หลงไหเชวียนรู้สึกโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เจ้าเด็กนี่กล้าที่จะหัวเราะเยาะเขา?
หลิงฮันเองก็ส่งเสียงหัวเราะและพูดว่า “แม้แต่ศิษย์ของข้ายังดูออกว่าเจ้าอ่อนแอ แล้วเจ้าจะเอาอะไรมาสู้กับข้า?”
“น่ารังเกียจ!” หลงไหเชวียนปล่อยการโจมตีใส่ติงผิงทันที เขาจะต้องสังหารเจ้าเด็กนี่ให้ได้เพื่อระบายความโกรธของเขา และเพื่อทำให้หลิงฮันรู้สึกเจ็บปวดที่เสียลูกศิษย์ของตัวเองไป
บนท้องฟ้า เมฆสายฟ้าเริ่มก่อตัวขึ้น การที่เขาจะกลายเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติที่แท้จริงได้นั้นจะต้องแบกรับพลังสายฟ้าสวรรค์เสียก่อน
หลิงฮันพูดพึมพัมว่า “ข้าได้ยินมาว่าสายฟ้าสวรรค์เป็นสิ่งที่คนนอกไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ มิฉะนั้นจะถูกสายฟ้าสวรรค์ผ่าไปด้วย แต่แล้วมันยังไง ในเมื่อข้ามีกายาอัสนี ตอนนี้สายฟ้าสวรรค์จะทำอะไรข้าได้”
เขายิ้มและไล่ตามหลงไหเชวียนอย่างไม่ลังเล
อีกฝ่ายกำลังจะทะลวงผ่านระดับทลายมิติ แล้วจะต่อกรกับเขาได้อย่างไร?
“หลิงฮันข้าจะแบกรับสายฟ้าสวรรค์ เจ้ายังกล้าตามข้ามาอีกรึ?” หลงไหเชวียนยิ้มแปลกๆออกมาให้เห็น ไม่ใช่ว่าหลิงฮันไม่แข็งแกร่ง แต่ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ สายฟ้าสวรรค์ที่ผ่าใส่เขาก็จะยิ่งรุ่นแรงมากขึ้นเท่านั้น และมีโอกาสสูงที่เขาจะตาย
“เจ้าหวังสูงเกินไปแล้ว!” หลิงฮันไล่ตามหลงไหเชวียน ด้วยความแข็งแกร่งของเขา หลงไหเชวียนไม่มีทางหนีเขาพ้นอย่างแน่นอน
เปรี๊ยะ!
เมฆสายฟ้าที่ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้าผ่าไปที่หลงไหเชวียน แต่หลิงฮันเข้ามาพัวพันด้วยทำให้เขาถูกลูกหลง อย่างไรก็ตามเนื่องจากระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคนนั้นอยู่ใกล้กันเกินไป ทำให้สายฟ้าทั้งสองสายผ่ามาที่พวกเขาทั้งสองคน
“ไม่!” หลงไหเชวียนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ถ้าเขารับสายฟ้าที่ผ่ามาที่เขาโอกาสที่เขาจะรอดก็จะมีห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้เขาถูกลูกหลงสายฟ้าที่ผ่ามาที่หลิงฮันด้วย ซึ่งเท่ากับว่าเขาถูกสายฟ้าสองสายผ่าใส่ แล้วเขาจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?
หลิงฮันบ้าไปแล้ว เพื่อที่จะฆ่าเขาถึงขั้นเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงอันตรายด้วย
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
สายฟ้าสวรรค์ผ่าไปที่หลงไหเชวียน แต่อีกฝ่ายจะต้านรับสายฟ้าสวรรค์ที่ตั้งใจจะผ่าใส่หลิงฮันได้อย่างไร และนั่นทำให้เขากลายเป็นเถ้าถ่านในทันที ซึ่งก่อนที่หลงไหเชวียนจะถูกสายฟ้ากลืนกินร่างนั้น สายตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เพราะสายฟ้าสวรรค์ที่ผ่าใส่หลิงฮันทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
นี่ข้าไม่ได้ตาบอด ไม่ได้ตาบอดไปใช่ไหม!
