เรื่องที่หลี่เหว่ยเหว่ยคิดอยู่ในหัวเสมอ แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจะคิด
นางอยากเจอเจ้าชายขี่ม้าขาวรูปหล่อที่แข็งแกร่งและสามารถปกป้องนางได้
ตั้งแต่ที่นางแพ้หลิงฮัน บางครั้งภาพของเขาก็เข้ามาปรากฏอยู่ในความฝันของนาง เหมือนกับเขาเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวของนางที่พร้อมที่จะปกป้องคนรักด้วยดาบที่อยู่ในมือ!
แม้แต่ในความฝันยังมีหลิงฮันเข้ามาเกี่ยว นี่ทำให้หลี่เหว่ยเหว่ยรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก และทุกครั้งที่นางลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วคิดเรื่องที่ฝันเมื่อคืน มันทำให้นางรู้สึกเกลียดหลิงฮันมากยิ่งขึ้น ทั้งที่เป็นความฝันของนางแท้ๆ แต่ก็ยังคงมีหลิงฮันปรากฏอยู่ในความฝันของนางอยู่หลายครั้ง
“เหว่ยเหว่ย!” จื่อหยุนเอ๋อรีบพูดเรียกสติหลี่เหว่ยเหว่ย เพราะเกรงว่านางจะพูดอะไรที่น่าตกใจและหยาบคายออกมา
หลี่เหว่ยเหว่ยรีบหุบปากทันที นางเกือบจะพูดหลุดปาก และหันไปจ้องมองหลิงฮันด้วยสายตาดุเดือดแทน แน่นอนนางคิดจะโทษหลิงฮัน ใครขอให้เขาเข้ามาในความฝันของนางหลายครั้งกันล่ะ?
หลังจากนั้น หลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อก็เดินไปนั่งที่นั่งที่ว่างอยู่ และความงามของพวกนางทั้งสองคนนั้นก็ได้ดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมาก
“หม่าชิงมาแล้ว!”
ใครบางคนพูดเอ่ยขึ้นมา ทำให้ทุกคนหันหน้าไปมองที่ประตูทันทีและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกลิ่นอายเหมือนกับสัตว์ป่าที่ทำให้ทุกคนรู้สึกหายใจไม่ออก
หม่าชิงดูเหมือนจะยังไม่ตื่น เขาลืมตาเล็กน้อยเท่านั้น แต่หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องและสังเกตเห็นหลิงฮัน ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันทีด้วยแววตาที่เปล่งประกาย และจ้องมองไปที่หลิงฮันพร้อมกับพูดว่า “หลิงฮัน ข้าอยากสู้กับเจ้า!”
“ตกลง!” หลิงฮันพยักหน้า “แต่ถ้าเจ้าต้องการสู้กับข้า ก่อนอื่นเจ้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ข้าก่อนด้วยผลึกก่อเกิดสิบก้อน และหากเจ้าเป็นฝ่ายแพ้ เจ้าจะต้องจ่ายให้ข้าอีกหนึ่งร้อยก้อน!”
หลายคนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีกับความโลภมากของหลิงฮัน
หลี่เหว่ยเหว่ยเองก็เอามือกุมหัวและพูดพึมพัมว่า “เขาทำตัวน่าอายยิ่งนัก และกำลังทำให้ข้าได้รับความอับอายไปด้วย!”
จื่อหยุนเอ๋อยิ้มและหันสายตาไปมองหลิงฮันด้วยความอยากรู้อยากเห็น ชายคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่?
เมื่อหม่าชิงได้ยินที่หลิงฮันพูด สีหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวทันที ในเมื่อเขามาจากถิ่นทุรกันดาร เขาจะมีผลึกก่อเกิดมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร? เขาพูดกับหลิงฮันว่า “ตกลง เมื่อข้ามีผลึกก่อเกิดพอ ข้าจะมาท้าเจ้าสู้อีกครั้ง!”
หม่าชิงเป็นคนที่ซื่อตรงกว่าหลัวป้ามาก ดังนั้นหลายคนจึงพยักหน้าให้กับความตรงไปตรงมาของเขา
หม่าชิงเลิกจ้องมองหลิงฮัน แต่ในขณะที่เขาหันไปมองทางอื่น สายตาของเขาก็ไปสะดุดอยู่ที่จื่อหยุนเอ๋อ และจ้องมองนางด้วยสายตาเบิกกว้างก่อนที่จะเดินเข้าไปหานางและพูดว่า “ข้าชอบเจ้า เจ้าจะไปกินข้าวกับข้าได้หรือไม่!?”
พรวด!
หลายคนแทบสำลักน้ำลายออกมา หม่าชิงเป็นคนที่ตรงไปตรงมาก็จริง แต่นี่ไม่ตรงไปตรงมาไปหน่อยหรือ
มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะชอบจื่อหยุนเอ๋อ คนที่ชื่นชอบนางถ้านับรวมกันสามารถล้อมรอบเมืองจักรพรรดิได้ถึงสามรอบ แต่หม่าชิงนั้นเป็นคนแรกที่พูดตรงไปตรงมาว่าชอบนางและชวนไปกินข้าว นี่เขาคิดว่าจะทำให้เทพธิดาจื่อตกหลุมรักด้วยการพาไปกินข้าวเนี่ยนะ?
