แต่เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างการเปิดสวรรค์จะปกปิดต่อสาธารชนได้อย่างไร? หลิงฮันบอกประชากรทุกคนไปอย่างชัดเจนว่าเขาจะทำการเปิดสวรรค์ แต่เขาไม่ได้เชื้อเชิญให้ผู้คนมารวมตัวกันเฝ้าดูเหมือนหม่าตั้วเปา
ข่าวใหญ่ถูกเล่าผ่านหูต่อหู แม้แต่เผ่าใต้ทะเลก็รับรู้เหตุการณ์เปิดสวรรค์ครั้งนี้
เพียงแต่หลังจากความล้มเหลวครั้งก่อน ทุกคนจึงไม่ได้คาดหวังกับหลิงฮันมากเท่าไหร่
ขนาดจอมยุทธสุดแข็งแกร่งอย่างหม่าตั้วเปาที่เป็นรูปแบบอาคมสังหารที่หนึ่งของโลก เขายังถูกพระเจ้าจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์สังหาร แม้หลิงฮันจะมีศักยภาพพอที่จะเทียบเท่าหม่าตั้วเปาได้ แต่นั่นคงไม่ใช่ตอนนี้
ถ้าหลิงฮันจะเปิดสวรรค์ในเวลาหนึ่งร้อยปีให้หลัง บางทีพวกเขาอาจจะมีหวัง
แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนต่างก็แอบหวังในใจลึกๆว่าหลิงฮันจะทำสำเร็จ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงหลีกหนีชะตาถูกหลอมเป็นเม็ดยาไม่พ้น ชีวิตของพวกเขาจะถูกนำไปเสริมเป็นพลังให้กับจอมยุทธของดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็โกรธเกรี้ยวจนแทบจะกระอักโลหิตออกมา!
ถ้าเกิดเวลานั้นมาถึงจริงๆ พวกเขาขอยอมฆ่าตัวตายดีกว่า
“เจ้าหนู เจ้าแน่ใจแล้วรึ?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนเอ่ยถาม พลังของเขาในตอนนี้นั้นฟื้นฟูกลับไปยังจุดสูงสุดเหมือนเดิมแล้ว หรือบางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ พลังต่อสู้ของเขานั้นหากใช้ออกเต็มที่จะแข็งแกร่งถึงระดับทลายมิติยี่สิบเอ็ดดาว
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “เจ้ายังไม่เชื่อใจข้าอีกรึ?”
เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกลายเป็นหดหู่ทันที ก่อนหน้านี้เขาเคยประลองกับหลิงฮันโดยไม่ใช้พลังแห่งจักรภพมาก่อน ผลลัพธ์ก็คือเขาถูกหลิงฮันทุบตีไม่ต่างอะไรกับตัวโง่งม
“เจ้าช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก ไม่เพียงแค่มีกายหยาบที่ไร้เทียมทาน แต่พลังกายก็ยังน่าสะพรึงกลัวมากอีกด้วย!” เขากรอกตา “ตอนนี้ข้าชักสงสัยแล้วว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้สืบสายเลือดมังกรที่แท้จริง!”
หลิงฮันยิ้ม มังกรที่แท้จริงนั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่ต้องเอ่ยถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ ลองดูลูกศิษย์ของเขาติงผิงเป็นตัวอย่าง แม้เขาจะไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้แต่เขาก็มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่าจอมยุทธระดับเดี่ยวกันไม่รู้กี่สิบเท่า แม้จะเป็นมังกรที่แท้จริงก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่านี้
ดังนั้นบนดินแดนศักดิสิทธิ์จึงต้องมีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่ามังกรที่แท้จริงแน่นอน
“ลูกศิษย์ของเจ้าเองก็ไม่ปกติ!” เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เฮ่อเหลียนเทียนหยุนก็หดหู่ยิ่งกว่าเดิม
นอกจากหลิงฮันแล้วก็ยังมีสัตว์ประหลาดคนที่สอง!
