หลี่เหว่ยเหว่ยจ้องมองหลิงฮัน
ถึงแม้บิดาของนางจะอยากชนะพนันกับนางขนาดไหน แต่เขาถึงขนาดต้องหาคนแปลกหน้ามาแกล้งนางเลยรึ? แล้วก็ชายหนุ่มตรงหน้านางด้วยด้วย ข้าไปล่วงเกินเจ้าตอนไหนทำไมเจ้าถึงรวมหัวทำกับข้าเช่นนี้?
“ฮ่าๆ ในเมื่อเจ้าแพ้พนันแล้วเจ้าก็จงไปอยู่ในสำนักนภาสีชาดเสียแต่โดยดี ในอนาคตอย่าคิดจะหนีไปเที่ยวเล่นอีก!” อาวุโสหลี่กล่าว เขากลัวเสียเกินกว่าบุตรสาวของเขาจะระเบิดอารมณ์ออกมาและไม่ทำตามสัญญา
หลี่เห่วยเหว่ยบุ้ยปากพึมพำ นางไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของบิดาได้… แต่กับรุ่นเยาว์หนุ่มผู้นี้ นางไม่บอมปล่อยไปเฉยๆแน่!
หลิงฮันที่เห็นท่าทางและแววตาของนางย่อมรู้ว่าคุณหนูผู้นี้ต้องไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่ายๆแน่นอน
แต่เขามีทางอื่นให้เลือกด้วยรึไง? ถ้าเขาจงใจแพ้หลี่เหว่ยเหว่ยโดยไม่ทำตามที่ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายคาดหวัง ผลที่ตามมาคงจะย่ำแน่กว่านี้อีก
ถ้าเป็นแค่คุณหนูผู้นี้คนเดียวเขาไม่หวาดกลัวหรอก แต่ที่เขากลัวก็คืออีกฝ่ายจะไปขอความช่วยเหลือจากจอมยุทธระดับพระเจ้าต่างหาก แม้เขาจะมีหอคอยทมิฬที่สามารถปลดปล่อยอำนาจที่น่าสะพรึงออกมาได้ แต่ถ้าทำเช่นนั้นความลับที่เขาครอบครองหอคอยทมิฬก็จะถูกเปิดเผย
“หวังว่านางจะไม่บังคับให้ข้าต้องจนมุม!” หลิงฮันกล่าวในใจ แม้ภายนอกเขาจะดูเป็นคนง่ายๆ แต่ลึกๆเขาก็ยังมีความยิ่งทะนงอยู่เช่นกัน
“จริงสิเหว่ยเหว่ย เจ้าควรจะเรียนรู้หลายๆอย่างจากหลิงฮันเอาไว้ด้วย การที่เขาเปิดสวรรค์ได้นั้นหมายความว่าพรสวรรค์ในวิถีวรยุทธของเขาสูงกว่าเจ้าไม่รู้กี่เท่า!” อาวุโสหลี่ใช้หลิงฮันเป็นแรงกระตุ้นบุตรสาวตนเอง
หลี่เหว่ยเหว่ยยังคงพึมพำและจ้องเขม็งมายังหลิงฮัน แม้นางจะไม่พอใจแต่นางก็ปฏิเสธความสงสัยในใจตัวเองไม่ได้ หลิงฮันดูแล้วก็ไม่ได้มีสามหัวหกแขนแท้ๆ แต่เขาสามารถเปิดสวรรค์ได้อย่างไร?
ง
ทุกๆปีจะมีจอมยุทธระดับทลายมิติขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์นับพันคน แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ขึ้นมาผ่านการเปิดสวรรค์… อย่างน้อยในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
ชายที่สร้างประวัติศาสตร์ผู้นี้หากเป็นก่อนหน้านี้นางคงจะสนใจในตัวเขาอย่างมาก แต่ตอนนี้ความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของนางคือจะจัดการหลิงฮันอย่างไรดี เขาต้องได้รับโทษข้อหารังแกข้าคนนี้!
