อาณาเขตภายใต้ท้องฟ้าที่เจ้าอยู่นี้คืออาณาจักรของข้า!
เจ้าคิดจะมาก็มาจะไปก็ไปได้ตามใจชอบ? ไร้สาระสิ้นดี!
หลิงฮันเอื้อมมือออกไป ‘พรึบ พรึบ พรึบ’ คลื่นพลังนับไม่ถ้วนไหลผ่านเข้ามารวมกันและเฉือนเข้าใส่เซียวเมี่ยวเหยียนราวกับใบดาบ
นี่ไม่ใช่พลังจากทักษะของเขา แต่เป็นพลังของอำนาจแห่งจักรภพ
ตามจริงแล้ว ตราบใดที่เขาอยู่ในจักรวรรดิต้าหลิง เขาสามารถสร้างคลื่นโจมตีได้ในทุกซอกทุกมุมของพื้นที่ที่มีธงของเขาปักอยู่ แต่การจะทำเช่นนั้นจำเป็นต้องมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง แม้หลิงฮันจะมีพลังบ่มเพาะเพิ่มขึ้นเป็นระดับทลายมิติแล้ว เขาก็ไม่อาจใช้พลังเช่นนี้ได้ในระยะไกล
เพียงแต่ว่าเซียวเมี่ยวเหยียนนั้นอยู่ห่างจากเขาไปเพียงกี่สิบไมล์ ถ้าแม้แต่ระยะแค่นี้เขายังไม่สามารถควบคุมพลังได้ ไม่ใช่ว่านั่นหมายถึงเขาใช้อำนาจแห่งจักรภพได้อย่างสูญเปล่าหรอกรึ!
ตูม!
เซียวเมี่ยวเหยียนถูกคลื่นพลังโจมตีใส่ทันที แต่เนื่องจากมันเป็นเพียงพลังแก่งจักรภพอย่างเดียว มันจึงอำนาจแค่ระดับทลายมิติเก้าหรือสิบดาวเท่านั้น อำนาจแค่นี้ไม่เพียงพอจะคุกคามนางได้ แค่มันก็เพียงพอที่จะทำให้นางหยุดชะงักและหันกลับมาตอบโต้
เพราะอย่างไรเนื่องจากการโจมตีของหลิงฮันเมื่อครู่สภาพของนางในตอนนี้จึงไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มที่ นางจะเมินเฉยยอมถูกโจมตีได้อย่างไร?
ดังนั้นแล้วความเร็วของนางจึงได้รับผลกระทบและเคลื่อนไหวได้ช้าลงเล็กน้อย
หลิงฮันยิ้ม เขายกมือขึ้นสูงและโคจรปราณดาบนับไม่ถ้วนกระหน่ำโจมตีใส่เซียวเมี่ยวเหยียน
ตอนนี้เขาต้องแข่งกับเวลา
แม้พลังแห่งจักรภพสามารถใช้งานได้แทบไม่มีวันหมด แต่พรศักดิ์สิทธิ์ของหอคอยทมิฬนั้นสามารถคงสภาพไว้ได้แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ถ้าภายในเวลาครึ่งชั่วโมงนี้เขาไม่สามารถสังหารเซียวเมี่ยวเหยียนได้ เขาก็คงต้องยอมล้มเลิกความคิดที่จะไล่ตามนาง
‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ เซียวเมี่ยวเหยียนกวัดแกว่งดาบปลดปล่อยปราณตอบออกมาตอบโต้อย่างต่อเนื่อง แต่นางก็พบว่าร่างของหลิงฮันนั้นค่อยๆเข้าใกล้นางมาเรื่อยๆ
จิตใจของนางหวาดกลัวและเมินเฉยปราณดาบที่หลิงฮันโจมตีมา นางเปลี่ยนมาโคจรปราณก่อเกิดรอบกายเพื่อเป็นโล่คุ้มกันและหลบหนีต่อ
ถึงแม้นางจะรู้สึกหวาดกลัวต่อปราณดาบเหล่านั้น แต่ระยะของนางกับหลิงฮันก็เริ่มห่างกันอีกครั้ง ด้วยความเร็วของนาง เพียงแค่ครึ่งวันก็คงจะสามารถทำให้นางหนีได้พ้นจากพื้นที่ที่เป็นอาณาเขตของจักรวรรดิต้าหลิง
เมื่อถึงตอนนั้นคอยดูแล้วกันว่าใครจะเป็นฝ่ายสังหารใคร!
