เขาต้องมีความกล้าขนาดไหนกันถึงกล้าดื่มชากับวิญญาณ?
และเขารู้หรือไม่ว่ากำลังจะดื่มอะไร? เขากล้าที่จะดื่มอะไรที่วิญญาณให้ดื่ม นี่เขาไม่กลัวว่าจะกลายเป็นเหมือนพวกนางเลยรึ?
คนอื่นมองหน้ากันไปมา และคิดว่าถ้าหลิงฮันจะดื่มชาร่วมกับวิญญาณก็ปล่อยให้เขาดื่มไป ส่วนพวกเขาเพียงแค่รอดูสถานการณ์ก็เพียงพอ
ก่อนหน้านี้ทหารหญิงหลายคนสามารถคุกคามจอมยุทธระดับสวรรค์ได้ และถ้าหญิงสาวคนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่า ไม่ใช่ว่านางสามารถคุกคามจอมยุทธระดับทลายมิติได้หรอกรึ? ดังนั้น ก่อนที่จะรู้ว่าสถานการณ์เป็นเช่นไร ใครจะกล้าเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้า นั่นเป็นเพราะต้นกำเนิดของเรือลำนี้ประหลาดมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในสายตาของข้า พวกเจ้าทุกคนไม่ได้แตกต่างกันเลย แค่แข็งแกร่งกว่ามดเล็กน้อยเท่านั้น” หยิงสาวคนนั้นพูดด้วยท่าทางผ่อนคลาย “นั่งลง”
เมื่อได้ยินที่นางพูด ฉัวชี่ฟงและอัจฉริยะที่เหลือที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์รู้สึกไม่พอใจ พวกเขามาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นางไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหน?
หลิงฮันนั่งลงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า อันที่จริงแล้วหอคอยน้อยบอกให้เขาทำ
แม้ว่าหอคอยน้อยจะพูดจาไม่ตรงกับปากว่าอยากจะเปลี่ยนเจ้านายอยู่บ่อยครั้ง แต่มันก็ช่วยเหลือหลิงฮันอยู่ตลอด
หญิงสาวคนนั้นรินชาให้หลิงฮัน น้ำชาที่นางรินให้ยังร้อนอยู่ และหลังจากรินไปได้ครึ่งถ้วย นางก็วางกาน้ำชาลง
ฉากที่เกิดขึ้นมันทำให้ทุกคนตกตะลึง นางตายไปแล้ว แต่ยังสามารถเทชาร้อนได้ นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก นี่มันชาอะไรกัน!
ทุกคนมองไปที่ถ้วยชาตรงหน้าหลิงฮัน และเริ่มส่งเสียงพึมพัม
“ข้าเห็นแสงกระบี่และจิตสังหาร!”
“ข้าเห็นส่วนหนึ่งของอนาคต!”
“ข้าเห็นดินแดนที่มืดมนที่เต็มไปด้วยภูติผี!”
ทุกคนเห็นฉากที่แตกต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันคือฉากที่เห็นมันทำให้พวกเขาเหงื่อท่วมตัว อย่าว่าแต่จอมยุทธระดับทลายมิติทั่วไปเลย แม้กระทั่งคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างหม่าตั๋วเป่าและอู่เกาเหยียนยังสั่นเทา
พรึบ ราชันซากศพสิบแปดตายิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ ตาเจ็ดดวงของมันปิดลงอย่างกะทันหัน ทำให้ความแข็งแกร่งของมันลดลงอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวมาก เพียงแค่เหลือบมองถ้วยชาใบเดียวก็ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าทึ่งขึ้น
เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว เขาจะยังกล้าดื่มมันอีกหรือไม่?
ราชันซากศพสองร่างส่งเสียงพึมพัม และรีบล่าถอยไปด้านหลัง โครงกระดูกของมันสั่นไหวไปมา ดูเหมือนกับว่าจะพังทลายลงได้ทุกเมื่อ
น่ากลัว!