นางเค้นเสียงและกล่าว “ก็เป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติที่แข็งแกร่งกว่าข้าเท่านั้น หากเขายังไม่ทะลวงผ่านเป็นพระเจ้าแม้จะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ไม่มีความหมาย! ระดับพลังของพระเจ้านั้นมีทั้งหมดห้าระดับใหญ่ยี่สิบขั้นย่อย การจะทะลวงผ่านแต่ละระดับนั้นยากเย็นแสนเข็น ข้าไม่เห็นว่าเขาจะมีอะไรให้น่าภาคภูมิใจเลย”
อาวุโสหลี่หัวเราะและส่ายหัว “ต่อให้เจ้าเป็นฝ่ายแพ้ก็เถอะ เจ้าจำเป็นต้องพูดจาดูถูกเช่นนั้นเลยรึ?”
“ฮึ ข้าก็แค่ประมาทไปเท่านั้น!” หลี่เหว่ยเหว่นเดินไปหาอาวุโสหลี่ก่อนจะกันกลับมาที่หลิงฮันและชี้นิ้ว “เจ้าที่ชื่อฮันอะไรนั่นน่ะ อีกสิบวันพวกเราจะประลองกันอีกครั้งที่การทดสอบเข้าร่วมสำนักฝ่ายเหนือ ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะชนะเจ้าไม่ได้!!”
หลิงฮันยิ้ม “ตกลง งั้นก็พยายามเข้าล่ะ” เขาตอบกลับลวกๆราวกับไม่คิดอะไร
หลี่เหว่ยเหว่ยโกรธจนอยากจะกระโดดกระทืบพื้น ชายคนนี้ไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลยรึไง? เห็นแบบนี้แต่นางก็เป็นหนึ่งในสามสตรีที่งดงามที่สุดของเมืองจักรพรรดิเชียวนะ ไม่มีใครรู้ว่ามีทายาทกี่ตระกูลตามขอนางแต่งงาน แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันกลับไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลย
นอกจากจะเป็นบ้านนอกแล้ว สายตาของเจ้ายังไม่ต่างอะไรกับสุนัข!
ไม่ได้… ข้ารอถึงสิบวันไม่ไหว ถ้าข้าต้องอดกลั้นอารมณ์โกรธที่ค้างคาอยู่นี้ไปตลอดสิบวัน นางจะต้องกลายเป็นบ้าแน่นอน!
หลี่เหว่ยเหว่ยหันหลังเดินจากไปทันที นางต้องหามาช่วยให้ได้ไม่เช่นนั้นนางคงไม่อาจนอนหลับไปทั้งคืน
อาวูโสหลี่ที่เห็นเช่นนั้นก็ทำได้เพียงส่ายหัวและยิ้ม แต่ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนสีหน้าก่อนจะหันมาพูดกลับหลิงฮัน “เล่าเรื่องโลกใบเล็กและการเปิดสวรรค์ให้ข้าฟังทีได้รึไม่?”
หลิงฮันเล่าเรื่องราวแทบจะทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง มีเพียงเรื่องสำคัญบางเรื่องเท่านั้นที่เขาไม่สามารถพูดได้อย่างเช่น เรื่องของหอคอยทมิฬ เรื่องที่เขากลับมาเกิดใหม่และเรื่องของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์ เพราะอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการเปิดสวรรค์อยู่แล้ว
อาวุโสหลี่ฟังอย่างตั้งใจ หลังจากฟังรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการเปิดสวรรค์ครบเขาก็พยักหน้าและกล่าว “จากที่เฉิงหยินเล่า ดูเหมือนว่าเจ้าต้องการเข้าร่วมสำนักนภาสีชาดด้วยตัวเองสินะ?”
