“องค์จักรพรรดิมาถึงแล้ว!” กองทหารตะโกนส่งเสียง
“องค์จักรพรรดิมาถึงแล้ว!”
“องค์จักรพรรดิมาถึงแล้ว!”
“องค์จักรพรรดิมาถึงแล้ว!”
กองทหารของจักรวรรดิจันทราม่วงตะโกนดังลั่นจนพื้นสั่นสะเทือน เสียงของพวกเขาดังสนั่นจนราวกับว่าจะก้องกังวลไปทั่วสวรรค์และปฐพี
หม่าตั้วเปาปรากฏตัวในชุดคลุม แต่เพราะพุงที่อ้วนพลุ้น เขาจึงดูไม่มีมาดของจักรพรรดิเลยในขณะที่ปรากฏตัว ถึงอย่างนั้นเหล่าสตรีก็ยังแววตาลุกโชนและส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด
แต่เมื่อเขาปลดปล่อยออร่าออกมาร่างของทุกคนก็สั่นสะท้าน เพราะถึงอย่างเจ้าอ้วนบัดซบผู้นี้คือตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในโลก
ภายในออร่าที่ทรงพลังของเขา มีเพียงไม่กี่คนที่ยังสงบนิ่งอยู่ได้ คนที่ว่าคือหลิงฮัน เฮ่อเหลียนเทียนหยุน เฟิงโปหยุนและเจ็ดราชัน
หม่าตั้วเปาเดินอย่างองอาจไปยังจุดศูนย์กลางของลานเปิดสวรรค์ เขายืดตัวตรงและกล่าว “วันนี้ คือวันที่สวรรค์จะเปิดออก!”
“องค์จักรพรรดิจงเจริญ!” เหล่าทหารของจักรวรรดิจันทราม่วงตะโกนด้วยความตื่นเต้น
การเปิดสวรรค์ คือเหตุการณ์ที่จะกลายเป็นประวัติศาสต์
“อย่างที่ทุกคนรู้ ห้านิกายโบราณนั้นโหดเหี้ยม พวกเขามองดินแดนเบื้องล่างแห่งนี้เป็นเพียงแค่สวนสมุนไพร ทุกๆหมื่นปีสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะถูกหลมให้กลายเป็นเม็ดยา การกระทำเช่นนั้นถือว่าโหดร้ายอย่างยิ่ง!” หม่าตั้วเปากำหมัดและส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ
“ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงจําศีลตัวเองเพื่อรอคอยโอกาสที่จะเปิดสวรรค์และนำทวีปฮงเทียนแห่งนี้ขึ้นไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์! จากนี้ไปผู้คนในทวีปนี้จะกลายเป็นพระเจ้า! พวกเจ้าจะเป็นดั่งมังกรที่ทะยานสู่ฟากฟ้า!”
เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้าย จิตใจของทุกคนก็กลายเป็นเร่าร้อน
พระเจ้า!
บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีทั้งทรัพยากรบ่มเพาะและสภาพแวดล้อมในการฝึกฝนที่ดีกว่า จอมยุทธคนใดที่แต่เดิมขีดจำกัดในพรสวรรค์อยู่ที่ระดับบุปผาผลิบาน บางทีพวกเขาอาจจะทวงผ่านไปยังระดับตัวอ่อนวิญญาณได้ แม้แต่ระดับก้าวสู่เทวาก็ยังมีหวัง
“เปิดสวรรค์!!”
“ทุกคนเป็นดั่งมังกร!”
“องค์จักรพรรดิจงเจริญ!”