ดวงตาอันงดงามของเซียวเมี่ยวเหยียนปริ่มไปด้วยจิตสังหาร นางที่เป็นอัจฉริยะของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่เมื่อลงมายังโลกเบื้องล่าง นางกลับต้องเผาผลาญพลังชีวิตของตนเพื่อหลบหนี
ในขณะนางกำลังคิดเช่นนั้นอยู่ นางก็เห็นร่างเล็กๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าพร้อมกับหมัดที่พุ่งเข้าใส่
“กำปั้นพายุหมุนของหนิว!”
ปัง!
หมัดเล็กๆกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของนาง
เซียวเมี่ยวเหยียนไม่คิดว่าจู่ๆจะมีใครปรากฏที่ด้านหน้านางได้ ในขณะที่นางบินด้วยความเร็วเช่นนี้การโจมตีสมควรจะมาจากด้านหลังเท่านั้น!
อะไรกัน นี่ข้าเจอผีรึไง? นางที่ยอมเผาผลาญแม้แต่พลังชีวิตของตน จะมีใครไล่ตามนางทันด้วยรึ?
จมูกของนางเต็มไปด้วยโลหิตพร้อมกับร่างที่กระเด็นถอยหลัง การที่ถูกหมัดโจมตีในขณะที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงทำให้นางไม่สามารถควบคุมร่างได้
“หนิวเจ็บแขนไปหมดเลย!” ฮูหนิวรีบชักมือกลับ หมัดที่ชกเข้าใส่เซียวเมี่ยวเหยียนที่เคลื่อนที่ด้วย ความเร็วเช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการชกหมัดใส่กำแพงที่มีความทนเท่ากับพลังที่นางชกออกไป กระดูกแขนของฮูหนิวแตกร้าวและห้อยอย่างไร้เรี่ยวแรง
“บัดซบ!” เซียวเมี่ยวเหยียนค่อยๆทรงตัว นางมองไปยังฮูหนิวด้วยสายตาดุร้าย
เด็กสาวตรงหน้านางนั้นครอบครองสมบัติล้ำค่าที่แม้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องหวั่นไหว
สังหารเด็กสาวคนนี้และนำสมบัติมา!
ใบหน้าของเซียวเมี่ยวเหยียนแสดงออกถึงความละโมบ
แต่ทันใดนั้นเองเมื่อนางหันหลังกลับไปมอง นางก็เห็นหลิงฮันที่พุ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับถือดาบสังหารไว้ในมือ!
“อย่าสังหารข้า! ข้ายอมเป็นผู้หญิงขิงเจ้าก็ได้!” นางกรีดร้อง “ด้วยรูปลักษณ์และพรสวรรค์ของข้า ข้าไม่ทางเป็นตัวถ่วงของเจ้าแน่!” นางแสยะในใจ เป็นเพียงพูดออกไปตามแผนเท่านั้นและจะใช้พลังทั้งหมดโจมตีออกไปเพื่อสังหารหลิงฮัน
“เจ้าหวังสูงเกินไปหน่อยนะ!” หลิงฮันกวัดแกว่งดาบอย่างไม่ลังเล
อะไรกัน!
นางที่ทั้งงดงามและมีพรสวรรค์สูงส่งเช่นนี้ เขายังกล้าลงมืออีกรึ?
ฉัวะ!
ดาบสะบั้นอย่างรุนแรงพร้อมกับหัวของนางที่หลุดออกจากบ่า ร่างที่ไร้หัวเอนไปมาเล็กน้อยก่อนร่วงหล่นจากท้องฟ้า
หลิงฮันเก็บดาบและกล่าว “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ขอข้าดูบาดแผลหน่อย!”