ทุกคนส่ายหัว เพียงแค่มองถ้วยชาตรงหน้าก็เหมือนมีมีดจ่ออยู่ที่คอของพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่มีทางดื่มมันเด็ดขาด ถ้าดื่มมันเข้าไปพวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
“หลิงฮัน!” หม่าตั๋วเป่าตะโกนเรียกเขาไม่ต้องการให้หลิงฮันเสี่ยง อนาคตของอีกฝ่ายนั้นสว่างไสวไร้ที่สิ้นสุด ถ้าเขาเปิดสวรรค์ล้มเหลว อย่างน้อยเขาก็ยังพึ่งพาหลิงฮันได้ ในขณะที่ราชันทั้งแปดนั้นไม่สามารถทำได้
หลิงฮันเองก็รู้สึกลังเล ชาถ้วยนี้มันน่ากลัวเกินไป
แต่หญิงสาวคนนั้นก็ไม่ได้เร่งเร้าหลิงฮัน นางเพียงแค่มองหลิงฮันด้วยรอยยิ้ม
หลิงฮันรู้สึกลังเลอยู่สักพัก และในที่สุดเขาก็เหยียดแขนออกไปและพูดว่า “ผู้อาวุโสชาถ้วยนี้แปลกประหลาดมาก มันทำให้ข้ารู้สึกหวาดกลัวไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจ แต่ในเมื่อผู้อาวุโสเป็นคนใจดีรินชาให้ข้า แน่นอนว่าข้าจะต้องดื่มมันให้กิน”
หลิงฮันหยิบถ้วยชาและจิบเล็กน้อย
ขม! ขมมาก!
สีหน้าของหลิงฮันดูอมทุกข์ ความขมของมันสามารถฆ่าคนได้เลย แต่เขาก็ไม่พ่นน้ำชาออกมา และกลืนลงไป
นี่คือชีวิตที่ขมขื่น!
ทุกคนรู้สึกตกใจ ในแง่ของความแข็งแกร่งทางร่างกาย หม่าตั๋วเป่าสามารถเทียบได้กับหลิงฮัน แต่หลิงฮันกับแสดงท่าทีแบบนั้นออกมา ซึ่งนั่นหมายความว่าใครก็ตามที่ดื่มชานั้นเข้าไปผลลัพธ์ก็คงเหมือนกัน
ตุบ ตุบ หูทั้งสองข้างของหลิงฮันหลุด ตามด้วยจมูก และฟันทั้งปาก และผมของเขาก็ร่วงจนหมดกลายเป็นคนหัวล้าน
มันยังไม่จบแค่ไหน ผิวหนังของเขาเริ่มปริแตก และกระดูกสีทองเริ่มปรากฏออกมาให้เห็น และเริ่มมีรอยแตกเหมือนกับใยแมงมุมบนกระดูกที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบ
ฉากที่เกิดขึ้นมันน่าสะพรึงกลัวมาก กระดูกที่แข็งเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบยังเกิดรอยแตก
“น่าเสียดายจริงๆ” จิ่วโหยวหวังรู้สึกเสียดายมาก ถ้าได้กายหยาบของหลิงฮันมาหลอมเป็นซากศพ มันจะต้องเป็นสุดยอดราชันซากศพอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ร่างของเขากำลังพังทลาย
“ดูเหมือนพวกเราจะสูญเสียอัจฉริยะไปคนหนึ่งซะแล้วสิ” บางคนเริ่มพูดเย้ยหยัน กายหยาบของหลิงฮันแข็งแกร่งเกินไป แม้ตัวตนระดับพระเจ้าก็ไม่อาจฆ่าเขาได้ แต่ตอนนี้ฉากที่เกิดขึ้นมันดูงดงามมากสำหรับพวกเขา
ชานี้มัน…มันเป็นยาพิษที่รุนแรงและร้ายกาจมากที่สุดตั้งแต่อดีตกาล แม้กระทั่งกายหยาบที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบก็ไม่อาจต้านทานได้
ฮูหนิวรู้สึกกังวลและกระโดดไปมา แต่นางก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรราวกับว่ารู้อะไรบางอย่าง
หม่าตั๋วเป่าและแปดราชันต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าทันที แต่หญิงสาวคนนั้นหันสายตามาจ้องมองพวกเขาด้วยกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัว ทำให้หม่าตั๋วเป่าและแปดราชันต้องหยุดชะงักและนั่งลงกับพื้นทันที
มันน่าอัศจรรย์มาก นางมีพลังต่อสู้ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เพราะอะไรกันเนตรแห่งสวรรค์ถึงไม่ปรากฏออกมา?