จื่อหยุนเอ๋อยิ้มตอบและพูดว่า “ข้ามีบางอย่างที่ต้องทำหลังเลิกเรียน หากมีโอกาส ข้าเองก็อยากไปกินข้าวกับพี่ชายหม่าเหมือนกัน”
“พี่หยุน ท่านสนใจเขาอยากนั้นรึ?” หลี่เหว่ยเหว่ยราวกับกลัวโลกไม่วุ่นวายและจงใจถามนาง
จื่อหยุนเอ๋อเขกหัวหลี่เหว่ยเหว่ยและพูดว่า “มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง!”
“นั่นสินะ!” หลี่เหว่ยเหว่ยพยักหน้าและดึงแขนของหยุนเอ๋อเข้ามากอด
เมื่อหม่าชิงรู้ตัวว่าถูกปฏิเสธช่วยไม่ได้ที่เขาจะเกาหัว หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงและฟุบหลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงกรนที่ดังราวกับฟ้าร้อง
เขานอนหลับไปแล้ว
หลี่เหว่ยเหว่ยหันไปพูดกระซิบอยู่ข้างหูจื่อหยุนเอ๋อต่อว่า “พี่หยุน ท่านไม่เหมาะกับเจ้าหมอนี่เลยแม้แต่น้อย แม้แต่ตอนนอนเขายังนอนกรนเหมือนหมู ถ้าท่านแต่งงานกับเขา ท่านจะต้องทุกข์ทรมานทุกวัน!”
จื่อหยุนเอ๋อหันสายตาไปมองหลี่เหว่ยเหว่ย จินตนาการของนางช่างก้าวไกลนักและสามารถทำให้ผู้คนหัวเราะจนน้ำตาไหลได้
เมื่อใกล้ถึงเวลาเรียน ผู้คนจำนวนมากก็เริ่มทยอยกันมามากยิ่งขึ้น เมื่อหลินยู่ปรากฏตัวออกมา ความสนใจของทุกคนก็ตกไปอยู่ที่นางทันที แม้แต่หลี่เหว่ยเหว่ยที่เป็นบุตรสาวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายก็ไม่สามารถเทียบกับนางได้
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงพูดคุยภายในห้องก็เริ่มเงียบลง เมื่อทุกคนเห็นสตรีผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้องเรียน
นางเป็นหญิงสาวที่มีหน้าอกใหญ่และเอวผอมบาง ซึ่งทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายได้อย่างชัดเจน และดูงดงามทุกซอกทุกมุม
เมื่อสายตาของทุกคนขยับหันไปมองใบหน้าของนาง ทำให้พวกเขาแทบจะกระอักโลหิตออกมา บนโลกใบนี้มีหญิงสาวที่งดงามขนาดนี้อยู่ได้อย่างไร?
แม้หลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อจะงดงาม แต่เมื่อเทียบกับสตรีผู้นี้แล้ว พวกนางทั้งสองคนถือว่าด้อยกว่ามาก มันไม่ใช่เพราะพวกนางไม่งดงาม แต่เป็นเพราะความงามของสตรีที่พวกเขาเห็นนั้นสามารถทำให้พวกเขามึนเมากับความงดงามของนางได้ตั้งแต่แรกพบ
ด้วยจำนวนประชากรที่มากมายมหาศาลของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าจะต้องมีหญิงสาวที่งดงามอยู่จำนวนมาก ในโลกใบเล็กหญิงสาวที่สามารถทำให้ทุกคนบ้าคลั่งได้อาจมีให้เห็นทุกพันปี แต่ที่นี่คือเมืองจักรพรรดิทำให้พวกเขาสามารถเห็นหญิงสาวแบบนั้นได้หลายคน
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะถึงเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในโลกน่ะหรือ? นั่นเป็นเพราะแม้แต่จักรพรรดิจากจักรวรรดิราชวงศ์ทั้งสองแห่งยังยินดีที่จะผนวกเข้ากับจักรวรรดิของนาง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งของนาง
จอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุดนั้นด้วยความแข็งแกร่งดังกล่าวและการดำรงอยู่ของนาง ทำให้มีชายหลายคนอยากจะพิชิตนาง
แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเคยได้ยินเรื่องของจักรพรรดินีไม่มากก็น้อย ซึ่งแม้แต่ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและขวา หรือแม้กระทั่งเจ็ดแม่ทัพ พวกเขาก็ยังไม่กล้ามองหน้าจักรพรรดินีโดยตรง เพราะพวกเขาเกรงว่าตัวเองจะเผลอคิดอะไรที่หยาบคายกับจักรพรรดินีของพวกเขา และนั่นจะเป็นการรนหาที่ตาย…
ถึงแม้หลิงฮันจะไม่เคยเห็นจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะมาก่อน แต่เขาก็ยอมรับความงามของสตรีที่เพิ่งเดินเข้ามาว่างดงามมาก ซึ่งอาจเหนือกว่าจูเสวี่ยนเอ๋อและสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ซะอีก