“แต่ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ยังมีช่องว่างให้พัฒนาตนเองเพิ่มขึ้นอีก ทำไมไม่รออีกหน่อยล่ะ?” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนแนะนำ อย่างน้อยหลิงฮันก็ยังไม่ทำความเข้าใจอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้อย่างสมบูรณ์
หลิงฮันส่ายหัว หลังจากเปิดสวรรค์อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของโลกใบเล็กก็จะใช้ไม่ได้บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทำความเข้าใจไปก็มีแต่จะเสียเวลา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเรียนรู้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์หลังจากขึ้นไปบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว
“หลังจากเปิดสวรรค์แล้ว ติงผิงจะตามไปฝึกฝนกับเจ้า ข้าได้สอนทักษะกายาเก้ามังกรทรราชให้เจ้าไปแล้ว ถ้าเจ้าไม่สอนศิษย์ของข้าต่อให้ดี ข้าจะหั่นเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!” หลิงฮันยิ้ม
เมื่อพูดถึงทักษะกายาเก้ามังกรทรราช เฮ่อเหลียนเทียนหยุนก็รู้สึกตื่นเต้นทันที “ข้าไม่นึกเลยว่าในโลกนี้จะมีทักษะที่ยอดเยี่ยมเช่นนั้นอยู่ แม้แต่ตอนนี้ข้าเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ! ฮ่าๆๆ หลังจากข้าฝึกฝนทักษะนี้จนบรรลุจุดสูงสุดแล้ว ข้าจะเหยียบย่ำทุกพื้นที่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์และทำให้ห้านิกายโบราณกับตระกูลอ้าวคุกเข่าต่อหน้าข้า”
“เอาล่ะ เลิกพูดไร้สาระกันได้แล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวคนอื่นก็หาว่าข้าเกิดกลัวและกำลังถ่วงเวลาอยู่พอดี!” หลิงฮันสะบัดมือ เขาแหงนมองท้องฟ้าและทะยานขึ้นไป
“วันนี้คือวันที่สวรรค์จะเปิดออก!” เขาส่งข้อความผ่านธงสัญลักษณ์
ถ้าหลิงเปิดสวรรค์ล้มเหลว ทุกคนคงต้องทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมของตนเอง พวกเขาจะไม่ยอมให้ห้านิกายโบราณช่วงชิงชีวิตของพวกเขาไปเด็ดขาด เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาตัดสินใจแล้วว่าจะฆ่าตัวตาย
ยิ่งกว่านั้นหลังจากความล้มเหลวที่อีกก้าวเดียวก็จะสำเร็จในครั้งก่อน จิตในของทุกคนก็กลายเป็นเปราะบางราวกับแก้ว
“อาจารย์!” ติงผิงกำหมัดแน่น ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเปิดสวรรค์มีความหมายว่าอย่างไร ถ้าหากหลิงฮันล้มเหลวนั่นจะหมายถึงจุดจบของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของโลกนี้! เขาเกลียดตัวเองที่ไม่มีพลังมากพอและทำได้เพียงจ้องมอง
“หนุ่มน้อย จงฝึกฝนตัวเองให้หนัก ความสำเร็จในอนาคตของเจ้าห้ามด้อยกว่าอาจารย์ของเจ้า!” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกล่าว เผ่ามนุษย์รุ่นเยาว์คนนี้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย แม้รากฐานวิญญาณของเขาจะใช้งานไม่ได้ แต่เขากลับระเบิดพลังออกจากร่างได้แข็งแกร่งกว่าคนที่มีรากฐานวิญญาณเป็นร้อยเท่า
นอกจากนั้นแล้วสัตว์ประหลาดเช่นเขาก็ไม่จำเป็นต้องสะสมปราณก่อเกิดในร่างให้เสียเวลา นั่นเพราะโครงสร้างกระดูกของเขาไม่สามารถชักนำให้ปราณก่อเกิดออกมาจากร่างได้
ติงผิงพยักหน้า เขาอยากจะแบ่งปันความลำบากของอาจารย์เหลือเกิน เขาได้ยินมาว่าหลังจากขึ้นไปบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แคว้นแห่งนี้จะต้องถูกผู้อื่นยึดครอง ในฐานะลูกศิษย์ของจักรพรรดิ เขาไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก!
“จะต้องเปิดสวรรค์สำเร็จ!” จักรพรรดิพิรุณ เฟิงโปหยุน มู่หลงชิง เย่วไค่หยู่และคนอื่นๆกำหมัด
“จะต้องสำเร็จ!” ประชากรทุกคนตะโกนอยู่ในใจพร้อมกับอารมณ์ที่ตึงเครียด
ทวีปฮงเทียนต้องไม่จบลงแค่นี้!
ท่าทีของหลิงฮันสงบนิ่งเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่จอมยุทธจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นหากไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งอย่างตำหนักมัจฉาวายุภักษ์แต่เป็นจอมยุทธที่ปรากฏตัวคราวที่แล้ว เขาไม่ก็หวาดกลัวแม้แต่น้อย
พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้สูงกว่าหม่าตั้วเปามาก กายหยาบของเขาที่แข็งแกร่งเทียบเท่าแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์นั้นการโจมตีของพระเจ้าที่ถูกลดทอนอำนาจโดยกำแพงกั้นระหว่างโลกย่อมไม่สามารถทำร้ายเขาได้แม้แต่เส้นผม
สำหรับเขาการเปิดสวรรค์ก็ไม่ต่างอะไรกับการเดินผ่านสวรรค์
‘พรึบ’ เขานำขวานภูผาวารีออกมา
“จักรพรรดิจงเจริญ! จักรพรรดิจงเจริญ! จักรพรรดิจงเจริญ!” ทุกชีวิตบนโลกตะโกนคำราม พลังอำนาจที่ส่งผ่านมารวมอยู่ในธงสัญลักษณ์นั้นท่วมท้นราวกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่
หลิงฮันจำขวานภูผาวารีในมือแน่นและส่งผ่านพลังเข้าไป อำนาจที่น่าสะพรึงกลัวเริ่มทะลักออกมา ขวานภูผาวารีในตอนนี้ส่องสว่างและปลดปล่อยพลังอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา
ตัวเขาในตอนนี้แข็งแกร่งเกินไป พลังกายและปราณก่ออย่างเดียวก็ทำให้เขามีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติสิบสามดาวแล้ว เมื่อโคจรใช้งานทักษะยุทธและทักษะลับต่างๆ พลังต่อสู้ของเขาก็ทะยานขึ้นสูงขึ้นระดับทลายมิติยี่สิบสามดาว
หลิงฮันที่ยังไม่ใช้อำนาจแห่งจักรภพก็มีพลังต่อสู้เทียบเท่าหม่าตั้วเปาที่ใช้พลังทั้งหมดทุกอย่างออกมาแล้ว
ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือเขายังมีช่องว่างให้พัฒนาพลังต่อสู้เพิ่มได้อีก
การเปิดสวรรค์ไม่ใช่เรื่องยากอันใดเลย!