แขนมังกรนั้นไม่ไกลจากหลิงฮันมากนัก
ในเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว มีแต่จะต้องลองดูเท่านั้น แม้จะต้องใช้ดาบสังหารหรือร้องขอความช่วยเหลือจากหอคอยน้อยก็ตาม เขาก็จะต้องลองดู
เมื่อหลิงฮันเดินไปอยู่ด้านหน้าแสงสีม่วง แสงสีม่วงพุ่งเข้ามาหาเข้าเหมือนกับคลื่นและโอบล้อมเขาไว้ เมื่อเขาก้มหน้ามองลงไป เขาเห็นดอกวิญญาณอมตะเปล่งแสงเลือนลางออกมา และดูเหมือนมันจะมีเป็นหนึ่งกับแสงสีม่วงนี่
ทันใดนั้น หลิงฮันรู้สึกว่ามันแปลก ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนเคยมาถึงที่นี่มาก่อน – แม้ว่าเขาจะตายไปแล้ว ทำไมถึงไม่พูดว่าต้องนำดอกวิญญาณอมตะมาใช้กับเขี้ยวมังกร?
เพราะมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะมาที่นี่ แต่เป็นดอกวิญญาณอมตะตั้งหากที่มีบทบาทสำคัญในการเดินผ่านแสงสีม่วง
แปลกมาก!
คิ้วของหลิงฮันเหี่ยวย่น และเกิดความสับสนอยู่ในใจ แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากเกินไป และเขาก็เดินมาถึงแท่นบูชาแล้ว
หึ่ง ในขณะที่หลิงฮันเดินขึ้นไปบนแท่นบูชา ก้อนหินส่องแสงกระพริบแปลกๆไปมา
เขาหยุดเดินทันทีและเพิ่มความระมัดระวัง หากมีอัตรายที่ไม่อาจต่อต้านได้ เขาก็จะเข้าไปในหอคอยทมิฬอย่างไม่ลังเล
นั่นเป็นเพราะมังกรที่ทรงพลังที่สุดในโลกถูกฝังอยู่ที่นี่
ทว่าแม้หลิงฮันจะหยุดเดิน แต่ก้อนหินยังคงส่องแสงกระพริบอย่างต่อเนื่อง และมีสายลมประหลาดโถมเข้าหา
หรือว่านี่คือสิ่งที่มังกรทิ้งไว้เบื้องหลัง?
หลิงฮันสังเกตอยู่สักพัก และพบว่าก้อนหินพวกนั้นส่องแสงกระพริบไปมาเพียงอย่างเดียว และไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร ดังนั้นเขาจึงเดินหน้าต่อในเมื่อเขี้ยวมังกรอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องยอมแพ้
ในที่สุด เขาก็เดินมาถึงด้านหน้าเขี้ยวมังกร และค่อยๆยื่นมือออกไปเก็บเขี้ยวมังกร แล้วห่อหุ้มมันด้วยสัมผัสสวรรค์ของเขาเพื่อเก็บมันเข้าไปในหอคอยทมิฬ
หึ่ง!
ดอกวิญญาณอมตะในมือเปล่งแสงสว่างไสว ทว่ามันกลับเลือนลางหายไปอย่างรวดเร็ว กลีบของมันเริ่มเหี่ยวเฉาและร่วงโรย ราวกับว่าพวกมันถูกดูดซับพลังไปจนหมดและเริ่มสลาย
ในขณะนั้น เขี้ยวมังกรเองก็ส่องแสงสว่างไสว แม้แต่หลิงฮันยังไม่อาจมองมันได้โดยตรง เขารีบหันหน้าหนีและหลับตาลงอย่างรวดเร็ว
มันจะต้องเป็นของข้า!
ช่วยไม่ได้ที่สีหน้าของหลิงฮันจะเปลี่ยนไป เพราะเขาพบว่าไม่สามารถนำเขี้ยวมังกรเข้าไปในหอคอยทมิฬได้
เป็นไปได้ยังไงกัน!
มีเพียงอย่างเดียวที่เขาไม่สามารถนำเข้าไปในหอคอยทมิฬได้ นั้นคือผู้คนที่ไม่เต็มใจเข้าไปซึ่งต่อต้านสัมผัสสวรรค์ของเขา แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเขี้ยวมังกร แล้วทำไมเขาถึงไม่สามารถนำมันเข้าไปได้?
หรือว่าเขี้ยวมังกรจะมีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง? หรืออาจเป็นเพราะเขี้ยวมังกรเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์เลยไม่สามารถนำเข้าไปในหอคอยทมิฬได้?
หลิงฮันรู้สึกมึนงง แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถลืมตาได้ และมองไม่เห็นว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขี้ยวมังกร ทั้งที่มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมานานหลายปี แต่ทำไมเขามาถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงที่อธิบายไม่ได้?
ดอกวิญญาณอมตะ!
ทันใดนั้น หลิงฮันตระหนักว่าแม้จะมีผู้คนเคยมาที่นี่หลายคน แต่ไม่มีพวกเขาคนใดพกดอกวิญญาณอมตะมาด้วยเลยทำให้เขี้ยวมังกรไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
แต่นี่คือการเปลี่ยนแปลงอะไร?
