที่ให้นั่งเช่นกัน
รุ่นเยาว์ที่ได้นั่งคงจะเป็นผู้นำแห่งรุ่นเยาว์ในยุคสมัยหน้าของตระกูลเฮ่อเหลียน
หลิงฮันชำเลืองมอง รุ่นเยาว์เหล่านั้นมีพลังบ่มเพาะระดับก้าวสู่เทวา แต่ก็มีสองคนที่บรรลุระดับสวรรค์แล้ว จากที่มองดูพวกเขาควรจะมีอายุอยู่ในช่วงสี่สิบถึงห้าสิบปี
“สวินเสวี่ยน เจ้าหลบหนีการแต่งงานกับตระกูลเซียนหยู่ เจ้ารู้ถึงความผิดนี้ดีใช่ไหม?” ชายชราผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขากระแทกกระทั้นเต็มไปด้วยพลัง
หลิงฮันก้าวเดินไปด้านหน้าและยิ้ม “ครั้งนี้ที่พวกข้ายอมตอบรับคำเชิญมาที่เผ่าใต้สมุทรเป็นเพราะเรื่องของการชำระล้างที่จะเกิดขึ้น ทำไมจู่ๆถึงได้พาดพิงสวินเสวี่ยน? ถ้าหากเป็นเช่นนี้พวกเราคงต้องขอตัวกลับ”
“เผ่ามนุษย์จอมโอหัง เจ้ากล้าทำท่าทางอวดดีต่อหน้าข้างั้นรึ!” ชายชราก่อนหน้านี้คำราม เขาตัวตัวตนระดับทลายมิติที่ทรงพลัง การคำรามของเขาก่อให้เกิดคลื่นพลังที่ทำให้ทุกคนต้องรู้สึกแน่นหน้าอกราวกับร่างจะระเบิด
หลิงฮันไม่หวั่นเกรง ตอนที่เขาและเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนมาถึงตระกูล พวกเขาได้รับการต้อนรับจากจอมยุทธระดับทลายมิติหกคน ถึงแม้เฮ่อเหลียนหลงจะไม่ได้กล่าวอะไร แต่นั่นก็เห็นได้ชัดว่าเฮ่อเหลียนหลงต้องการเจรจาอย่างสันติ
หลิงฮันกล่าว “ถ้าตระกูลเฮ่อเหลียนไม่ต้อนรับพวกเรา เช่นนั้นพวกเราคงต้องขอตัว”
“มาถึงที่นี่แล้วเจ้าคิดว่าแค่พูดว่าจะกลับก็สามารถกลับได้?” จอมยุทธระดับทลายมิติอีกคนกล่าว รูปลักษณ์ของเขาดูเหมือนชายอายุสี่สิบปีและมีร่างที่สูงกำยำ ความสูงของเขานั้ราวกับเป็นภูเขาขนาดย่อม แถมแรงกดดันที่เขาปล่อยออกมาก็ทรงพลังยิ่งนัก
หลิงฮันชำเลืองไปยังจอมยุทธคนนั้นและกล่าว “โอ้ เจ้าคิดจะหยุดรั้งพวกข้า? เอาสิ แสดงให้ข้าเห็นหน่อยว่าเผ่าใต้สมุทรแข็งแกร่งขนาดไหน!”
ถ้าเขาหลบหนีไปเฉยๆ ตระกูลเฮ่อเหลียนก็จะคิดว่าเขาเป็นคนที่รังแกได้ง่ายๆ ภายภาคหน้าเขาจะต้องถูกพวกเขาดูถูกเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงต้องการประจันหน้ากับตระกูลเฮ่อเหลียนซึ่งๆหน้า
“ฮ่าๆ เจ้าคิดจะท้าประลองข้า?” จอมยุทธร่างใหญ่อดหัวเราะไม่ได้ นี่เป็นเรื่องขบขันที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมา… จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาคิดจะท้าทายจอมยุทธณระดับทลายมิติ!
“เจ้าไม่กล้า? ถ้าเจ้าไม่กล้าเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดสั่งข้า!” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชา
รุ่นเยาว์ผู้นี้บ้าไปแล้ว!