“หรือว่า…มันจะเป็นเพียงแค่แรงกดดันไม่ใช่พลังที่แท้จริง” ผู้อาวุโสของห้านิกายโบราณคาดเดา
แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่แรงกดดัน มันก็เหมือนกับม้วนคำสั่งของจอมยุทธระดับทลายมิติที่ใช้กับคนที่มีพลังด้อยกว่า แต่ว่าหญิงสาวคนนี้แข็งแกร่งเกินไป
“หรือว่านางจะเป็นจอมยุทธระดับดวงดาราระดับวารีนิรันดร์?” อู่เกาเหยียนและอัจฉริยะจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คิดอยู่ในใจ นิกายของพวกเขามีจอมยุทธระดับภูผาวารีและระดับสุริยันจันทรา แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด
ในที่สุดกระดูกของหลิงฮันก็แตกหักจนหมด และร่างของเขาทั้งร่างกายเป็นกองเนื้อและเลือด ซึ่งดูน่าสยดสยองมาก
พิษนี่มันรุนแรงมาก ทั้งที่เขาจิบชาไปแค่จิบเดียวเท่านั้น
ทุกคนรู้สึกตกใจ แต่ก็รู้สึกดีใจที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนดื่ม
ฮูหนิวยังคงนิ่งเฉย และจ้องมองไปที่กองเนื้อของหลิงฮัน ด้วยแววตาที่ตื่นเต้น
หญิงสาวคนนั้นก็เหมือนกัน นางจ้องมองไปที่ที่หลิงฮันเคยนั่ง และพูดว่า “เจ้าโชคดีจริงๆที่สามารถรับพลังของชาจุติได้!”
เมื่อเสียงของนางตกลง กระดูกของหลิงฮันเริ่มเปล่งแสงสีทอง เศษกระดูกนับไม่ถ้วนของเขาเริ่มจัดโครงสร้างขึ้นมาใหม่ และในไม่ช้าก็กลายเป็นโครงกระดูกของมนุษย์!
อะไรกัน เจ้าเด็กนี่ยังไม่ตายอย่างนั้นรึ?
ทุกคนรู้สึกตกตะลึง ทั้งที่กระดูกของเขาแตกหักไปชิ้นๆ แต่เขากลับยังไม่ตาย ไม่ใช่ว่ามันไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ?
“การเกิดใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว!” หญิงสาวคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ร่างกายของหลิงฮันเริ่มก่อตัวขึ้นมาใหม่ด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง กระดูกของเขาเริ่มมีกล้ามเนื้อและโลหิต จากนั้นไม่นานก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างของเขา
“การเกิดใหม่ มันจะต้องทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่าแน่นอน ปล่อยไว้ไม่ได้เด็ดขาด!” “ผู้อาวุโสของห้านิกายโบราณกล่าวขณะเผาผลาญโลหิต พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นทันทีอยู่ที่ระดับทลายมิติสิบสี่ดาว และกระโจนออกไปเพื่อโจมตีหลิงฮัน
ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการปรับโครงสร้างของหลิงฮัน ร่างกายของเขาในตอนนี้อ่อนแอมากและสามารถถูกฆ่าตายได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ทว่าหม่าตั๋วเป่าและราชันทั้งแปดยังคงถูกแรงกดดันของผู้หญิงคนนั้นกดทับอยู่ ทำให้พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวเข้าไปช่วยเหลือหลิงฮันได้!