“ถ้างั้นเล่าให้ข้าฟัง” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส
“แต่เจ้าต้องสาบานก่อนว่าจะไม่สังหารข้า!” จักรพรรดิจอมอสูรร้องขอ
หลิงฮันหันหน้าหนีและพูดว่า “ช่างมันเถอะ ข้าไม่สนใจเรื่องที่เจ้าจะพูดแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน ข้าจะพูด!” จักรพรรดิจอมอสูรไม่มีทางเลือกและพูดว่า “ถ้างั้นข้าจะเผยความลับบางส่วนให้เจ้าก่อน!”
“พูด!”
จักรพรรดิจิมอสูรส่งเสียงกระแอมเล็กน้อยและพูดว่า “ทวีปฮงเทียนเป็นโลกเล็กๆใบหนึ่ง!”
ไร้สาระ!
แล้วโลกเล็กๆนี้ตกเป็นเป้าหมายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?
“ถ้าเจ้ายังพูดจาไร้สาระอีก มันมีแต่จะทำให้เจ้าตายเร็วขึ้นเท่านั้น” หลิงฮันพูดด้วยน้ำเสียงที่หนาวเย็น
จักรพรรดิจอมอสูรไม่หวาดกลัวและพูดต่อว่า “แต่ถ้าข้าบอกเจ้าว่าเมื่อสามหรือสี่ล้านปีก่อน ทวีปฮงเทียนเคยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ล่ะ?”
อะไรนะ!
ครั้งนี้หลิงฮันรู้สึกแปลกใจมาก นี่มันหมายความว่าไง? เดิมทีทวีปฮงเทียนเคยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แล้วทำไมมันถึงแยกออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นโลกใบเล็กๆนี้ได้?
หลิงฮันจ้องมองไปที่จักรพรรดิจอมอสูรด้วยความสงสัยและพูดว่า “เจ้าไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อใช่หรือไม่?”
นั่นมันจะมากเกินไปแล้ว
“ข้าสามารถสาบานต่อสวรรค์ได้เลยว่าทุกอย่างที่ข้าพูดนั้นเป็นความจริง!” จักรพรรดิจอมอสูรเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าทันที”
หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งและพูดว่า “ก็ได้ ถ้างั้นก็พูดมาตั้งแต่ต้นจนจบให้ละเอียด และถ้ามันเป็นเรื่องจริง ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”
“ขอบคุณนายน้อยฮัน! ขอบคุณนายน้อยฮัน!” จักรพรรดิจอมอสูรรีบพูดออกมาด้วยสีหน้าประจบประแจง แม้ว่าตอนนี้เขาจะกลายเป็นหมอกดำ แต่ก็สามารถแสดงออกได้ตามใจปรารถนา
“พูดได้แล้ว” หลิงฮันโบกมือให้มันหยุดเลิกประจบเขา
“ได้เลย ได้เลย!” จักรพรรดิจอมอสูรเริ่มพูดว่า “แต่เดิมทวีปฮงเทียนเคยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเวลานาน แต่แล้วมันก็หายไปอย่างกะทันหัน เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดทำให้ผู้คนจากดินแดนใต้พิภพของข้าและดินแดนศักดิ์สิทธิ์เกิดความอยากรู้อยากเห็น และพวกเขาก็เริ่มทำการตรวจสอบ”
“จนในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่าทวีปฮงเทียนได้แยกตัวออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นโลกขนาดเล็ก”
“และด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำให้พวกเขาเริ่มตรวจสอบทวีปฮงเทียนอีกครั้ง และพบเรื่องที่น่าตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีกว่าอย่างน้อยสิบล้านปีก่อน ความจริงแล้วทวีปฮงเทียนเคยเป็นโลกขนาดเล็กมาก่อนที่ขึ้นไปอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยวิธีการเปิดสวรรค์”
“นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่โลกขนาดเล็กขึ้นไปอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แล้วแยกตัวออกจากดินแดนศักดิ์และกลายเป็นโลกขนาดเล็กอีกครั้ง!”
“ขุมพลังมากมายจึงคิดว่ามีสมบัติบางอย่างอยู่ในทวีปฮงเทียนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ดังนั้น ขุมพลังขนาดใหญ่จึงทำการตรวจสอบว่าทำไมทวีปฮงเทียนถึงกลับไปเป็นโลกขนาดเล็ก และต้องการรู้ว่ามันเป็นสมบัติลึกลับอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพื่อจะนำมาเป็นของตน”
“ทว่ามีโลกขนาดเล็กมากมายที่เรียกว่าทวีปฮงเทียน และที่นี่เองก็เรียกว่าทวีปฮงเทียน ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าโลกขนาดเล็กแห่งนี้ถูกควบคุมโดยขุมพลังที่อ่อนแอทั้งห้าบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ยอมสละทรัพยากรนับไม่ถ้วนเพื่อที่จะค้นหาสมบัตินั้นให้พบ!”
หลิงฮันโบกมือให้หยุดและพูดว่า “แล้วเจ้ารู้ได้ยังไงว่าที่นี่คือทวีปฮงเทียนที่แยกตัวออกมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฃ?”
