เมื่อถูกพาเข้าไปในหอคอยทมิฬไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนอีกฝ่ายก็ต้องพูดสารภาพ!
หลิงฮันปรากฏตัวออกมาและหันไปมองกวนหยวง
การต่อสู้ของเขากับจักรพรรดิจอมอสูรนั้นยาวนาน แต่ที่จริงแล้วเพียงแค่สองหรือสามกระบวนท่าเท่านั้น และกวนหยางยังคงรู้สึกตกตะลึง
ปัง ในระยะไกล เซียวเมี่ยวเหยียนบินขึ้นมาจากภูเขาที่พังทลายและเสื้อผ้าของนางถูกฉีกขาดหลายจุดทำให้เห็นผิวขาวของนาง ซึ่งดูน่าดึงดูดเป็นอย่างมากก ตรงมุมปากของนางมีรอยเลือดปรากฏให้เห็น สีหน้าของนางดูซีดขาวและผมยุ่งเล็กน้อย และสายตาของนางก็เต็มไปด้วยความกลัว
นางกำลังหวาดกลัวอยู่จริงๆ
นางจะต่อกรกับหลิงฮันได้ยังไง?
นางอยากจะร้องไห้ออกมาทั้งที่พลังต่อสู้ระดับทลายมิติสิบแปดดาวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์สามารถกวาดล้างโลกเบื้องล่างได้อย่างง่ายดาย แต่ที่จริงแล้วนางกับเป็นฝ่ายถูกเล่นงานอยู่หลายครั้ง
ครั้งแรกคือหม่าตั๋วเป่า ครั้งที่สองคือจอมยุทธที่อยู่ในเรือลึกลับ และครั้งนี้ก็คือหลิงฮัน
หรือว่าที่นี่จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์?
“หนี!” นางรีบตัดสินใจหนีทันที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนางควรให้ผู้คนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาเป็นคนจัดการต่อ
กวนหยางไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่หันหลังกลับและรีบหนี
หลิงฮันเผยรอยยิ้มและพูดว่า “พี่ชายกวน เจ้าเป็นถึงอัจฉริยะจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับทำตัวน่าอับอายอย่างการหลบหนี คิดหรือว่าจะหนีข้าพ้น?”
ใบหน้าของกวนหยางกลายเป็นบิดเบี้ยว ตอนนี้เขาจะต่อกรกับหลิงฮันได้อย่างไร?
ต้องหนีเท่านั้น!
“ในเมื่อพี่ชายกวนไม่ให้ความร่วมมือ ข้าก็คงไม่มีทางเลือกอื่น!” หลิงฮันใช้ย่างก้าวเทพธิดาปีศาจและทักษะอัสนีเก้าทิวา ทำให้ความเร็วของเขารวดเร็วดั่งภูติผี และปรากฏตัวอยู่ด้านหน้ากวนหยาง
กวนหยางกัดฟัน ปัง มีแสงสว่างออกมาจากร่างกายของเขา
เขาเผาผลาญพลังชีวิตของตัวเอง และคิดที่จะหลบหนีให้ได้
“เจ้าไม่ดูถูกโลกเบื้องล่างแล้วใช่หรือไม่?” หลิงฮันพูดเยาะเย้ย และโจมตีออกไปด้วยฝ่ามือผนึกพลิกปฐพี ทำให้บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงสีทอง “แทนที่จะวิ่งหนีหันมาสู้กับมดที่ต่ำต้อยอย่างพวกข้าดีกว่า”
ความเร็วของกวนหยางนั้นรวดเร็วมาก แต่เขาก็ถูกขัดขวางโดยการโจมตีของหลิงฮันและกระเด็นกลับมาด้านหลัง
นี่ทำให้เขารู้สึกตกตะลึงมาก อีกฝ่ายมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวเขาไม่สามารถหลบหนีได้ แต่ยังขวางทางเขาได้ด้วย! นี่หมายความว่ายังไงน่ะหรือ? พลังต่อสู้ของหลิงฮันมีกว่ายี่สิบดาว!
“ข้าจะโจมตีเจ้าด้วบดาบหนึ่งกระบวนท่า ถ้าเจ้าสามารถรับได้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!” หลิงฮันส่งเสียงคำราม “ข้าให้คำมั่นสัญญา!” คำพูดของเขาดังไปทั่วโลกผ่านตราสัญลักษณ์
“องค์จักรพรรดิจงเจริญ!”
“ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!”