ทุกคนตะโกนดังลั่น บางคนถึงขนาดที่ว่าตะโกนจนแทบจะเป็นลม
หลิงฮันกังวลเป็นอย่างมาก ถ้าหม่าตั้วเปาเปิดสวรรค์ได้สำเร็จ เขาก็สามารถขึ้นไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ทันทีและจะสามารถสืบหาร่องรอยของฮูหนิวและสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ได้
หม่าตั้วเปาคว้าขวานภูผาวารีขึ้นมาถือ ‘พรึบ’ อาวุธวิญญาณชิ้นนี้ส่องสว่างทันทีพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวที่ทำให้ทุกคนลืมหายใจออกมา
นี่คืออำนาจของอาวุธวิญญาณที่ทรงพลังที่สุดในทวีปฮงเทียนแห่งนี้
‘ฟุบ’ หม่าตั้วเปาทะยานขึ้นท้องฟ้าและหยุดยืนอย่างองอาจ
“จงเปิด!” เขาเหวี่ยงขวานภูผาวารีเข้าใส่ท้องฟ้าเบื้องบน
‘ครืนนน’ ด้วยอำนาจทำลายล้างของจากการเหวี่ยงขวานทำให้ช่องว่างมิติสีดำปรากฏขึ้น
‘พรึบ’ เนตรแห่งเต๋าสวรรค์ปรากฏตัวในสภาพที่ยังมีบาดแผลหลงเหลืออยู่ มันมองมาที่หม่าตั้วเป้าแต่ยังไม่ลงมือใดๆ ตอนนี้หม่าตั้วเปาแต่โจมสีใส่ท้องฟ้าเท่านั้น เขายังไม่ได้สร้างภัยคุกคามใดๆต่อสวรรค์และปฐพี แต่ถ้าหม่าตั้วเปาเพิ่มพลังโจมตีให้มากกว่านี้และฉีกกระชากสวรรค์ล่ะก็ มันจะหยุดเขาทันที
หม่าตั้วเปามองไปยังเนตรแห่งเต๋าสวรรค์ด้วยสายตาเหยียดหยาม ออร่ารอบกายของเขาเริ่มทรงพลังยิ่งขึ้น
ร่างของเขาถูกปลดปล่อยไปด้วยแสงสว่างสีทอง เพียงแค่ออร่าของเขาก็สามารถทำให้จอมยุทธระดับทลายมิติตัวสั่น
พลังต่อสู้ของเขาเกินกว่าระดับทลายมิติยี่สิบดาวแล้ว
ด้วยอำนาจแห่งจักรภพ พลังต่อสู้ของหม่าตั้วเปาได้บรรลุถึงระดับที่สูงเกินกว่าจอมยุทธระดับทลายมิติจะสามารถมีได้
“พลังต่อสู้ที่เกินกว่ายี่สิบดาว… บางทีอาจจะอยู่ที่ราวๆยี่สิบสองตาม” หลิงฮันกล่าว เขาคือจักรพรรดิอีกคนที่สามารถใช้งานอำนาจแห่งจักรภพได้เหมือนกับหม่าตั้วเปา ดังนั้นเขาจึงรู้เรื่องนี้ดีที่สุด
อย่าดูถูกพลังต่อสู้ที่เกินขีดจำกัดยี่สิบดาวมาเพียงสองดาวเชียว การที่จะมีพลังที่เกิดขีดจำกัดนั้นทำได้ยากยิ่ง! แม้จะเป็นกายหยาบของหม่าตั้วเปาที่เทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบก็ยังต้องแบกรับแรงกดดันที่รุนแรง
เนตรแห่งเต๋าสวรรค์เริ่มกระวนกระวาย มันปลดปล่อยคลื่นอำนาจของสวรรค์และปฐพีออกมา
นี่เป็นการเตือนหม่าตั้วเปาว่าอย่าริอาจลองท้าทายสวรรค์และปฐพี
หม่าตั้วเปาหัวเราะ เขากำขวานภูผาวารีเอาไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้างก่อนจะเหวี่ยงโจมตีใส่ท้องฟ้า
‘ตูมมมม!’
การโจมตีครั้งนี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ช่องมิติที่เปิดออก แต่มันยังขยายกว้างกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่ราวกับจะสามารถดูดกลืนสวรรค์และปฐพีอีกด้วย
ในที่สุดเนตรแห่งเต๋าสวรรค์ก็เป็นกังวลและเกรี้ยวกราด!
