ติงผิงกวาดสายตามอง พวกมันทั้งสองคนคือติงอวี้เซวียนและติงชิงเว่ย ทั้งสองคนเคยเป็นน้องชายของเขา แต่ตอนนี้กลับทำตัวไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
ในความเป็นจริง ติงผิงเองก็รู้ตัวดีว่าเขามีรากฐานวิญญาณที่ไร้ค่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะได้สืบทอดตำแหน่งตระกูลติง แม้แต่คนในตระกูลยังบอกให้เขาสละตำแหน่ง แต่เขาไม่อาจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ได้
แต่ความชั่วร้ายและเปลี่ยนสีของคนพวกนี้ทำให้เขารู้สึกรังเกียจเป็ยอย่างยิ่ง
ทุกคนคือตระกูลเดียวกัน แต่ทำไมต้องทำตัวเย็นชาและเสแสร้งด้วย?
“ใช่แล้ว ข้าลืมบอกข่าวดีกับพี่ชายติงของข้าเลย” ติงเฟยเหวินหัวเราะ “เมื่อไม่กี่วันก่อน นิกายชื่อยื่อได้ยอมรับข้าเป็นศิษย์แล้ว!”
การที่ติงเฟยเหวินได้กลายเป็นศิษย์ของนิกายชื่อยื่อนั้นหมายความว่าอย่างน้อยตระกูลติงมีจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณคอยปกป้องอยู่ แล้วนั่นจะทำให้ตระกูลติงแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนกัน?
ดังนั้น การที่ติงเฟยเหวินได้เป็นศิษย์ของนิกายชื่อยื่อถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับตระกูลติง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตระกูลเยว่มอบเยว่หยวนให้กับติงเฟยเหวิน
แล้วการที่ติงเฟยเหวินได้กลายเป็นศิษย์ของนิกายชื่อยื่อนั้นเขาจะได้รับอะไรจากนิกาย? เขาจะต้องกลายเป็นจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเป็นอย่างน้อย และใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทะลวงผ่านระดับแก่นแท้จิตวิญญาณ แม้กระทั่ง…ระดับบุปผาผลิบาน!
“พี่ชายเฟยเหวินช่างยอดเยี่ยม!” เยว่หยวนแสดงความชื่นชมเขาเพื่อทำให้ติงเฟยเหวินรู้สึกพึงพอใจ
ติงผิงจ้องมองพวกมันทุกคนด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย
ในตอนนี้ เขาได้ปล่อยวางเรื่องทั้งหมดไปแล้ว และกำลังคิดทบทวน
เยว่หยวนไม่เคยรักเขา นางเพียงแค่ต้องการใช้ประโยชน์จากเขาเท่านั้นเมื่อครั้งหนึ่งเขาเคยถูกตระกูลติ่งมองว่าเขาเป็นอัจฉริยะ แต่สิ่งที่เขารู้สึกรังเกียจมากที่สุดคือการที่เยว่หยวนแสร้งทำดีกับเขา
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมเขาจะต้องรู้สึกโศกเศร้าด้วย? สำหรับหญิงสาวที่ไม่มีใจให้…เขาจะยื้อไว้ไปทำไม?
แล้วทำไมเขาจะต้องสนใจคนพวกนี้ด้วย? พวกเขาเป็นแค่กบก้นบ่อที่ไม่รู้ว่าทะเลและมหาสมุทรนั้นกว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหน
– ถึงแม้หลิงฮันจะไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่ติงผิงก็สามารถคาดเดาได้ว่าอาจารย์ของเขาจะต้องมีสถานะสูงส่งมกาอย่างแน่นอน และไม่มีใครต่อกรกับเขาได้
เพียงแค่เขาพบเจอหลิงฮัน มันก็เหมือนทำให้เขาเกิดใหม่ และตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาก็เทียบได้กับจอมยุทธระดับรวมธาตุขั้นหนึ่งแล้ว ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลตกใจตาย! ยิ่งไปกว่านั้น เทคนิคเก้ามังกรทรราชที่หลิงฮันสอนเขาจะช่วยให้เขามีพละกำลังของมังกรที่แท้จริงเก้าตัว ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง
ในทางตรงกันข้าม ตำแหน่งนายน้อยของตระกูลติงคืออะไร? ศิษย์ของนิกายชื่อยื่อคืออะไร?
ระหว่างที่ครุ่นคิด ความคิดของติงผิงก็เปลี่ยนไปทันที ดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น เขาไม่รู้สึกโกรธอีกฝ่ายอีกต่อไปและพูดออกมาว่า “โปรดปล่อยข้าไปเถอะ ข้าต้องการกลับไปพักผ่อน”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ติงอวี้เซวียนและติงชิงเว่ยระเบิดเสียงหัวเราะ พวกเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดจาอ้อนวอนแบบนั้นออกมา
มุมปากของเยว่หยวนเผยให้เห็นถึงความเย้ยหยัน โชคดีที่นางยกเลิกงานหมั้นตั้งแต่เนิ่นๆ มิฉะนั้นนางคงจะต้องรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิตของนางที่ได้แต่งงานกับคนอย่างเขา
ติงเฟยเหวินเองก็ส่งเสียงหัวเราะ ยอดเขาที่เขาทำได้แค่เงยหน้ามองในอดีต แต่ตอนนี้เขาสามารถเหยียบย่ำได้อย่างง่ายดาย! เขาแยกขาเล็กน้อยและพูดว่า “ก็ได้ แต่เจ้าจะต้องคลานผ่านระหว่างขาของข้าไป และข้าจะไม่รังแกเจ้าอีก!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ติงอวี้เซวียนและติงชิงเว่ยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง แม้แต่ทหารยามสองคนยังเผยสีหน้าเย้ยหยัน
ติงผิงเหมือนเป็นตัวตลกในสายตาของคนทุกคน
ติงผิงดูเฉยเมยและพูดว่า “อย่าขวางทางข้า ไม่เช่นนั้น…เจ้าจะต้องเสียใจ!”