“ขอรับ!” หลิงฮันตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อม เขาจะไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ถึงจะมีพลังเทียบเคียงกับผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายได้ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงแสดงความเคารพต่ออีกฝ่าย
ในโลกวรยุทธ คนที่แข็งแกร่งย่อมเป็นที่เคารพ แต่แน่นอนว่าหลิงฮันไม่มีทางคุกเข่าให้ใครเด็ดขาด อย่างเขาก็จะทำแค่ผสานมือเคารพเท่านั้น
อาวุโสหลี่ยิ้ม “ในเมื่อเจ้าสามารถเปิดสวรรค์ได้ พลังต่อสู้ของเจ้าก็สมควรจะมีถึงยี่สิบดาว แม้ในชีวิตจริงพลังต่อสู้จะเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด แต่การทดสอบของสำนักนภาสีชาดนั้นไม่ใช่แค่พลังต่อสู้ แต่ต้องมีศักยภาพด้านวรยุทธที่สูงส่ง มีพลังวิญญาณที่ยอดเยี่ยม และมีทักษะการต่อสู้ที่โดดเด่น หากเจ้าต้องการติดสามอันแรกคงจะเป็นเรื่องที่ยากมาก”
เขาประเมินความสามารถในการต่อสู้ของหลิงฮันไว้ไม่สูงเท่าไหร่ จอมยุทธที่มาจากโลกใบเล็กจะมีศักยะภาพทัดเทียมกับจอมยุทธของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร? สิ่งที่จอมยุทธจากโลกใบเล็กไม่มีคือการแนะนำจากพระเจ้า
ที่สำคัญที่สุดคือวิญญาณ จอมยุทธจากโลกใบเล็กบกพรองให้เรื่องนี้มากที่สุด พวกเขาสามารถเริ่มขัดเกลาพลังวิญญาณได้หลังจากบรรลุระดับทลายมิติ แต่จอมยุทธของดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างเช่นหลี่เหว่ยเหว่ยนั้นตั้งแต่เกิดมานางก็มีสมบัติมากมายที่ใช้เพิ่มพลังวิญญาณ แม้นางจะอายุสิบกว่าปีแต่นางก็มีวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าจอมยุทธจากโลกใบเล็กไม่รู้กี่เท่า
ดังนั้นถึงแม้จะเป็นหลิงฮัน ในการทดสอบเข้าร่วมสำนักนั้นไม่ต้องกล่าวถึงอันดับหนึ่งเลย แค่สิบอันดับแรกก็ยากมากแล้ว
“ข้ายินดีที่จะลองดู” หลิงฮันกล่าว
เขามั่นใจในศักยภาพของตนเองมาก
อาวุโสหลี่พยักหน้า ด้วยระดับพลังบ่มเพาะและสถานะของเขา การที่เขามาพูดคุยกับหลิงฮันซึ่งๆหน้าก็ถือว่าให้เกียรติมากแล้ว แต่เหตุผลหลักที่เขาต้องการพูดคุยกับหลังฮันจะเป็นเพราะเรื่องเปิดสวรรค์ เหตุการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง
เมื่อเห็นความมั่นของหลิงฮัน อาวุโสหลี่ก็ไม่กล่าวอะไรต่อ
“ในช่วงสิบวันนี้เจ้าพักที่นี่ไปก่อนแล้วกัน เมื่อเข้าสำนักนภาสีชาดได้เจ้าค่อยย้ายออก”
หลิงฮีนพยักหน้าและกล่าว “ต้องรบกวนผู้อาวุโสแล้ว”
เซียงเฉิงหยินที่ไม่พูดอะไรมาตลอดเอ่ยขึ้น “เชิญผู้อาวุโสไปพักผ่อนก่อน ส่วนหลิงฮันข้าจะเป็นคนพาไปห้องพักเอง”
เซียงเฉิงหยินกับหลิงฮันเดินออกไป
เซียงเฉิงหยินกล่าวด้วยเสียงเบา “ถึงแม้พรสวรรค์ของเจ้าจะไม่โดดเด่น แต่เจ้าก็ขึ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาโดยการเปิดสวรรค์ ข้าคิดว่าเจ้าก็น่าจะพอมีศักยภาพอยู่บ้าง! ถ้าเจ้าหวังจะได้รับการประเมินที่ดีในการทดสอบ เจ้าก็ต้องฝึกฝนอย่างหนัก เพราะอย่างไรการทดสอบก็ใกล้จะมาถึงแล้ว”