เมื่อหลิงฮันก้าวออกมาจากหอคอยดาราขาว เขาก็รู้สึกได้ว่าสายตาของทุกคนกำลังจ้องมองมาที่เขา มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะเขาขึ้นไปถึงชั้นที่แปด ซึ่งเขาน่าจะหยุดอยู่ชั้นที่เจ็ดก็เกินพอแล้ว
“สหายน้อย เจ้ามีนามว่าอะไร?” ชายชราคนหนึ่งรีบกระโจนเข้ามาหาและจ้องมองหลิงฮันด้วยสายตาเร่าร้อน ราวกับเขาไม่เห็นหลิงฮันเป็นผู้ชาย แต่เป็นหญิงสาวที่งดงามเหมือนเทพธิดา
หลิงฮันรู้สึกรังเกียจเล็กน้อย เพราะหน้าของชายชราจะติดกับเขาอยู่แล้ว
แต่ชายชราก็ไม่ปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเอง และมีเงาของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ลอยอยู่ด้านหลังของเขา นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้น
หลิงฮันเดินถอยหนีและพูดว่า “ข้าชื่อหลิงฮัน”
“หลิงฮัน จงคุกเข่าให้ข้าในฐานะอาจารย์ของเจ้าเสีย ข้ายอมรับเจ้าเป็นศิษย์ของข้าแล้ว” ชายชรารีบพูดออกมา
“ไม่!” ในขณะนั้นเองก็มีชายชราอีกครั้งรีบกระโจนออกมาและพูดด้วยความโกรธว่า “สหายตัวน้อยคนนี้คือศิษย์ของข้าต่างหาก!”
“เหลวไหล!” ชายชราคนแรกตะโกนใส่ชายชราคนที่สอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ชายชราคนที่สามเดินออกมาและยิ้มให้กับหลิงฮัน “สหายตัวน้อม ข้ามีนามว่าจางเต๋อหมาน ถ้าเจ้าคุกเข่าให้ข้าในฐานะอาจารย์ของเจ้า ข้าจะคอยสนับสนุนเจ้า และเจ้าจะสามารถต่อสู้กับใครก็ได้ที่เจ้าต้องการในอนาคต!”
นี่คือสิ่งที่อาจารย์ควรพูดหรือ?
“เฒ่าจาง นี่เจ้ากล้าแย่งศิษย์ของข้าต่อหน้าข้าเลยรึ?” ชายชราคนที่สี่ปรากฏตัวออกมาและจ้องมองจางเต๋อหมานไม่ละสายตา
“ใช่แล้วเฒ่าจาง เจ้าชักจะน่ารังเกียจเกินไปแล้วที่แย่งศิษย์ของข้า ขณะที่พวกข้ากำลังเถียงกันอยู่!” ชายชราสองคนแรกหยุดทะเลาะกันและหันไปมองเฒ่าจาง
“สหายน้อย เจ้าจะเลือกใครเป็นอาจารย์ของเจ้า?” ชายชราทั้งสี่คนจ้องมองไปที่หลิงฮันพร้อมกัน
นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคนที่ถูกจอมยุทธระดับสุริยันจันทราทั้งสี่คนแย่งตัว
จอมยุทธระดับสุริยันจันทรานั้นถือได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังของจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ
แน่นอนว่าจอมยุทธระดับสุริยันจันทราแบ่งออกเป็นสี่ขั้นเหมือนกัน ซึ่งชายชราทั้งสี่คนนั้นเป็นเพียงแค่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้นเท่านั้น
“พอได้แล้ว พวกเจ้าจะหยุดขัดขวางการสมัครเข้าสำนักของทุกคนได้หรือยัง!” ในขณะนั้นเองมีชายวัยกลางคนกระโจนขึ้นไปในอากาศ แลยืนอยู่บนหอคอยดาราขาวเก้าชั้น แม้เขาจะไม่พูดเสียงดังมากนัก แต่ทุกคนก็ได้ยินเต็มสองหู
“ขอรับ รองเจ้าสำนัก!” ชายชราทั้งสี่คนรีบโค้งคำนับเขาและดำเนินการทดสอบต่อทันที
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้น ดูเหมือนว่าชายวัยกลางคนคนนั้นจะแข็งแกร่งกว่าชายชราทั้งสี่คนเสียอีก มันดูน่าเหลือเชื่อเล็กน้อย แต่ยิ่งระดับพลังสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งแก่ชราช้าลงเท่านั้น
ดังนั้นบางทีชายวัยกลางคนคนนั้นอาจมีอายุเยอะกว่าจางเต๋อหมานและผู้อาวุโสอีกสามคนก็เป็นได้
คำพูดของเขา แน่นอนว่าจางเต๋อหมานและผู้อาวุโสอีกสามคนไม่กล้าขัดขืน พวกเขาดำเนินการสมัครเข้าสำนักต่อทันที และพาผู้ที่ผ่านการทดสอบไปยังหอพักศิษย์ฝ่ายเหนือ ในขณะที่หลิงฮัน หม่าชิง เฉิงฮ่าวเฟย จื่อหยุนเอ๋อและคนที่ติดอันดับหนึ่งในสิบที่เหลือยังคงอยู่ที่นี่
สิบอันดับแรกจะได้รับรางวัลตอบแทน
รางวัลสำหรับคนที่ติดเจ็ดอันดับท้ายนั้นธรรมดามาก แต่ละคนจะได้รับผลึกก่อเกิดคนละก้อน ส่วนรางวัลของสามอันดับแรกนั้นจะดูดีกว่ามาก ซึ่งแน่นอนว่าหลิงฮันเป็นอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
ในขณะที่หม่าชิง เฉิงฮ่าวเฟยและจื่อหยุนเอ๋อสามารถขึ้นไปถึงหอคอยชั้นที่หกได้ แต่ใครจะเป็นอันดับสอง อันดับสาม และอันดับสี่?