ผู้คนที่อยู่ในเมืองจักรพรรดิรู้ความจริงละส่งเสียงให้กำลังใจทันที แต่ถึงแม้ว่าเมืองอื่นจะไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น พวกเขาก็รู้สึกว่าโลหิตของพวกเขากำลังเดือดพล่าน และรู้สึกว่าองค์จักรพรรดิของพวกเขาน่าเกรงขามมาก แน่นอนว่าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนได้อธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดทันทีผ่านตราสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ความแข็งแกร่งของหลิงฮันจะเฉิดฉายตราตรึงอยู่ในใจทุกคน
ในไม่ช้า ทั้งจักรวรรดิต้าหลิงก็รู้ว่าจักรพรรดิของพวกเขากำลังต่อสู้กับพระเจ้าผู้ที่จะหลอมพวกเขาทุกคนให้กลายเป็นเม็ดยา
-แม้ว่ากวนหยางและเซียวเมี่ยวเหยียนจะไม่ใช่ตัวตนระดับพระเจ้า แต่ทำไมพวกเขาจะต้องสนใจเรื่องพวกนั้นด้วย? แม้เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนอยากจะพูดอธิบาย แต่แบบนั้นมันก็ดีเหมือนกันที่จะทำให้หลิงฮันดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่เลือดของทุกคนกำลังเดือดพล่าน หลิงฮันรู้สึกว่าพลังแห่งจักรภพที่เขาแบกรับอยู่นั้นทรงพลังขึ้นเล็กน้อย และทำให้เขารู้สึกเล็กน้อยว่าร่างกายกำลังจะระเบิด
เมื่อสี่ภูมิภาคกลายเป็นหนึ่งจะเทียบได้กับภูมิภาคกลาง
แน่นอนว่ากายหยาบที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบนั้นสามารถแบกรับพลังแห่งจักรภพได้ แต่ถ้ามันมากเกินไปมันจะเป็นการระเบิดตัวเอง! หม่าตั๋วเป่านั้นตระหนักถึงความแข็งแกร่งของตัวเองดี เขาจึงไม่แผ่ขยายอาณาเขต เพียงแค่พลังแห่งจักรภพของภูมิภาคกลางที่เดียวเขายังไม่มั่นใจเลยว่าจะแบกรับได้
หลิงฮันนำดาบสังหารออกมาและเตรียมใช้ทักษะดาบสามพันเล่ม
“เป็นไปได้ยังไง! มันเป็นไปได้ยังไงกันที่ทัก-!”
ฉัวะ!
หลังจากที่เห็นทักษะดาบสามพันเล่ม กวนหยางรู้สึกตกใจทันที นี่คือทักษะของพระราชวังดาบสวรรค์ไม่ผิดแน่ แล้วมดปลวกที่อยู่โลกเบื้องล่างสามารถใช้มันได้ยังไง? แต่เขายังไม่ทันได้พูดจบ ร่างกายของเขาก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนแล้ว
พลังต่อสู้และกายหยาบของเขาด้อยกว่าหลิงฮันในตอนนี้มาก แน่นอนว่าเขาไม่มีทางรับการโจมตีของหลิงฮันได้อย่างแน่นอน
“กวนหยาง!” เซียวเมี่ยวเหยียนหันกลับไปมองและเห็นกวนหยางถูกฆ่าด้วยดาบของหลิงฮัน เมื่อเห็นเช่นนั้นช่วยไม่ได้ที่นางจะพูดออกมาว่า “เจ้ากล้าสังหารผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ชะตากรรมของเจ้ามันได้ถูกกำหนดแล้ว!เมื่อคนที่แข็งแกร่งกว่าพวกข้าลงมา เจ้าจะต้องตายเป็นคนแรก!”
สีหน้าของหลิงฮันกลายเป็นหนาวเย็น “ทุกหมื่นปี ห้านิกายโบราณจะทำการหลอมสิ่งมีชีวิตบนโลกให้กลายเป็นเม็ดยา เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันผ่านมากี่ปีแล้ว และมีผู้คนมากมายเท่าไหร่ที่ต้องตายไป? และเมื่อใดที่ข้าเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะขุดรากถอนโคลนพวกมันให้หมด!”
“เจ้ามันก็แค่ปลาก้นบ่อที่ไม่รู้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใดและพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน!” เซียวเมี่ยวเหยียนเริ่มเผาผลาญพลังชีวิตของตัวเอง ตราบใดที่นางสามารถออกไปจากจักรวรรดิต้าหลิงได้ หลิงฮันก็จะไม่สามารถใช้พลังแห่งจักรภพได้อีกต่อไป
และในเวลานั้น นางก็จะเริ่มทำการตอบโต้ ถ้าเขาไล่ตามนางมา
“ดูจากพวกเจ้าแล้ว มันทำให้ข้าสามารถจินตนาการได้ว่าห้านิกายโบราณที่อยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างมากก็อยู่แค่ระดับสุริยันจันทรา!” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
อย่างมากอยู่ที่ระดับสุริยันจันทรา? นี่เขารู้หรือไม่ว่าระดับพลังของพระเจ้านั้นยากเย็นแค่ไหนกว่าจะทะลวงผ่านได้แต่ละระดับ? ระดับแต่ละระดับของพวกเขาเปรียบได้เหมือนกับระดับหลอมกายาและระดับทลายมิติ!
และหนึ่งระดับยังแบ่งออกเป็นสี่ขั้นคือ ต่ำ กลาง สูง และสูงสุด ซึ่งช่องว่างแต่ละขั้นนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก แทบจะไม่มีใครสามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้เลย
แล้วระดับสุริยันจันทราจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
อย่างน้อยมันก็สามารถเทียบได้กับจอมยุทธระดับทลายมิติสิบกว่าคน!
“พูดจาใหญ่โต!” เซียวเมี่ยวเหยียนกล่าวโดยที่ไม่รู้ว่าเรื่องพวกนั้นอี้ชวงชวงได้พูดให้หลิงฮันฟังแล้ว
“หึ่ม ถ้าเจ้าไม่เชื่อ แน่จริงรับการโจมตีของข้าให้ได้สิ!” หลิงฮันไล่ตามนางอยู่ด้านหลัง ในขณะที่อีกฝ่ายเผาผลาญพลังชีวิตเพื่อหลบหนี แต่ทว่าแม้ว่าเขาจะใช้ย่างก้าวเทพธิดาปีศาจและทักษะอัสนีเก้าทิวาก็ยังตามความเร็วของนางไม่ทันอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ที่นี่คือจักรวรรดิต้าหลิง!