“โอ้ว ข้าอยากจะเห็นซะแล้วสิว่าเจ้าจะทำให้ข้าเสียใจได้อย่างไร!” ติงเฟยเหวินกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ติงผิงเดินไปข้างหน้าและกำหมัดแน่น
“ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ก็อย่าได้พูดเช่นนั้นออกมา!” ติงเฟยเหวินแสยะยิ้ม เขาปลุกรากฐานวิญญาณขึ้นมาได้เมื่อสามปีก่อน และตอนนี้เขาอยู่ในระดับหลอมกายาขั้นเก้า ถ้าไม่ใช่เพราะคอขวดเขาคงจะทะลวงผ่านระดับรวมธาตุไปแล้ว
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา ตราบใดที่เขาเข้าสู่นิกายชื่อยื่อ เขาก็จะมีทรัพยากรบ่มเพาะพลังไม่จำกัดและการที่เขาจะทะลวงผ่านระดับรวมธาตุก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
“หลบไปให้พ้น!” ติงผิงเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“เจ้าอยากลองดีอย่างนั้นรึ?” ติงเฟยเหวินเริ่มเคลื่อนไหวและโจมตีใส่ติงผิงด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง
ตู้ม!
ติงผิงปล่อยหมัดที่หนักหน่วงและรวดเร็วออกไป
ทันใดนั้น ฝ่ามือทั้งสองข้างของติงเฟยเหวินก็ถูกหมัดของติงผิงทะลวงผ่าน และต่อยมาที่ใบหน้าของเขา ทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขากระเพื่อมเหมือนกับคลื่นน้ำ และกระเด็นไปด้านหลัง
ร่างของเขากระแทกเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรง ก่อนที่จะเด้งกลับมานอนกองอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดและไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
เป็นไปได้ยังไง?
เยว่หยวน ติงอวี้เซวียน ติงชิงเว่ยและทหารยามสองคนต่างตกอยู่ในอาการตกตะลึง มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร? นั่นคือติงเฟยเหวินเชียวนะที่เป็นจอมยุทธระดับหลอมกายาขั้นเก้า และยังเป็นนายน้อยอันดับหนึ่งของตระกูลติง!
พวกเขาไม่คิดเลยว่าติงเฟยเหวินจะพ่ายแพ้ให้กับติงผิงเพียงแค่หมัดเดียว
แต่แววตาของเยว่หยวนกลับจ้องมองติงผิงด้วยดวงตากลมมน หรือว่าอีกฝ่ายปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเองมาตลอด? มิฉะนั้นเขาจะเอาชนะติงเฟยเหวินได้อย่างไร?
ติงผิงดึงกำปั้นกลับมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่รู้สึกตื่นเต้นไปด้วยความสุข
เขาที่ทำได้แค่กำหมัดมาตลอในอดีตด แต่วันนี้ในที่สุดเขาก็สามารถปล่อยหมัดออกไปได้
แม้มันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะเหวี่ยงหมัด แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้!
ท่านอาจารย์!
ติงผิงรู้สึกขอบคุณหลิงฮันเป็นอย่างยิ่งอยู่ในใจด้วยความกตัญญู
ในเมื่อตระกูลติงไม่ใช่สถานที่ที่เขาควรอยู่ เขาก็พร้อมที่จะไปกับหลิงฮัน
– พ่อแม่ของเขาตายไปแล้ว แม้จะมีลุงทั้งสองคนอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจเขาเลยตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้ว
“พี่เฟยเหวิน!” หลังจากที่ติงผิงเดินจากไป เยว่หยวนจึงรีบเข้าไปช่วยติงเฟยเหวินทันที
“เจ้ากล้าที่จะวางแผนทำร้ายข้า ข้าจะไปฟ้องผู้อาวุโสของตระกูลกับเรื่องที่เกิดขึ้น และให้พวกเขาลงโทษเจ้าด้วยกฎของตระกูล!” ติงเฟยเหวินกัดฟันพูด ใบหน้าของเขายังคงปรากฏรอยหมัดของติงผิง
วางแผนทำร้ายเจ้า?
ติงอวี้เซียนและติงชิงเว่ยพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ใช่แล้ว ไม่เช่นนั้นเจ้าจะเอาชนะนายน้อยเฟยเหวินด้วยหมัดเดียวได้อย่างไร!”
ติงเฟยเหวินจ้องมองไปที่ทั้งสองคนทันที เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงความพ่ายแพ้ของเขา
ดวงตาที่งดงามของเยว่หยวนเปล่งประกาย นางจะต้องกลับตระกูลทันทีเพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น