ในภพหน้า เขาไม่ควรที่จะเผชิญหน้ากับคนที่ผิดปกติอย่างหลิงฮัน และมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่เขาเกิดในยุคเดียวกับหลิงฮัน
หลิงฮันไม่รู้สึกมีความสุข แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ ด้วยความแข็งแกร่งของเขา แน่นอนว่าสามารถกวาดล้างนิกายพันศพได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยหมัดทำลายโลงศพสามชีวิตที่เหลือสองโลง
ส่วนบาดาลใต้พิภพนั้นเป็นรูปแบบอาคมที่เกิดขึ้นจากสวรรค์และปฐพี จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายมัน
หลังจากนั้น หลิงฮันพาติงผิงกลับไปที่เมืองจักรพรรดิและประกาศไปทั่วโลกว่าติงผิงเป็นศิษย์ของเขา และเรียกรวมพลเพื่อประชุมครั้งสุดท้าย
หลังจากที่หลิงฮันเปิดสวรรค์สำเร็จ เขาจะให้จักรวรรดิพิรุณดูแลจักรวรรดิต้าหลิงต่อ เพราะเขายังมีเรื่องอีกมากมายให้จัดการบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์
และหลังจากพิธีเปิดสวรรค์ในวันนั้น มีบางตระกูลจะต้องสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน และทำลายจักรวรรดิต้าหลิงจากภายในเพื่อแบ่งแยกดินแดน ดังนั้นตอนนี้เขาจะต้องกวาดล้างพวกนั้นให้หมด เพื่อที่จะฟื้นฟูพลังอำนาจแห่งจักรภพให้ได้มากที่สุด
แต่หลิงฮันไม่ได้เป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และเดินทางไปที่ตระกูลคังแทน
นักปรุงยาที่ชื่อคังจือสื่อบางทีอาจเป็นลูกหลานของคังซิวหยวน แต่หลิงฮันไม่มีทางรู้ได้หากไม่ไปถามที่ตระกูลคังโดยตรง หลังจากที่เขาถามตระกูลคัง เขาก็ทราบว่าพวกเขามีสายเลือดของคังซิวหยวนเพียงครึ่งเดียว มีเพียงแค่บรรพบุรุษของตระกูลคังเท่านั้นที่เป็นบุญโดยชอบธรรมของคังซิวหยวน
ก่อนที่จะพบศิษย์ทั้งสี่คนของเขา หลิงฮันไม่คิดที่จะเปิดเผยตัวตนของตัวเอง และปล่อยให้ผู้คนของตระกูลคังเกิดความรู้สึกสับสน นี่เขามาถามเรื่องพวกนั้นทำไม?
หลิงฮันในตอนนี้เขาเป็นคนแข็งแกร่งมากและยังเป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์ ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้ใคร และตอนนี้เขายังเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าหลิงอีกที่นักปรุงยาระดับสวรรค์ทุกคนจะต้องโค้งคำนับเขา
ก่อนหน้านี้สมาคมนักปรุงยาไม่ขึ้นตรงกับใครทั้งนั้น แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิต้าหลิง
นอกจากนี้หลิงฮันยังเรียกอัจฉริยะรุ่นเยาว์มาด้วย หลังจากที่เปิดสวรรค์สำเร็จ เขาหวังว่าทุกคนจะสามารถออกไปเฉิดฉายได้บนดินแดนศักดิ์และประสบความสำเร็จ
แต่เรื่องพวกนั้นแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่อันตราย ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่มีภูมิหลังอะไรทั้งนั้น หรือแม้กระทั่งอาจารย์บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแม้แต่หลิงฮันเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
มีเพียงแค่คนประสบความสำเร็จเท่านั้นที่จะยืนหยัดได้บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เหวินอีเจี้ยน ซวนหยวนจื่อกวงและคนอื่นๆก็ถูกเรียกตัวมาเช่นกัน ก่อนหน้านี้ความแข็งแกร่งของพวกเขายังอยู่ในระดับเดียวกับหลิงฮัน แต่ตอนนี้ล่ะ? หลิงฮันกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกไปแล้ว ซึ่งพวกเขายังเป็นแค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาที่ทำได้แค่เงยหน้ามองเขาเท่านั้น
นี่ทำให้พวกเขาต้องยอมรับว่ายังมีใครบางคนที่พวกเขาไม่อาจเทียบได้ด้วยอยู่
หลิงฮันสนับสนุนทุกคน รุ่นเยาว์พวกนี้อาจกลายเป็นกระดูกสันหลังของจักรวรรดิต้าหลิงก็เป็นได้ในอนาคต และเขาเองก็หวังที่จะให้เห็นเช่นนั้น แต่หลิงฮันก็ไม่คิดที่จะพึงพาพวกเขามากเกินไป
และที่หลิงฮันเป็นห่วงมากที่สุดคือเย่วไค่หยู่ เขามอบทรัพยากรบ่มเพาะพลังให้เย่วไค่หยู่จำนวนมาก แม้แต่ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ของเขาเองยังถ่ายทอดให้อีกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม การสืบทอดทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันจะต้องใช้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งที่จะทำความเข้าใจด้วย นอกจากนี้เองหลิงฮันก็ถ่ายทอดทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ให้กับพี่น้องทั้งสามคนของเขาเช่นกัน คือ เฟิงโป๋วหยุน จักรพรรดิพิรุณและมู่หลงชิง
หลิงฮันพยายามจัดการเรื่องต่างๆสุดความสามารถ เมื่อเริ่มเปิดสวรรค์ เขาอาจจะไม่มีโอกาสให้ทำเช่นนั้นอีกต่อไป
ติงผิง ในฐานะศิษย์คนที่ห้าของเขา แน่นอนว่าเขาฝึกฝนให้เป็นพิเศษ ในอนาคต เมื่อเขาจากไปติงผิงจะติดตามจักรพรรดิพิรุณแทนและฝึกฝนกับเขาก่อนที่จะออกจากจักรวรรดิต้าหลิงและยืดหยันด้วยตนเอง
อีกครึ่งเดือนต่อมา หลิงฮันตัดสินใจที่จะเปิดสวรรค์
เขาไม่ได้จัดงานพิธีเปิดสวรรค์แต่อย่างใด ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีความมั่นใจ แต่มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะทำสำเร็จ เพียงแค่ไม่อยากให้ใครเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเขา