“หลิงฮัน ออกมาซะ!”
ขณะที่หลิงฮันกำลังบ่มเพาะพลังอยู่เขาก็ได้ยินเสียงเรียกอันเย็นชา เมื่อเขาออกมายังลานที่พักและเปิดประตูก็พบกับรุ่นเยาว์สองคนยืนอยู่ด้านนอก ทั้งสองมีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติ เพียงแต่เขาไม่รู้จักทั้งสองคนเลยแม้แต่น้อย
ทั้งสองอาจจะไม่ใช่ศิษย์ที่เข้าร่วมกับสำนักฝ่ายเหนือในปีนี้ แต่อาจจะเป็นปีก่อนๆ
“มีเรื่องอันใด?” หลิงฮันเอ่ยถาม ถึงแม้เขาจะรู้เหตุผลอยู่แล้วก็ตาม
“นั่นมันศิษย์พี่หวังหว่าน”
“ส่วนอีกคนคือศิษย์พี่จางฉิง!”
“ทั้งสองเป็นคนของศิษย์พี่จ้าว”
“เหอะๆ พวกเขาไม่มีคุณสมบัติเช่นนั้น! พวกเขาเป็นคนของสามผู้ติดตามของศิษย์พี่จ้าวต่างหาก”
“แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกเขาจะปรากฏตัวในฐานะตัวแทนของศิษย์พี่จ้าว”
“ก็คงเป็นเช่นนั้น ถึงขนาดกล้าแย่งผู้หญิงของศิษย์พี่จ้าวมา หากศิษย์พี่จ้าวไม่เคลื่อนไหวเลยก็คงจะไม่ถูกต้อง”
ประตูที่พักหลายๆหลังค่อยๆถูกเปิดออก ศิษย์มากมายเดินออกมาด้วยใบหน้าแสยะยิ้มราวกับรู้สึกสะใจ
ไม่แปลกที่พวกเขาจะทำเช่นนั้น หลิงฮันเป็นเพียงศิษย์หน้าใหม่แท้ๆ แต่เขากลับคว้าศิษย์พี่สุ่ยไปครอบครองได้! ใครบ้างจะไม่อิจฉา?
หลิงฮันรู้อยู่แล้วว่าจ้าวหลุนจะต้องเคลื่อนไหวแน่นอน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยถึงได้ส่งจอมยุทธระดับทลายมิติสองคนมา
หวังหว่านแสยะยิ้ม จอมยุทธจากโลกใบเล็กผู้นี้คิดว่าตนเองเปิดสวรรค์ได้แล้วคิดจะทำอะไรบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ตามอำเภอใจงั้นรึ? วันนี้เขาจะเป็นคนมอบบทเรียนให้เอง!
“พวกเรามามอบของขวัญให้เจ้าตามคำสั่งของศิษย์พี่จ้าว” เขากล่าว
ศิษย์โดยรอบรู้สึกแปลกใจ จ้าวหลุนเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า? มีคนมาแย่งสตรีของตนเองไปแต่เขากลับส่งคนมามอบของขวัญให้แทน?
หลิงฮันกล่าวตอบอย่างสงบ “โอ้ ของขวัญอันใด?”
หวังหว่านและจางฉิงหันหน้าจ้องกันก่อนที่หวังหว่านจะนำกล่องออกมาจากอุปกรณ์มิติ กล่องนั้นมีการตกแต่งที่งดงามมากและไม่มีขนาดใหญ่จนเกินไป เขาถือกล่องในมือและกล่าว “ยังไม่คุกเข่ารับของอีก?”
“คุกเข่างั้นรึ?” หลิงฮันหัวเราะ “พวกเจ้าบ้ารึเปล่า?”
“เจ้ากล้าปฏิเสธของขวัญจากศิษย์พี่จ้าวรึ?” จางฉิงกล่าวอย่างเหยียดหยาม
หลิงฮันส่ายหัวและตอบกลับ “ถ้าเช่นนั้นข้าก็คงรับของขวัญชิ้นนี้ไม่ได้ เชิญเจ้านำกลับไป!”
หวังหว่านเค้นเสียงกล่าว “ของขวัญจากศิษย์พี่จ้าวไม่สามารถนำกลับไปคืนได้! แค่เจ้ายอมคุกเข่าเจ้าก็สามารถหยิบไปได้ทันที!” เขาพยักหน้าส่งสัญญาณให้จางฉิง
จางฉิงพยักหน้าและเปิดกล่อง
ทุกคนรู้สึกสงสัย จ้าวหลุนมอบของขวัญเช่นใดให้หลิงฮันกัน?
กล่องผ้าไหมถูกเปิดออกภายใต้การจ้องมองของศิษย์หลายคน
ทันใดนั้นบรรยากาศก็กลายเป็นเงียบกริบ
ภายในกล่อง… คือปลอกคอสุนัข!