จอมยุทธมากมายในห้องโถงตกตะลึง ในสายตาของพวกเขาเผ่ามนุษย์ตรงหน้านั้นเป็นตัวตนที่แสนอ่อนแอ และตอนนี้ตัวตนที่แสนอ่อนแอนั้นกำลังท้าประลองกับผู้ที่เหนือกว่า
แม้ที่จริงจอมยุทธร่างยักษ์นี้จะไม่ใช่คนของตระกูลเฮ่อเหลียน แต่เขาก็เป็นคนของหนึ่งในเจ็ดขุมอำนาจภายใต้ตระกูลเฮ่อเหลียน ชื่อแซ่ของเขาคือหยูเจี่ยนเชิน เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นสาม
ตระกูลเฮ่อเหลียนมีจอมยุทธระดับทลายมิติมากกว่าสามสิบคน ภายในจำนวนนี้มีจอมยุทธระดับทลายมิติที่เป็นคนของตระกูลเฮ่อเหลี่ยนโดยตรงประมาณสี่สิบคน นับว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก
ก่อนหน้านี้เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเล่ารายละเอียดต่างๆของตระกูลเฮ่อเหลียนให้เขาฟังแล้ว ดังนั้นหลิงฮันจึงเข้าใจอำนาจของตระกูลเฮ่อเหลียนดี ที่ตระกูลเฮ่อมีจอมยุทธระดับทลายมิติมากมายนั้น หนึ่งก็เป็นเพราะเขามีสายเลือดจากบรรพบุรุษที่ช่วยให้บรรลุถึงระดับนี้ได้ สองคือพวกเขาที่เป็นลูกหลานของมังกรที่แท้จริงนั้นย่อมมีอายุขัยที่ยาวนาน แต่ละระดับพลังพวกเขาจะได้รับอายุขัยมากกว่าเผ่ามนุษย์ถึงสามเท่า
ยิ่งอายุขัยยืนยาว โอกาสที่จะทะลวงผ่านระดับก็ยิ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอายุขัยสามเท่านั้นได้มอบโอกาสอันไม่รู้จบให้กับพวกเขา
จอมยุทธระดับทลายมิติเผ่ามนุษย์นั้นมีอายุขัยเพียงหนึ่งพันปี แต่เผ่าใต้สมุทรนั้นมีถึงสามถึงสี่พันปี และด้วยยุคสมัยที่ผ่านพ้นไป พวกเขาจะไม่มีจอมยุทธระดับทลายมิติจำนวนมากได้อย่างไร?
“ฮ่าๆๆ รุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์ ถ้าเจ้าสามารถรับหนึ่งการโจมตีจากข้าได้ ข้าจะยอมให้เจ้าเปิดปากพูด!” หยูเจี่ยนเชินหัวเราะด้วยความโกรธ
คนอื่นๆในห้องโถงไม่มีใครพูดห้าม นั่นเพราะพวกเขาต้องการจะให้หยูเจี่ยนเชินสั่งสอนหลิงฮันเล็กๆน้อยๆ แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่คิดจะให้หยูเจี่ยนเชินลงมือหนักเกินไป เพราะอย่างแรกพวกเขาต้องการข้อมูลการชำระล้างจากหลิงฮัน และอย่างที่สองคือพวกเขาเคยถูกอี้ชวงชวงทุบตีมาก่อนทำให้รู้สึกหวาดกลัว
“ผู้อาวุโสสาม ทำไมท่านถึงลงมือล่ะ? ให้ข้าเป็นคนจัดการเองดีกว่า!” รุ่นเยาว์ร่างใหญ่อีกคนเดินออกมาและชี้นิ้วไปยังหลิงฮัน “ข้าคือหยูสื่อเหอ เป็นคนของตระกูลหยูเช่นกัน เจ้าเผ่ามนุษย์ จงยอมให้ข้าสังหารแต่โดยดีซะ!”
เมื่อเห็นหยูสื่อเหอเดินออกมา จอมยุทธบางคนของตระกูลเฮ่อเหลี่ยนก็ขมวดคิ้ว
มีเพียงจอมยุทธระดับทลายมิติของตระกูลเท่านั้นที่ตระหนักถึงการชำระล้าง พวกเขาต้องการข้อมูลเกี่ยวกับมันจึงได้เชิญหลิงฮันมาที่นี่ ซึ่งการชำระล้างเป็นภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาไม่อาจปล่อยให้ข่าวนี้หลุดไปถึงหูรุ่นเยาว์ได้
หยูสื่อเหอคือรุ่นเยาว์ที่ไม่รู้เกี่ยวกับการชำระล้างแม้แต่น้อย เขามีพลังบ่มเพาะระดับก้าวสู่เทวาขั้นเก้าและพลังต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว เขาสามารถสู้ข้ามระดับได้ทัดเทียมกับจอมยุทธระดับสวรรค์ขั้นต้น ถ้าเขาเผลอลงมือสังหารหลิงฮันจริงคงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่