“หนิวเจ็บมากเลย!” ฮูหนิวทำสีหน้าบูดบึ้ง
หลิงฮันนำสมุนไพรออกมารักษานางก่อนจะยิ้ม “เจ้าช่างใจกล้ายิ่งนัก ข้ากังวลแทบแย่ว่าเจ้าจะเป็นอะไรไป!”
จอมยุทธระดับทลายมิติที่หลบหนีด้วยการเผาผลาญพลังชีวิตและมีพลังต่อสู้สิบแปดดาวนั้น บางที่แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติด้วยกันเองก็ต้องร่างแหลกสลายหากทำเช่นฮูหนิว
แต่ไม่ว่าอย่างไรฮูหนิวก็คือฮูหนิว ตรรกะทั่วไปไม่อาจใช้กับนางได้
“สตรีน่าเกลียดผู้นี้กล่าวจะต้องการเป็นผู้หญิงของหลิงฮัน หนิวไม่ยอมเด็ดขาด!” ฮูหนิวใช้แขนอีกข้างคว้าหลิงฮันเอาไว้ “หลิงฮันเป็นของหนิว!” นางกล่าวอย่างนักแน่นในขณะที่แววตาเต็มไปด้วยความกังวล
หลิงฮันหัวเราะ เด็กสาวคนนี้ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปของนางก็คือนางเติบโตเป็นผู้หญิงมากขึ้น
“หนิวอยากกินอาหารอร่อยๆเยอะ!” ฮูหนิวเร่งเร้าหลิงฮัน
หลิงฮันพยักหน้า เขาตรวจสอบร่างของเซียวเมี่ยวเหยียนแต่ก็ไม่พบอุปกรณ์มิติใดๆ ด้วยสถานะของนางเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะไม่มีอุปกรณ์มิติติดตัว บางทีการที่จะลงมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อุปกรณ์มิติอาจจะถูกห้ามนำลงมาไม่งั้นจะถูกทำลายเป็นแน่ เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้นแล้วจอมยุทธจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็คงสามารถนำสมบัติล้ำค่าลงมาสร้างความปั่นป่วนบนโลกนี้ได้แล้ว
เขาเข้าหอคอยทมิฬไปพร้อมกับฮูหนิวและเตรียมอาหารให้นาง
จากนั้นหลิงฮันก็เรียกจักรพรรดิจอมอสูรให้ปรากฏออกมา
ภายในหอคอยทมิฬ หลิงฮันคือพระเจ้า
จักรพรรดิจอมอสูรสั่นสะท้านด้วยความกลัว เขาถูกอำนาจของหอคอยทมิฬครอบงำแล้ว ตอนนี้เขาไม่หลงเหลืออารมณ์โกรธแค้นหรือความหยิ่งยโสอีกต่อไป
“ข้าจะบอกความลับที่ยิ่งใหญ่แก่ท่าน ได้โปรดอย่าสังหารข้าเลย!” จักรพรรดิร้องโอดครวญทันทีที่เห็นหลิงฮัน ก่อนหน้านี้หอคอยน้อยได้ทำให้เขารู้แล้วว่าในสถานที่แห่งนี้ชีวิตของเขาถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย
หลิงฮันไม่ชื่นยอมคนนิสัยเช่นนี้ ถ้าหากอีกฝ่ายยอมตายเงียบอย่างสมศักดิ์สรี เขาก็ยังพอมีความรู้สึกชื่นชมอยู่บ้าง “ความลับใดกันที่เจ้าคิดว่าจะช่วยให้เจ้าหนีพ้นความตายได้?”
“ท่านจะต้องรู้สึกสนใจแน่ๆ!” จักรพรรดิจอมอสูรรีบกล่าว “ความลับนี้เกี่ยวข้องกับทั่วทั้งทวีปฮงเทียน!”