“มันง่ายมาก ข้าได้รับคำสั่งให้มาที่นี่เพื่อตรวจสอบว่าโลกนี้คือโลกที่พวกเรากำลังตามหาอยู่หรือไม่ และเมื่อข้ามาถึง พลังของเขาก็ถูกสะกดเอาไว้แล้ว” จักรพรรดิจอมอสูรพูดด้วยสีหน้าหดหู่เล็กน้อย
“แล้วเจ้าจะยืนยันได้ยังไง?” หลิงฮันเริ่มรู้สึกสนใจ
“หากทวีปนี้เคยรวมเป็นหนึ่งกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาก่อน มันจะต้องมีกลิ่นอายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่ามันจะผ่านมานานแล้วก็ตาม แต่ข้ายังคงได้กลิ่นอายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แกนกลางของโลก” จักรพรรดิจอมอสูรกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ “ข้าไม่ได้อยากจะพูดจาโอ้อวดหรอก แต่ความสามารถแบบนั้นมีข้าคนเดียวเท่านั้นที่มี มิฉะนั้นข้าคงไม่ถูกส่งมาที่นี่”
หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “ดินแดนใต้พิภพได้ส่งสิ่งมีชีวิตอย่างเจ้าไปที่โลกขนาดเล็กทุกใบเหมือนกันใช่หรือไม่?”
“นายน้อยฮันช่างหลักแหลมยิ่งนัก ใช่แล้ว” จักรพรรดิจอมอสูรกล่าวชม ชีวิตของเขาในตอนนี้อยู่ในน้ำมือของหลิงฮันโดยสมบูรณ์
หลินฮันตกอยู่ในความคิด เรื่องที่เขาได้ยินมันน่าทึ่งมาก ทวีปฮงเทียนเคยเป็นโลกขนาดเล็กที่ขึ้นไปอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็แยกตัวออกมาเป็นโลกขนาดเล็กอีกครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง
แม้แต่ขุมพลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์และดินแดนใต้พิภพยังต้องเคลื่อนไหว นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขารู้สึกสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แม้แต่ดินแดนใต้พิภพที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยยังส่งผู้คนจำนวนมากออกไปตรวจสอบเพื่อค้นหาโลกใบนั้น
หัวใจของเขาเริ่มกระหน่ำเต้น หรือว่าที่พวกเขากำลังตามหาอยู่คือหอคอยทมิฬ?
หอคอยทมิฬน้อยพูดอยู่ตลอดว่าถ้าพลังของมันฟื้นคืนมาอย่างสมบูรณ์ มันสามารถบดขยี้ทวีปฮงเทียนได้อย่างง่ายดาย
หลิงฮันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อะไรกันที่สามารถทำให้โลกขนาดเล็กเปิดสวรรค์ขึ้นไปอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์และแยกตัวออกมาเป็นโลกขนาดเล็กอีกครั้งได้?
หอคอยทมิฬ…?
คัมภีรย์สวรรค์นิรันดร์สามารถทำให้กายหยาบของเขาแข็งแกร่งขึ้นหนึ่งระดับเมื่อระดับพลังของเขาสูงขึ้น และนี่เป็นความสามารถแรกของมัน แล้วถ้าเป็นความสามารถที่สองและที่สามของมันล่ะ?
ใครเป็นผู้สร้างหอคอยทมิฬ? ทำไมมันถูกตกอยู่ในสภาพเช่นนี้? แล้วคนที่ทำให้หอคอยทมิฬตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้จะต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?
ความอยากรู้อยากเห็นของหลิงฮันเริ่มมีมากขึ้น แต่เรื่องพวกนั้นมันเกินขอบเขตความรู้ของเขา
เขาส่ายหัวและเก็บเรื่องหมดหมดไว้ในใจ เมื่อเขาเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาจะค่อยคลี่คลายความลับพวกนั้นตัวอย่างเช่น ใครคือคนเปิดสวรรค์คนแรก?
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นไปได้ไหมว่าขวานภูเขาวารีไม่ได้ถูกคนผู้นั้นสร้างขึ้น?
“ฮ่าฮ่าฮ่า นายน้อยฮัน ข้าออกไปได้แล้วหรือยัง?” จักรพรรดิจอมอสูรปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า
หลิงฮันเองก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาและพูดว่า “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
จักรพรรดิจอมอสูรเผยท่าทีผิดหวัง เขารู้ว่าความลับพวกนั้นมันหนักเกินไป และหลิงฮันไม่มีทางปล่อยให้เขาไปบอกคนอื่น ดูเหมือนว่าเขาจะต้องถูกขังอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต
แต่สภาพแวดล้อมที่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก มันมีขนาดใหญ่และมีสมุนไพรอยู่ไปทั่ว ถึงแม้ว่าเขาจะสนใจสมุนไพรก็ตาม แต่ที่นี่มีคนน้อยเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่คุ้นเคย
“เจ้าต้องอยู่ที่นี่ และถ้าเจ้าทำตัวดี ข้าจะปล่อยให้เจ้าออกไป” หลิงฮันกล่าว
บาดแผลของฮูหนิวหายเร็วมาก เด็กสาวตัวน้อยคนนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก ตอนนี้นางยังมีไข่ประหลาดอยู่ในร่างกายอีก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น
“กลับกันก่อนเถอะ!”
หลิงฮันและฮูหนิวออกมาจากหอคอยทมิฬและกลับไปที่เมืองจักรพรรดิ ครั้งนี้ปัญหาของเซียวเมี่ยวเหยียน กวนหยางและจักรพรรดิจอมอสูรถูกจัดการไปหมดแล้ว ปัญหาที่เขาต้องจัดการต่อคือซากศพสิบแปดตาของนิกายพันศพ
มันง่ายมากที่จะจัดการมัน