หลังจากถกเถียงกันอยู่พักใหญ่ หม่าชิงก็ถูกตัดสินให้เป็นอันดับสอง ในขณะที่เฉิงฮ่าวเฟยและจื่อหยุนเอ๋อถูกตัดสินให้เป็นอันดับสามด้วยกันทั้งคู่ แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้สำนักนภาสีชาดฝ่ายเหนือต้องจ่ายมากขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเดิมทีพวกเขาก็มั่งคั่งอย่างมากอยู่แล้ว ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือ พวกเขาเป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติเท่านั้น ดังนั้นทรัพยาที่พวกเขาได้รับถือว่าไม่ได้ล้ำค่าอะไรมาก
และสามอันดับแรกยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย
ตัวอย่างเช่น พวกเขามีโอกาสที่จะเข้าไปในบ่อน้ำพุหยกดำเดือนละหนึ่งครั้ง
บ่อน้ำพุหยกดำคือบ่อน้ำพุที่เกิดขึ้นมาจากพลังปราณแห่งสวรรค์และปฐพี มันมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกายของจอมยุทธ และสำนักนภาสีชาดเองก็ใส่สมุนไพรล้ำค่าจำนวนมากลงไปในบ่อด้วย ดังนั้นประสิทธิภาพของมันจึงมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม บ่อน้ำพุนี่สามารถใช้งานได้แค่จอมยุทธระดับทลายมิติและจอมยุทธระดับภูผาวารีเท่านั้น
ส่วนสิทธิพิเศษที่สองคือ พวกเขาจะได้รับผลึกก่อเกิดสองก้อนทุกหนึ่งเดือน
ซึ่งผลึกก่อเกิดนอกจากเอาไว้ดูดซับพลังของมันแล้วยังสามารถใช้เป็นเงินไว้ซื้อสมบัติล้ำค่าหรือแลกเปลี่ยนเงินได้เช่นกัน แต่คงจะมีเพียงแค่คนโง่เท่านั้นที่ทำแบบนั้น
สิทธิพิเศษที่สามคือ พวกเขาจะได้รับเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ทุกเดือน
เม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับจอมยุทธระดับทลายมิติและจอมยุทธที่มีระดับพลังพระเจ้าได้ แต่จอมยุทธที่มีระดับพลังพระเจ้านั้น จะทำให้ประสิทธิภาพของเม็ดยาที่ได้รับลดลงมาก โดยทั่วไปพวกเขาจะได้รับ “เม็ดยาหยางชิง” ซึ่งประสิทธิภาพของมันน่าทึ่งมาก และแน่นอนว่ามันจะต้องล้ำค่ามากขึ้นเช่นกัน
ตราบใดที่ยังเป็นศิษย์ของสำนักแห่งนี้ พวกเขาก็จะได้รับเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ทุกเดือน อันดับสามจะได้รับเดือนละหนึ่งเม็ด อันดับสองเดือนละสองเม็ด และอันดับหนึ่งจะได้เดือนละสามเม็ด
ผลึกก่อเกิดและเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นพวกเขาจะได้รับทันที แต่สิทธิ์ที่จะเข้าไปในบ่อน้ำพุหยกดำจะต้องรอจนกว่าจะถึงเดือนหน้า ซึ่งช่วงเวลาที่จะเข้าไปได้ทั้งสำนักนภาสีชาดทั้งสี่ฝ่ายจะหมุนเวียนกันคนละเดือน ซึ่งหลังจากผ่านเดือนนี้ไปก็จะเป็นช่วงเวลาที่สำนักนภาสีชาดฝ่ายเหนือสามารถเข้าไปได้
หลังจากที่หลิงฮันและคนอื่นได้รับรางวัลตอบแทนกันแล้ว พวกเขาก็ถูกพาไปยังที่ที่พวกเขาต้องอยู่อาศัยตั้งแต่นี้เป็นต้นไป บางทีอาจต้องอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลาสิบปีหรือแม้แต่ร้อยปี
ระหว่างทาง จางเต๋อหมานมีหน้าที่รับผิดชอบในการบอกกฎของสำนักให้พวกเขาทราบ อย่างเช่นอย่าได้เดินไปที่สำนักนภาสีชาดฝ่ายอื่น เว้นแต่จะแข็งแกร่งพอและเตรียมพร้อมที่จะปะทะ
สำนักนภาสีชาดนั้นสนับสนุนให้ศิษย์แลกเปลี่ยนวรยุทธซึ่งกันและกัน แต่โดยหลักการแล้วจะห้ามศิษย์ระดับสูงและศิษย์ระดับล่างต่อสู้กัน เว้นแต่ศิษย์ระดับล่างจะเป็นฝ่ายยั่วยุศิษย์ระดับสูงก่อน
ในที่สุด จางเต๋อหมานก็พูดบางอย่างที่ฟังดูแปลกออกมา “และที่นี่ยังมีแมวขาวอาศัยอยู่ พวกเจ้าห้ามไปยั่วยุมันเด็ดขาด มิฉะนั้นจะไม่มีใครสามารถช่วยเจ้าได้!”
“เพราะอะไรกัน?” ทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย