หลังกล่าวทักทายเสร็จ ราชันดาบก็คำรามและสะบั้นดาบโจมตีทันที “รัศมีดาบสิบเล่มที่ยาวกว่าร้อยฟุตพุ่งเข้าใส่ราชินีหยิน”
ราชินีหยินไม่แยแส นางเอื้อมมือออกไปคว้ารัศมีดาบและออกแรงบีบ ‘เพล๊ง’ รัศมีดาบถูกบดขยี้กลายเป็นเศษซากนับล้านทันที นางพยักหน้าและกล่าว “พรสวรรค์ของเจ้ายอดเยี่ยม หากเจ้าบ่มเพาะพลังจนถึงระดับทลายมิติขั้นเก้าและขัดเกลาพลังต่อสู้อีกซักร้อยปี บางปีเจ้าอาจจะมีพลังต่อสู้สิบห้าดาวได้”
ราชันดาบไม่กล่าวตอบ เขานั้นครองตำแหน่งจอมยุทธที่ทรงพลังมานานหลายปี แต่ตอนนี้เขากลับถูกศัตรูพูดสั่งสอนราวกับเป็นรุ่นเยาว์ แม้อีกฝ่ายจะชมเขาก็ไม่มีทางดีใจ
ราชันดาบกวัดแกว่งใบดาบปลดปล่อยปราณดาบออกมาเป็นเส้นสายรุ้ง อำนาจของใบดาบที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นราวกับจะทำให้สวรรค์และปฐพีแยกออกจากกัน
แข็งแกร่งมาก!
แต่โชคร้ายที่ศัตรูของเขาคือราชินีหยิน
พลังต่อสู้ที่ห่างกันถึงสี่ดาวไม่ใช่สิ่งที่แค่มีความพยายามก็จะทดแทนได้ ราชินีหยินสะบัดมือสลายปราณดาบได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้นราชินีหยินก็เริ่มลงมือ นางปล่อยฝ่ามือเข้าใส่ราชันดาบอย่างจังจนอีกฝ่ายไม่อยู่ในสภาพที่สามารถสู้ได้ต่อ
การต่อสู้แรก จักรวรรดิจันทราม่วงเป็นฝ่ายชนะ!
ครั้งนี้เป็นคราวของจักรวรรดิจันทราม่วงที่จะส่งคนออกไปสู้ก่อน
ซึ่งคนคนนั้นก็คือราชันเพลิงไพศาล ในขณะที่คู่ต่อสู้ก็คือจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์
จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์บรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าแล้ว พลังต่อสู้ของนางเองก็ขัดเกลามาจนถึงสิบเอ็ดดาว แต่ด้วยสายเลือดของนาง เมื่อเปิดใช้งานจะทำให้พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นเป็นสิบสามดาว
พลังต่อสู้เช่นนี้น่าสะพรึงกลัวมาก แค่นางคนเดียวก็สามารถกวาดล้างทุกตระกูลของมหาสมุทรทางเหนือได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าราชันเพลิงไพศาล พลังต่อสู้เช่นนี้ยังไม่เพียงพอ ผ่านไปไม่นานห้านิกายโบราณก็พ่ายแพ้เป็นครั้งที่สอง
ก่อนหน้านี้หลิงฮันคิดว่าในการต่อสู้รอบสองห้านิกายโบราณจะส่งตัวตนที่ยอดเยี่ยมมาอย่างเช่นจอมยุทธที่มีพลังต่อสู้สิบห้าดาว แต่การกระทำของพวกเขาในตอนนี้ราวกับว่าพวกเขายอมแพ้แล้ว
มีอะไรบางอย่างแปลกๆ!
หลิงฮันพยายามครุ่นคิด หรือว่าห้านิกายโบราณจะพยายามถ่วงเวลาเพื่อใช้วิธีการบางอย่างสังหารพวกเขาทุกคนที่นี่
“พวกนั้นยังไม่ได้ลงมือทำอะไรทั้งสิ้น” หม่าตั้วเปากล่าว สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความสับสน
ตอนนี้หม่าตั้วเปาคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกไม่ผิดแน่ ในเมื่อเขาเป้นคนเอ่ยออกมาเช่นนั้นก็แสดงว่าพวกห้านิกายโบราณยังไม่ได้ลงมือทำอะไรจริงๆ
ผ่านไปไม่นาน หลังจากการปะทะครั้งที่สองสิ้นสุด ราชันมหาดวงดารากับราชันมหาวารีก็คว้าชัยชนะมาให้กับจักรวรรดิจันทราม่วงได้สำเร็จ
หลังจากนี้ตราบใดที่ห้านิกายโบราณพ่ายแพ้อีกครั้งก็ไม่ต้องมีการต่อสู้อีกต่อไป เพราะพวกเขาได้แพ้ห้าครั้งแล้ว
มันจะง่ายเช่นนั้นเลยรึ?
“อะแฮ่ม การต่อสู้ครั้งที่ห้าจะเริ่มขึ้นแล้ว” ชายชรากระแอมและกล่าว “ฉัวชี่ฟง ครั้งนี้เป็นตาของเจ้า”
จอมยุทธโดดยรอบพร้อมใจกันเปิดทางให้รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งเดินออกมา
เขาเป็นรุ่นเยาว์จริงๆ ร่างของเขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า จากรูปลักษณ์แล้วอายุของเขาต้องไม่เกินยี่สิบแน่นอน
รุ่นเยาว์ผู้นี้เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติจริงๆ!
