มนุษย์แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?
จอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้สิบแปดดาวเกือบจะอยู่บนจุดสูงสุดของโลกใบนี้ และพวกเขายังมีกันถึงเจ็ดคน และด้วยการร่วมมือกันทำให้พวกเขาสามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้ยี่สิบดาวได้ แต่ทำไมพวกเขาถึงยังคงรู้สึกหวั่นเกรง?
หรือว่าความแข็งแกร่งของหม่าตั๋วเป่าจะมากกว่ายี่สิบดาว?
“ไม่มีทาง!”
อู่เกาเหยียนและคนอื่นส่ายหัวปฏิเสธ พวกเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าจะมีคนที่มีพลังต่อสู้มากกว่ายี่สิบดาวอยู่แม้แต่ทายาทของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีระดับพลังต่อสู้ยี่สิบดาวก็ยังแทบจะไม่มี
“วันนี้พวกเขาจะต้องจัดการเขาให้ได้ มิฉะนั้นถ้าเขาได้รับความช่วยเหลือจากพลังแห่งจักรพรรดิ เขาจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก!” ฉัวชี่ฟงกล่าว
“ตาย!” เซียวเมี่ยวเหยียนตะโกนและหยดโลหิตหนึ่งหยดลงบนดาบ โลหิตเริ่มหนืดราวกับว่ามันกำลังตกผลึก
ในขณะที่นางหยดโลหิตลงไป สวรรค์และปฐพีเริ่มเคลื่อนไหวและปรากฏเมฆครึ้มไปทั่วท้องฟ้าพร้อมกับสายฟ้าที่วิ่งอยู่ด้านใน
โลหิตหยดนั้นทรงพลังเกินไป แม้แต่สวรรค์และปฐพียังต้องเคลื่อนไหว!
“โลหิตพระเจ้า!” ในที่สุดหม่าตั๋วเป่าก็แสดงสีหน้ากังวลออกมา
แน่นอนว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ส่งพวกเขาลงมาห้าคนเท่านั้น แต่ยังให้สมบัติล้ำค่าติดตัวมาด้วย! แม้ว่าหยดโลหิตจะไม่สามารถเป็นตัวแทนตัวตนระดับพระเจ้าได้ แต่พลังของมันสามารถขับเคลื่อนสวรรค์และปฐพีได้
เซียวเมี่ยวเหยียนพูดพึมพัมกับตัวเอง ไม่มีใครรู้ว่านางกำลังพูดอะไร และโลหิตของพระเจ้าก็เปลี่ยนเป็นสายฝนและโปรยปรายอยู่บนดาบของนาง ทันใดนั้นเอง ดาบของนางก็เปล่งแสงอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา และบดบังขวานภูผาวารี
โลหิตหนึ่งหยดของพระเจ้าเทียบได้กับขวานภูผาวารีของจริง มันน่าสะพรึงกลัวมาก
ในขณะเดียวกันฉัวชี่ฟงและคนอื่นๆก็นำหยดโลหิตออกมาเพื่อเสริมแกร่งให้กับอาวุธวิญญาณของตัวเองเหมือนกัน และทันใดนั้น กลิ่นอายของพวกเขาก็เริ่มน่าสะพรึงกลัวขึ้นหลายเท่า ราวกับว่าพวกเขาทุกคนกลายเป็นตัวตนระดับพระเจ้า
ตอนนี้พวกเขาทั้งห้าคนมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวไม่ได้ด้อยไปกว่าหม่าตั๋วเป่าอีกต่อไป
“ตาย!”
พวกเขาทั้งห้าคนร่วมมือกันและปล่อยการโจมตีที่รุนแรงออกมา อาวุธวิญญาณทั้งห้าชิ้นแผ่กระจายอำนาจอันยิ่งใหญ่ออกมาและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้ดวงดาวแตกเป็นเสี่ยงๆ
การโจมตีนี้จะป้องกันได้อย่างไร?
เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่มีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวห้าคน แม้จะมีกายหยาบเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบก็ไม่มีทางต้านทานได้! เป็นไปได้ไหมว่ากายหยาบของหม่าตั๋วเป่ามีความยืดหยุ่นมากกว่ากายหยาบของหลิงฮัน?
มันจบแล้ว!
หม่าตั๋วเป่ายังคงเผยสีหน้าที่เคร่งขรึม ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็ไม่มีทางต่อกรกับคนที่มีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวพร้อมกันห้าคนในคราวเดียวได้! แต่ทันใดนั้นเอง เขาเหยียดนิ้วออกมาและตะโกนว่า “เปิด!”
ปัง!
ทันใดนั้นเอง จิตสังหารที่ไม่รู้จบพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา และร่างกายของเขาก็เปล่งแสงสีขาวออกมาและสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าบนผิวของเขาเต็มไปด้วยอักขระเรืองแสงนับไม่ถ้วนและให้กลิ่นอายที่เก่าแก่
สิ่งที่น่าตกตะลึงมากกว่านั้นคือจิตสังหารที่ไม่รู้จบที่ทำให้ทุกคนต้องหวาดกลัว
เจตจำนงแห่งเต๋า?
ไม่ใช่ นี่มันรูปแบบอาคม!
หลิงฮันเคยเห็นหยินหงสร้างรูปแบบอาคมบนเรือนรางของนางมาก่อนซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับเขา ในการต่อสู้ถ้าเขากระตุ้นรูปแบบอาคมบนร่างกายมันก็จะสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา แต่รูปแบบอาคมของหม่าตั๋วเป่า…มันดูเป็นหนึ่งเดียวกันธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ!
แม้แต่หลิงฮันก็ยังสงสัยว่าใครสามารถสร้างรูปแบบอาคมแบบนั้นได้ แม้จะมองด้วยเนตรแห่งสัจธรรมเขาก็ไม่อาจมองความซับซ้อนของมันออก ความซับซ้อนแบบนั้น ถ้าไม่ได้เรียนรู้มานานหลายร้อยปี คงไม่มีทางสร้างขึ้นมาได้
หรือว่าเขาจะเกิดมาพร้อมกับรูปแบบอาคม? ถ้าอย่างนั้นเขาก็เป็นเหมือนกับรูปแบบอาคมสังหารที่สาม!
ถ้าเป็นในกรณีนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่รูปแบบอาคมสังหารที่สามจะหวาดกลัว เพราะพวกเขาต่างมองกันและกันออก
แต่ว่ารูปแบบอาคมสังหารที่สามกลับหวาดกลัวหม่าตั๋วเป่าเพียงแค่เขาเปิดปากพูด นี่มันหมายความว่ายังไง?
“ร…รูปแบบอาคมสังหารที่หนึ่ง!” ฉัวชี่ฟงและคนอื่นหยุดโจมตีพร้อมกันทันที และใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวา
หม่าตั๋วเป่าเป็นรูปแบบอาคมสังหารที่หนึ่ง!
มีตำนานกล่าวไว้ว่ารูปแบบอาคมสังหารที่หนึ่งสามารถสังหารได้แม้กระทั่งตัวตนระดับพระเจ้า แล้วพวกฉัวชี่ฟงจะไม่รู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร? เพราะพวกเขายังไม่ได้เป็นตัวตนระดับพระเจ้า
หลิงฮันไม่รู้สึกว่าใจที่หม่าตั๋วเป่าทิ้งชื่อ “อันดับหนึ่ง” ไว้บนแผ่นหิน มันไม่ใช่เพราะความเย่อหยิ่งของเขา แต่มันเป็นเพราะนั่นคือชื่อที่แท้จริงของเขา
หม่าตั๋วเป่ายังคงปลดปล่อยจิตสังหารอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา และทำให้สวรรค์และปฐพีถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาว ทำให้พื้นดินเริ่มแยกออกจากกัน และชั้นบรรยากาศก็เริ่มฉีกขาด และเกิดความผันผวนของพลังที่ไม่รู้จบ
นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของรูปแบบอาคมสังหารที่หนึ่งที่สามารถสังหารพระเจ้าได้!
พวกของฉัวชี่ฟงพยายามยืนหยัดและช่วยกันต่อต้านพลังของหม่าตั๋วเป่า แม้แต่อาวุธวิญญาณห้าชิ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกรวมพลังกันก็ยังไม่สามารถป้องกันได้
พรวด พวกเขาทั้งห้าคนเริ่มกระอักโลหิตออกมา
ฉากที่เกิดขึ้นทำให้ห้านิกายโบราณและนิกายพันศพเริ่มสิ้นหวัง รูปแบบอาคมสังหารที่หนึ่งมีเพียงแค่ตัวตนระดับพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถหยุดยั้งได้ มิฉะนั้น เขาจะมีชื่อว่าอันดับหนึ่งได้อย่างไร?
ตู้ม!
แต่ทว่าในขณะนั้นเองได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้น เกิดเสียงระเบิดออกมาจากรอยแตกของมิติที่หม่าตั๋วเป่าเป็นคนฉีกขาด!
เนื่องจากรอยแตกของช่องว่างมิติไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักทำให้เรือบินโผล่ออกมาได้ทีละนิด แต่มันก็ทำให้ทุกคนขาอ่อนและตกลงมาจากท้องฟ้า
ไม่มีใครสามารถยืนหยัดได้ นอกจากพวกฉัวชี่ฟง ราชันซากศพสิบแปดตาและหม่าตั๋วเป่า
ปัง เกิดเสียงบางอย่างดังขึ้นและมีจอมยุทธระดับทลายมิติมากกว่าร้อยคนตกลงมาจากท้องฟ้าเหมือนกับห่าฝน
ฉากที่เกิดขึ้นดูตลกเล็กน้อย ทั้งที่เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติเหมือนกันแท้ๆ แต่ก็ไม่มีใครกล้าหัวเราะและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ทุกคนรู้ว่าจอมยุทธระดับทลายพวกนั้นไม่ธรรมดา ถึงแม้จะมีกายหยาบระดับสิบก็สามารถถูกฉีกเป็นชิ้นๆได้อย่างรวดเร็ว แต่มันก็เป็นเรื่องยากเกินไปที่จะเปิดช่องว่างมิติได้ มีเพียงแค่จอมยุทธระดับทลายมิติเท่านั้นที่สามารถทำได้ โดยการเปิดเส้นทางเชื่อมต่อกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์
แต่ช่องว่างระหว่างมิตินั่นเป็นอะไรที่อันตรายมากและสามารถพังทลายได้ทุกวินาที
แต่เรือลำนั้นออกมาจากความว่างเปล่า!
นี่เป็นเหมือนกับตำนาน วัสดุประเภทไหนกันที่สามารถต้านทานพลังช่องว่างระหว่างมิติได้?
ในขณะนั้นทุกคนไม่มีความคิดที่จะต่อสู้อีกต่อไป พวกเขาต่างก็รู้สึกตกตะลึงและสับสน
หรือว่าเรือลำนี้…
ตู้ม ตู้ม ตู้ม เรือบินกระแทกกับรอยแตกในอากาศ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รุนแรงอะไร แต่ทุกการปะทะทำให้เรือสั่นไหว แม้กระทั่งจอมยุทธระดับทลายมิติก็ยังกระอักเลือดออกมา
หอคอยทมิฬในร่างกายของหลิงฮันสั่นไหวเล็กน้อย ทั้งที่หลิงฮันและฮูหนิวไม่รู้สึกอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก