สุ่ยเยี่ยนยวี่เป็นฝ่ายเดินออกจากถ้ำที่เกิดจากการโจมตีของนาง
“หืม พี่สาวสุ่ย ท่านอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ด้านนอกมีสตรีอยู่สิบกว่าคน พวกนางนั้นงดงามเป็นอย่างมาก ผู้ที่เดินนำเหล่าสตรีเข้ามาคือหลี่เหว่ยเหว่ย
ถึงแม้พลังบ่มเพาะของนางจะไม่ได้สูงที่สุดในกลุ่มสตรที่เข้ามาจะเรียกว่าต่ำที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่สถานะบุตรสาวของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายนั้นสูงส่งเกินไป นางจึงกลายเป็นจุดสูงกลางหมู่ดาวไปโดยปริยาย
สุ่ยเยี่ยนยวี่พยายามระงับจิตสังหารและฝืนยิ้มออกมา “ข้าเองก็เป็นศิษย์ของสำนักฝ่ายเหนือเหมือนกัน ข้าจะอยู่ที่นี่ในวันนี้ก็ไม่เห็นแปลก”
หลี่เหว่ยเหว่ยพยักหน้าและมองไปรอบๆ “พี่สาวสุ่ย ท่านพบเห็น… ท่านเจอเหตุการณ์แปลกๆที่ไม่คาดฝันรึไม่?”
สุ่ยเยี่ยนยวี่สั่นสะท้านและกล่าว “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
“ก็ไม่ได้หมายถึงอะไรหรอก ฮ่ะๆๆ” หลี่เหว่ยเหว่ยรีบหัวเราะกลบเกลื่อน
“งั้นรึ?” แววตาของสุ่ยเยี่ยนยวี่หรี่ลงและเผลอปลดปล่อยแรงกดดันออกมา
หลี่เหว่ยเหว่ยรู้สึกผิดหวังและก้มหน้าหมุนนิ้วตัวเอง แม้แผนของนางจะล้มเหลว แต่ก็โชคดีแล้วที่มันไม่เป็นเรื่องใหญ่ ดูเหมือนเจ้าโง่นั่นจะนอนเพลินเลยยังไม่ได้มาที่นี่
จื่อหยุนเอ๋อกล่าวอย่างแปลกใจ “หลี่เหว่ยเหว่ย หรือที่เจ้านำแผ่นป้ายไปจากข้าเมื่อวานจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?”
ด้วยสติปัญญาของสุ่ยเยี่ยนยวี่ มีด้วยหรือที่นางจะไม่เข้าใจสถานการณ์ นางกล่าวด้วยน้ำเสียงตำหนิ “เหว่ยเหว่ย พูดมาซะ!”
เมื่อถูกอีกฝ่ายตำหนิ หลี่เหว่ยเหว่ยก็สารภาพความจริงออกไป “ข้าแค่อยากแกล้งเจ้าโง่เท่านั้น ข้าก็เลยแอบขโมยแผ่นป้ายไปให้หมอนั่นและบอกให้เขามาที่นี่ในวันนี้”
“ที่ข้าเรียกผู้หญิงคนอื่นมาด้วยกันหลายคนก็เพราะอยากจะแกล้งเขานั่นแหละ แต่ข้าไม่นึกเลยว่าหมอนั่นจะไม่มาเสียได้ น่าเจ็บใจจริงๆ!”
น่าเจ็บใจ?
สุ่ยเยี่ยนยวี่อยากจะร้องให้ นางต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องพูดคำนั้น
นางรู้สึกผิดต่อหลิงฮันมาก เขาถูกหลี่เหว่ยเหว่ยหลอกและไม่รู้เรื่องอะไรเลยแท้ๆ
แล้วนางต้องทำอย่างไรกับเรื่องนี้?
สังหารหลิงฮันกับหลี่เหว่ยเหว่ยงั้นรึ?
หนึ่งคนเป็นฝ่ายถูกหลอก ส่วนอีกคนแค่นึกสนุกอยากแกล้งเล่น
“หืม ทำไมถึงมีชุดของผู้ชายอยู่ทีนี่ด้วย?” ในที่สุดก็มีสตรีคนหนึ่งพบชุดที่หลิงฮันถอดวางเอาไว้
“แถมยังมีถ้ำปรากฏขึ้นมาด้วย เท่าที่ข้าจำได้ ครั้งล่าสุดที่มาที่นี่มันไม่มีถ้ำไม่ใช่รึไง?” สตรีอีกคนกล่าวด้วยความแปลกใจ
สตรีทุกคนจ้องมายังสุ่ยเยี่ยนยวี่
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่คิดจะบอกเรื่องของนางกับหลิงฮันออกไป ไม่งั้นนางจะยังมีหน้าไปพบกับคนอื่นได้อย่างไร
หลี่เหว่ยเหว่ยรู้สึกและตัดสินใจรอหลิงฮัน ถ้าหากหลิงฮันยังมีชีวิตอยู่นั่นก็หมายถึงก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มาที่นี่ หรือไม่ก็… เขาอาจจะถูกพี่สาวสุ่ยสังหารไปแล้ว
สีหน้าของนางบูดบึ้งทันที นางแค่อยากจะแกล้งหลิงฮันเล่นเท่านั้น แต่ถ้าหากหลิงฮันถูกสุ่ยเยี่ยนยวี่สังหารไปแล้วจริงๆล่ะก็ นางจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
แม้สตรีคนอื่นจะยังสงสัยเรื่องชุดของผู้ชาย แต่พวกนางก็ยังถอดชุดคลุมของตนเองเหลือไว้เพียงชุดรัดรูปและลงไปแช่บ่อน้ำ
สุ่ยเยี่ยนยวี่จากไปอย่างรวดเร็ว นางที่มาก่อนจะขึ้นจากบ่อน้ำก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ดังนั้นทุกคนจึงไม่สงสัยอะไร แต่สิ่งที่ทำให้พวกนางคิดไม่ตกก็คือชุดของผู้ชายและถ้ำที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน หรือเมื่อวานที่เป็นรอบของผู้ชายจะมีอะไรเกิดขึ้น?
……
หลิงฮันซ่อนตัวอยู่ในหอคอยทมิฬ ถึงแม้ดูเหมือนสุ่ยเยี่ยนยวี่จะเข้าใจแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิด แต่ปัญหาก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางแก้ไขได้
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไว้ข้าจะไปคุยกับนางทีหลัง”
หลิงฮันเลิกคิดเรื่องที่เกิดขึ้น เขาใช้อำนาจของหอคอยทมิฬขับไล่พลังดาบปีกสวรรค์ที่หลงเหลืออยู่ในร่างออกไป เมื่อกายาเพชรฟื้นฟูตนเองเสร็จสมบูรณ์เขาก็เริ่มฝึกฝนทักษะหากธาตุผสานเป็นหนึ่ง
ทุกๆวินาทีเขาจะมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็วและวันนี้จะเป็นวันที่ผู้ชายจะเข้ามาในบ่อน้ำพุหยกดำเพื่อบ่มเพาะพลัง หลิงฮันไม่ปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดมือไปและออกมาจากหอคอยทมิฬ ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าของเขาจะหายไปจากบ่อน้ำพุแล้วแต่เขาก็ยังมีเสื้อผ้าอีกมากมายเก็บไว้ในหอคอยทมิฬ
เขาลงไปในบ่อน้ำพุหยกดำและเริ่มดูดซับแก่นพลังจากน้ำในบ่อ
มันให้ความรู้สึกที่วิเศษอย่างมาก กายหยาบของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จิตวิญญาณเองก็มั่นคงขึ้นเช่นกัน เขาไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามใดๆราวกับว่าสวรรค์และปฐพีกำลังพยายามช่วยเหลือเขาบ่มเพาะพลัง
บ่อน้ำพุนี่เป็นสมบัติล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย!
ผ่านไปสักพักศิษย์นอื่นๆก็เข้ามา มีทั้งหม่าชิง เฉิงฮ่าวเฟยและคนอื่นๆที่เขาไม่รู้จัก พวกเขาอาจจะเป็นศิษย์ที่โดดเด่นในปีก่อนๆ
หลังจากหลิงฮันแช่นานกว่าสี่ชั่วโมงเขาก็ลุกออกจากบ่อและสวมชุดเดินจากไป
“เจ้าโง่ เจ้ายังไม่ตาย!” เมื่อเขามาถึงที่พัก เขาก็เห็นหลี่เหว่ยเหว่ยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
แต่หลิงฮันแทบจะอดใจพุ่งเข้าไปตีก้นนางไม่ไหว แต่เมื่อนึกถึงสุ่ยเยี่ยนยวี่ที่พยายามทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาก็ยับยั้งตัวเองไว้และแสร้งกล่าวออกไป “เจ้าแช่งให้ข้าตายรึไง ปากเจ้านี่ไม่เคยพูดสิ่งดีๆออกมาเลยจริงๆ”
“ฮึ่ม ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงว่าเจ้าจะเป็นอะไรไป แต่เจ้ากลับพูดกับข้าด้วยท่าทีเช่นนั้นรึ?” หลี่เหว่ยเหว่ยนำมือทั้งสองท้าวเอว
“เป็นห่วงเรื่องอะไร?” หลิงฮันถาม
หลี่เหว่ยเหว่ยคิดในใจว่านางจะกล่าวออกไปได้อย่างไรว่านางวางแผนแกล้งหลี่ฮัน? นางเค้นเสียงและกล่าว “ไม่มีอะไร แค่คนโง่เช่นเจ้าอาจจะทำอะไรโดยไม่คิดแล้วตายก็ได้!”
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะเดินจากไป แค่เห็นว่าหลิงฮันไม่เป็นอะไรนางก็โล่งอกแล้ว
หลิงฮันจ้องมองนางที่เดินจากไป เขาก็คิดในใจว่าจะต้องหาทางสั่งสอนคุณหนูเอาแต่ใจคนนี้ให้ได้ แม้ครั้งนี้เขาจะไม่ตาย แต่ถ้าเป็นครั้งหน้าและครั้งต่อๆไปล่ะ?