“ข้าคือฉัวชี่ฟง!” รุ่นเยาว์ผู้นั้นกล่าวอย่างเรียบง่าย “ปีนี้ข้าอายุสิบเก้าปี”
คำพูดหลังเห็นได้ชัดว่าเขากล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมเขาต้องบอกอายุตนเองด้วย?
หลิงฮัน หม่าตั้วเปาและแปดราชันตกตะลึง จอมยุทธระดับทลายมิติที่มีอายุสิบเก้าปีนั้นดูเกินจริงเกินไป! แม้แต่หลิงฮันที่เคยผ่านเส้นทางการบ่มเพาะพลังมาแล้ว ปีนั้นเขาที่อายุเกือบจะยี่สิบเอ็ดก็ยังไม่สามารถกลับไปมีพลังบ่มเพาะระดับสวรรค์ได้
ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของหลิงฮันนับว่ารวดเร็วมากแล้ว
จอมยุทธระดับทลายมิติที่อายุสิบเก้าปีงั้นรึ? บ้าชัดๆ!
หม่าตั้วเปาจ้องไปยังฉัวชี่ฟงก่อนที่สีหน้าเขาจะกลายเป็นเคร่งเครียด “เขาเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติขั้นเก้าจริงๆ แถมยังยังแข็งแกร่งมากๆด้วย!”
แปดราชันตกตะลึงมากที่อีกฝ่ายบรรลุระดับทลายมิติได้ด้วยอายุเพียงสิบเก้าปี แม้จะเป็นไปได้ที่โลกนี้จะมีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้จอมยุทธเพิ่มระดับพลังยุทธได้อย่างรวดเร็ว แต่การที่จะเพิ่มจากระดับทลายมิติขั้นหนึ่งเป็นขั้นเก้านั้น อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาถึงสิบปีเป็นอย่างน้อย
เช่นนี้แล้วใครจะสามารถทัดเทียมเขาได้?
เกรงว่าด้วยพรสวรรค์ที่ราวกับสัตว์ประหลาดของฮูหนิว นางคงจะใช้เวลาไม่นานนักในการฝึกฝนจากระดับทลายมิติขั้นหนึ่งไปขั้นเก้า บางทีถ้าเป็นนางอาจจะบรรลุระดับพลังขั้นสูงสุดของโลกนี้ได้ในช่วงอายุสิบเก้าปี
ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้… ยังมีจอมยุทธที่มีพรสวรรค์เหมือนกับฮูหนิวอยู่อีกคนจริงๆรึ?
“ใครจะสู้กับข้า?” ฉัวชี่ฟงกล่าวท้าทาย “อย่าให้ข้าต้องรอนาน”
ราชันขุนเขาเที่ยงธรรมรู้สึกไม่สบอารมณ์ เขากระโจนร่างอออกไปทันทีและกล่าว “ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าเอง!”
“ก็ดี ข้าจะช่วยชี้แนะเจ้าเอง” ฉัวชี่ฟงกล่าวอย่างองอาจ
ราชันขุนเขาเที่ยงธรรมหัวเราะด้วยความเกรี้ยวกราด “งั้นก็มาสู้กัน!”
“ไม่สิ ข้าจะสยบเจ้าด้วยหนึ่งกระบวนท่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลา!” ฉัวชี่ฟงหัวเราะ
ราชันขุนเขาเที่ยงธรรมกลายเป็นเกรี้ยวกราดมากกว่าเดิม ร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยประกายสายฟ้า ในมือของเขาปลดปล่อยแสงสว่างสีทองออกมา
ทักษะอัสนีบาตเก้าทิวาและทักษะผนึกพลิกปฐพี!
หลิงฮันพยักหน้าในใจ แปดราชันสามารถใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์ของกันและกันได้จริงๆ ทุกๆคนล้วนแต่เชี่ยวชาญทักษะมากกว่าหนึ่ง
ฉัวชี่ฟงแสดงท่าทีตกตะลึงเล็กน้อยและกล่าว “ทักษะศักดิ์สิทธิ์?”
ราชันขุนเขาเที่ยงธรรมคำราม ร่างของเขากลายเป็นสายฟ้าและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
‘ตูม!’
ทักษะผนึกพลิกปฐพีถูกใช้ออกไป ภายในพริบตาร่างของฉัวชี่ฟงก็แตกสลายเป็นส่วนๆทันที
สำหรับจอมยุทธระดับทลายมิติแล้ว การถูกทำให้ร่างแตกสลายนั้นยังไม่ถึงกับจะทำให้พวกเขาตกตาย พวกเขาสามารถนำร่างกลับมารวมกันใหม่ได้แต่นั่นก็เป็นเรื่องยากมากอยู่ดี
งั้นหรือว่าฉัวชี่ฟงจะพ่ายแพ้แล้ว ซึ่งหมายความว่าการพนันจะสินสุดลง?
“โอ้ นั่นนับว่าน่าสนใจไม่เลวเลย แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ยังรวดเร็วไม่พอ!” เสียงของฉัวชี่ฟงดังขึ้น ร่างของเขานั้นไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ร่างของเขาที่แตกสลายไปก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพติดตาเท่านั้น!