‘ครืนน’ ดวงตาของมันส่องแสงสว่างโจมตีใส่หม่าตั้วเปา
“เจ้ากล้าหยุดข้า?” หม่าตั้วเปามีสีหน้าเหยียดหยามและกล่าวอย่างโหดเหี้ยม เขาเหวี่ยงขวานภูผาวารีโจมตีเข้าใส่เนตรแห่งเต๋าสวรรค์
การที่จะเปิดสวรรค์ได้สำเร็จจำเป็นต้องจัดการเนตรแห่งเต๋าสวรรค์เสียก่อน เพราะมันคือตัวอ่อนของเจตจำนงแห่งสวรรค์และปฐพี
‘ตูม ตูม ตูม’ แสงสีทองที่เกิดขึ้นจากขวานภูผาวารีนั้นสว่างจ้าจนทุกคนต้องปิดตาเพราะเกรงกลัวว่าหากจ้องมอง ดวงตาของพวกเขาจะถูกเผาไหม้
แต่หลิงฮันนั้นได้โคจรเนตรแห่งสัจธรรมและมองเห็นอย่างชัดเจน
เขาไม่ได้ดูเพราะอยากรู้อยากเห็น แต่เขาต้องดูเพราะเป็นเรื่องสำคัญ หากหม่าตั้วเปาเปิดสวรรค์ไม่สำเร็จ เขาจะต้องเป็นคนที่รับหน้าที่ต่อ ดังนั้นเขาจึงต้องคอยสังเกตุว่าเนตรแห่งเต๋าสวรรค์แข็งแกร่งขนาดไหน
อย่าดูถูกมันเพียงเพราะมันถูกทำให้บาดเจ็บโดยสตรีของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์ถึงสองครั้ง ที่มันได้รับบาดเจ็บก็เพราะสองคนนั้นแข็งแกร่งเกินไป เนตรแห่งเต๋าสวรรค์ไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย
ท้องฟ้าสนั่นสั่นไหว แสงสว่างและเสียงที่ดังก้องกังวานราวกับฟ้าผ่านั้น นอกจากหลิงฮันกับเฮ่อเหลียนเทียนหยุนก็ไม่มีใครสามารถมองการปะทะที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าเห็น
“เจ้าอ้วนชนะแน่!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนพยักหน้า “เนตรแห่งเต๋าสวรรค์มีพลังต่อสู้จำกัดอยู่ที่ยี่สิบเอ็ดดาว แต่เจ้าอ้วนนั่นมีพลังต่อสู้ถึงยี่สิบสองดาว หากไม่มีเรื่องไม่ขาดฝันเกิดขึ้น เจ้าอ้วนนั่นจะเป็นฝ่ายชนะ”
หลิงฮันพยักหน้าเห็นด้วยกับเฮ่อเหลียนเทียนหยุน
“เป็นเจตจำนงแห่งสวรรค์และปฐพีแล้วจะทำไม? เจ้าช่างโง่เขลานักที่มาขวางข้า!” หม่าตัวเปาหัวเราะ ออร่าของเขานั้นทรงพลังจนราวกับดูเหมือนจะทำให้โลกนี้เกิดภัยพิบัติ เนื่องจากออร่าของเขามีต้นกำเนิดมาจากจิตสังหารอันไร้ที่สิ้นสุด
สมกับเป็นรูปแบบอาคมสังหารที่หนึ่ง ตัวตนที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก
จะพูดให้ถูกแล้ว หม่าตั้วเปากับเนตรแห่งเต๋าสวรรค์ก็ไม่ได้แตกต่างกันเสียเท่าไหร่ นั่นเพราะพลังอำนาจของหม่าตั้วเปานั้นกำเนิดขึ้นจากสวรรค์และปฐพี ทำให้เขาเป็นรูปแบบอาคมสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
หม่าตั้วเปาส่งเสียงคำรามและเหวี่ยงขวานโจมตีเข้าใส่เนตรแห่งเต๋าสวรรค์