หลิงฮันจ้องไปยังแผ่นหยก เขาส่งใช้รวบรวมพลังไปยังบริเวณหัวใจก่อนจะระเบิดพลังวิญญาณออกมาและควบคุมให้พุ่งเข้าใส่พแผ่นหยก
นี่คือการใช้พลังวิญญาณ
หากมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งพอ ต่อให้เป็นดวงดาวขนาดใหญ่ก็สามารถถูกทำลายได้! แต่แน่นอนว่าหากจะทำเช่นนั้นต้องมีพลังระดับสร้างสรรพสิ่งเสียก่อน หลิงฮันไม่รู้ว่าเขาต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าจะไปถึงจุดนั้น
‘เพล๊ง’ แผ่นหยกแตกกระจายทันที
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย แม้พลังบ่มเพาะของเขาจะยังอ่อนด้อย แต่การทำลายแผ่นหยกจะเป็นเรื่องยากอันใด? ยิ่งกว่านั้นนี่เขาก็ยังไม่ได้เอาจริงแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นหากเขาใช้แก่นแท้แห่งดาบด้วยล่ะก็ พลังวิญญาณของเขาจะยิ่งทรงพลังกว่านี้อีก
พลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งเช่นนี้ก็เพราะเขาดื่มชากำเนิดใหม่เข้าไป ถึงแม้เขาจะดื่มไปเพียงจิบเดียว แต่มันก็ทำให้พลังวิญญาณของเขาในตอนนี้ไม่อ่อนด้อยไปกว่าใครในหมู่จอมยุทธระดับทลายมิติ
“ข้ายังไม่กล่าวถึงระยะห่างที่เจ้าจะโจมตีเลย” จิตวิญญาณหอคอยกล่าว
หลิงฮันส่งเสียง ‘โอ้’ ก่อนจะกล่าว “ข้าโจมตีใกล้เกินไป? งั้นก็ทำให้มันคืนสภาพแล้วข้าจะลองอีกครั้ง”
“ไม่จำเป็น เจ้าผ่านการทดสอบชั้นนี้แล้ว” จิตวิญญาณกล่าว “จากที่เห็น แม้จะห่างไปสามฟุตเจ้าก็ยังทำลายแผ่นหยกได้”
หลิงฮันรู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าจิตวิญญาณตนนี้มีความคล้ายคลึงกับหอคอยน้อยอยู่ไม่น้อยเลย คำพูดของทั้งสองนัน้ทั้งเย็นชาและอวดดี
“เหอะ จะนำมันมาเทียบกับข้าได้อย่างไร!” หอคอยน้อยกล่าวอย่างยิ่งยโส มันต่างห่างคือหอคอยที่แข็งแกร่งที่สุด
“เจ้าขึ้นไปชั้นที่สามได้” จิตวิญญาณหอคอยกล่าว กำแพงหินด้านหน้าหายไปและปรากฏเส้นทางเดินขึ้นอีกครั้ง
หลิงฮันเดินขึ้นทางเดินไปและพบกับห้องหินเช่นเดิม แต้ห้องหินครั้งนี้มีขนาดใหญ่กว่าสองห้องที่แล้วประมาณหนึ่งร้อยเท่าได้
“ป้องกันสิบกระบวนท่าแล้วเจ้าจะผ่านชั้นนี้ได้” จิตวิญญาณหอคอยกล่าวก่อนที่จะมีแสงสว่างเกิดขึ้นและมีร่างมนุษย์ร่างหนึ่งที่ปรากฏออกมา
มนุษย์ร่างนี้ถูกก่อตัวขึ้นโดยแสง รูปลักษณ์ของเขาสามารถมองเห็นได้อย่างเรือนราง แต่จากที่ดูแล้วน่าจะเป็นผู้ชาย
“รุ่นเยาว์เอ๋ย มาเริ่มกันเถอะ” ชายร่างแสงกล่าว แม้น้ำเสียงเขาจะไม่ดังแต่ก็แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม
หลิงฮันตกตะลึงและกล่าว “ทำไมร่างแสงนั่นถึงให้ความรู้สึกว่าเป็นคนจริงๆกัน?”
“ร่างแสงนี้แต่เดิมเคยเป็นปรมาจารย์จอมยุทธคนหนึ่ง นี่คือจิตวิญญาณที่เขาทิ้งเอาไว้” จิตวิญญาณหอคอยกล่าว “มีเพียงคนที่มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนที่เข้าร่วมการทดสอบเท่านั้นถึงจะสามารถทิ้งเศษเสี้ยวจิตวิญญาณไว้เพื่อทดสอบพลังของคนรุ่นต่อไปได้”
หลิงฮันสงสัยยิ่งกว่าเดิม “ชายคนนี้คือใครกัน?”
“ข้าคือฉือเหลิน” ชายร่างแสงกล่าว
“ฉือเหลินคือศิษย์ที่เข้าร่วมสำนักเมื่อสามแสนปีก่อน เขาคือจอมยุทธที่เป็นอัจฉริยะที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากเขาออกจากสำนักไปเมื่อสามร้อยปีก่อนก็ไม่มีใครได้ข่าวของเขา” จิตวิญญาณหอคอยกล่าว
“ไม่มีใครสามารถก้าวข้ามเขาได้เลยในเวลานับล้านปีที่ผ่านมา?” หลิงฮันตกตะลึง
“เขาคือสัตว์ประหลาดที่แท้จริง!” จิตวิญญาณหอคอยกล่าว “ในจอมยุทธระดับเดียวกันไม่มีใครสามารถยืนเทียบไหล่เขาได้ แม้เขาจะทิ้งเศษสิ้วจิตวิญญาณไว้ในระดับภูผาวารี แต่การโจมตีที่เจ้าจะทดสอบคือระดับทลายมิติเท่านั้น”
แววตาของหลิงฮันส่องประกายเลือดร้อน เขาชี้ไปยังร่างแสงของฉือเหลินและกล่าว “ถ้าข้าสามารถโค่นเขาได้ล่ะ?”
“เช่นนั้นเจ้าก็จะผ่านการทดสอบตั้งแต่ชั้นสามไปจนถึงชั้นแปดทันที” จิตวิญญาณหอคอยกล่าว “ตั้งแต่ชั้นสามขึ้นไปคือการรับการโจมตีสิบกระบวนท่าของเขา แต่ยิ่งขึ้นไปชั้นสูงมากเท่าใดพลังที่เขาใช้โจมตีก็จะทรงพลังยิ่งขึ้น”
หลิงฮันกล่าวออกไปอย่างเลือดร้อน “ศิษย์พี่ฉือ โปรดชี้แนะ!”
“ระวังด้วย!” ฉือเหลินกล่าวและโจมตีใส่หน้าอกหลิงฮัน แม้หมัดที่เขาปล่อยออกมาจะดูเรียบง่าย แต่มันก็ให้ความรู้สึกราวกับจะทำให้สวรรค์และปฐพีพังทลาย
แก่นแท้แห่งหมัด!
หลิงฮันพยักหนาและโคจรทักษะผนึกพลิกปฐพี
ตูม!
หนึ่งการโจมตีผ่านไป ฉือเหลียนถูกทำให้ล่าถอยไปสามสิบก้าวในขณะที่หลิงฮันยังจะยืนอยู่กับที่
หลิงฮันขมวดคิ้วและถาม “พลังของท่านคงไม่ใช่มีแค่นั้น ทำไมถึงได้ไม่ใช้มันทั้งหมดออกมา?”
“นั่นเพราะนี่เป็นเพียงการทดสอบแรกจากเขา” จิตวิญญาณหอคอยกล่าว
หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ปลดขีดจำกัดซะ ข้าต้องการสู้กับจอมยุทธระดับทลายมิติที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์!”
จิตวิญญาณหอคอยแน่นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “ตามที่เจ้าต้องการ!”
‘ครืนน’ จู่ๆร่างแสงของฉือเหลียนก็ระเบิดพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมา คลื่นพลังของเขาแพร่กระจายไปทั่วห้องจนทำให้ทั้งชั้นสั่นสะเทือน
หลิงฮันไม่หวาดกลัว กลับกันเขารู้สึกตื่นเต้นด้วยซ้ำ “นี่คือพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาว! ฮ่าๆๆ ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงไม่มีใครโค่นท่านได้ ที่แท้ท่านก็ขัดเกลาพลังจนถึงขีดจำกัดของระดับทลายมิติแล้วนี่เอง!”
“เข้ามา!” หลิงฮันหัวเราะ
‘ปัง!’
หลิงฮันถูกต่อยจนร่างกระเด็น แต่ด้วยกายหยาบที่ทนทานของเขา หมัดของฉือเหลินถึงไม่สร้างความเสียหายให้เขาแม้แต่น้อย
ต่อให้อีกฝ่ายต่อยใส่เขาสิบหมัดหรือแสนหมัด ถ้าพลังของอีกฝ่ายไม่ใช่พลังระดับพระเจ้า กายหยาบของเขาก็ไม่มีวันได้รับบาดเจ็บ
หลิงฮันคำรามและทรงตัวกลับมายืน เขาใช้ศรฆ่ามังกรทะลวงดาราโจมตีใส่อีกฝ่าย
ฉือเหลินไม่มีกายหยาบที่แข็งแกร่ง ลูกศรได้ทำให้หมัดของเขาบาดเจ็บสาหัส
จิตวิญญาณหอคอยอดตกตะลึงไม่ได้ กายหยาบของหลิงฮันทำให้มันรู้สึกประหลาดใจ
หลิงฮันไม่รีรอ เขานำดาบออกมาพร้อมกับโคจรทักษะหมื่นแปรผันเป็นหนึ่งเพื่อรวบรวมพลัง ในขณะที่มือข้างซ้ายก็โคจรทักษะผนึกพลิกปฐพี
‘ปัง ปัง ปัง’ ทั้งสองคนปะทะกันอย่างดุเดือด คลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัวถาโถมไปทั่วห้องหิน
หลิงฮันกระหน่ำใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราโจมตีอย่างต่อเนื่อง เมื่อใดที่เขาเข้าใกล้ฉือเหลียนได้ เขาจะหยุดใช้ศรฆ่ามังกรทะลวงดาราและโจมตีด้วยหมื่นแปรผันเป็นหนึ่ง
ฉากต่อสู้ที่เกิดขึ้นตอนนี้นั้นช่างดุเดือดสูสีเป็นอย่างมาก