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ในที่สุดแสงที่เปล่งออกมาจากเขี้ยวมังกรก็จางลง หลิงฮันลืมตาขึ้นมาและเห็นดอกวิญญาณอมตะที่อยู่ในมือเหี่ยวเฉาไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่ลำต้นที่เปลือยเปล่า
และเมื่อเขาหันสายตาไปมองเขี้ยวมังกร เขาพบว่ามันกลายเป็นผลึกโปร่งใส่ไปแล้ว แม้ว่ามันจะถูกปกคลุมไปด้วยอักขระซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขี้ยวมังกร และดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว
มันน่าอัศจรรย์มาก แม้เขาจะไม่รู้ว่ามันอยู่ที่นี่มานานกี่ปี แต่มันยังมีชีวิตอยู่ มันมีจิตสำนึกเป็นของตัวเองและต่อต้านอำนาจของหอคอยทมิฬ
ความรู้สึกไม่สบายใจภายในใจของหลิงฮันเริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น มันเหมือนกับว่าเขาตกหลุมพรางดังนั้นเขาจึงเริ่มใช้เนตรแห่งสัจธรรมและตรวจสอบมันอย่างละเอียด
นี่มัน!
หลิงฮันใช้เนตรแห่งสัจธรรมมองเข้าไปในเขี้ยวมังกรและพบเด็กผู้ชายอยู่ในนั้น!
เด็กที่เขาเห็นน่าจะมีอายุหกหรือเจ็ดปีที่ค่อนข้างดูหล่อเหลาทีเดียว แต่เขากลับไม่มีร่องรอยที่แสดงให้เห็นว่าเป็นทายาทของมังกรเลย
หรือว่าเวลาจะผ่านไปนานเกินไป ทำให้มันบ่มเพาะพลังและมีสติปัญญาเป็นของตัวเอง?
เป็นไปไม่ได้!
แม้แต่ศพที่สองที่เป็นวิญญาณเกิดใหม่ อย่างน้อยยังต้องใช้กายหยาบที่สมบูรณ์ แล้วเขี้ยวมังกรจะให้กำเนิดชีวิตใหม่ได้อย่างไร?
แคร๊ก! แคร๊ก! แคร๊ก!
ในขณะที่หลิงฮันกำลังครุ่นคิด เขี้ยวมังกรเริ่มเกิดรอยแตก ราวกับมีใยแมงมุมปกคลุมไปทั่วเขี้ยวมังกรและพื้นดินเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง ปัง เมื่อเขี้ยวมังกรแตก มีเด็กชายคนหนึ่งปรากฏตัวออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดข้าผู้นี้ก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง!” เด็กชายตัวเล็กส่งเสียงเหมือนเด็ก แต่พลังปราณของเขามันเก่าแก่มาก เขาจ้องมองไปที่หลิงฮันและพูดว่า “เจ้าหนู ในเมื่อเจ้าเห็นบรรพบุรุษของเจ้าแล้ว นิเจ้ายังไม่คุกเข่าเคารพอีกรึ?”
หลิงฮันรู้สึกตกตะลึง เจ้าปีศาจเฒ่านี่ปรากฏตัวออกมาจากไหน? แต่เขาก็พบว่าเด็กชายที่อยู่ตรงหน้าอยู่แค่ระดับหลอมกายาเท่านั้น จึงไม่มีอะไรต้องกลัว
“เจ้าเด็กเหลือขอ นี่เจ้ากล้าทำตัวหยาบคายต่อบรรพบุรุษของเจ้าอย่างนั้นรึ แล้วเจ้าจะได้เห็นดีว่าข้าจะสั่งสอนเจ้ายังไง!” เด็กชายตัวเล็กไม่พอใจ ตู้ม เขาปลดปล่อยแรงกดดันของมังกรที่น่าสะพรึงกลัวออกมา นี่ไม่เกี่ยวกับระดับบ่มเพาะพลังแต่อย่างใด แต่เป็นพลังของสายเลือดล้วนๆ
แต่แรงกดดันของมังกรจะมีผลต่อหลิงฮันได้อย่างไร? เขาไม่ใช่ลูกหลานมังกรเสียหน่อย
หลิงฮันยื่นมือออกไปและจับเด็กนั่นขึ้นมา แล้วปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนที่จะตีก้นสั่งสอน เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เด็กชายตัวเล็กส่งเสียงกรีดร้องออกมาไม่หยุดและใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
นี่มันน่าอับอายเกินไปแล้ว ตัวตนของเขาเป็นใครกัน แต่กลับถูกรุ่นเยาว์จับตีก้น
“เจ้าเด็กเหลือขอ หยุดตีข้าได้แล้ว! เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าผู้นี้เป็นใคร!” เด็กชายตัวเล็กตะโกนและพยายามดิ้นรน
หลิงฮันยังคงตีก้นเด็กชายตัวเล็กไม่หยุด ขณะพูดว่า “ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าคือครึ่งมังกรที่แท้จริง!”