ช่างดูถูกกันอะไรเช่นนี้! น่าอัปยศยิ่งนัก!
ในสายตาของเขา หลิงฮันเป็นเพียงสุนัข
“หลิงฮัน ศิษย์พี่จ้าวกล่าวไว้ว่าถ้าเจ้ายอมรับของขวัญศิษย์พี่จ้าวจะไว้ชีวิตเจ้า” หวังหว่านยิ้มด้วยท่าทางดูถูก
‘พรึบ’ สายตาทุกคู่จ้องมาที่หลิงฮันทันที
หากรับของขวัญก็หมายถึงหลิงฮันยอมเป็นสุนัขของจ้าวหลุน แต่ถ้าไม่รับเขาก็ต้องตาย
หลิงฮันจะทำอย่างไร?
ไม่ว่าจะเลือกทางไหนชีวิตของหลิงฮันก็ถือว่าจบสิ้นแล้ว
แววตาของหลิงฮันปรากฏร่องรอยความเกรี้ยวกราด แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเขาก็ยังคงสงบนิ่ง เขามองไปยังปลอกคอสุนัขและเดินเข้าไป
นี่เขาคิดจะรับของขวัญจริงๆรึ?
แต่เมื่อเทียบกับชีวิตของตนเองแล้ว ศักดิ์ศรีจะสำคัญรึไง?
มุมปากของหวังหว่างและจางฉิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูแคลน
ใครบ้างจะไม่หวาดกลัวความตาย?
หลิงฮันเอื้อมมือไปคว้าปลอกคอและออกแรงบีบจนปลอกคอแหลกกระจาย เขาโยนมันทิ้งไปที่พื้นและกล่าว “กลับไปบอกจ้าวหลุนว่าความปราถนาดีจากเขา ข้าไม่ต้องการ”
ศิษย์ที่มุงดูกลายเป็นนิ่งเงียบอีกครั้ง
หลิงฮันไปเอาความกล้าขนาดนั้นมาจากไหน? จ้าวหลุนคือบุตรคนเดียวของแม่ทัพจ้าวและเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดแถมยังเป็นอัจฉริยะสามดาว เจ้ามีคุณสมบัติพอจะไปต่อต้านเขารึ?
“ช่างกล้า! บังอาจทำลายของขวัญของศิษย์พี่จ้าว เจ้ารู้ไหมว่าความผิดครั้งนี้มีใหญ่หลวงแค่ไหน?” หวังหว่างคำราม
หลิงฮันจ้องกลับไปด้วยสายตาเย็นชา “คิดจะทำให้ข้าอัปยศด้วยของเช่นนี้น่ะรึ? พวกเจ้าทั้งสองไสหัวไปเดี๋ยวนี้ อย่าทำให้ข้าต้องมีน้ำโห”
“คนที่ตายไปแล้วเช่นเจ้ายังกล้าทำตัวอวดดีอยู่อีก?” หวังหว่านกล่าวอย่างเย็นชา
‘หมับ!’
หลิงฮันคว้ามือไปคว้าคออีกฝ่ายเอาไว้ ด้วยพลังของเขาในตอนนี้จอมยุทธระดับทลายมิติที่มีพลังต่อสู้ตำกว่ายี่สิบดาวนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแม้แต่น้อย เขากำคอของอีกฝ่ายและกล่าว “ในเมื่อข้าเป็นคนที่ตายไปแล้ว ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะลากใครอีกสักคนสองคนไปตายกับข้าด้วย!”
หวังหว่านรู้สึกหวาดกลัว “ไม่ ไม่ อย่าสังหารข้า!” เขาตัวสั่น
“ช่างขี้ขลาด!” หลิงฮันโยนร่างของหวังหว่านทิ้ง
“ไสหัวไป!” เขาคำราม
หวังหว่านกับจางฉิงรีบเผ่นหนี แม้พลังของพวกเขาจะไม่อ่อนแอ แต่ในระดับพลังทลายมิติแล้วใครจะสามารถเป็นศัตรูกับหลิงฮันได้
“เจ้าลืมของ!” หลิงฮันยกเท้าเตะปลอกคอสุนัขที่แตกหักตรงพื้น
หวังหว่างคว้าปลอกคอเอาไว้ด้วยมือเปล่าและรีบเผ่นหนีไม่กล้าอยู่ต่อ
ศิษย์คนอื่นที่มองเหตุการณ์อยู่ต่างก็คิดว่าหลิงฮันช่างกล้าจริงๆ แต่แค่ความกล้าจะทำอะไรได้?
แม้ในสำนักจะมีกฎว่าห้ามศิษย์ที่ระดับพลังสูงกว่าลงมือรังแกศิษย์ที่ระดับพลังต่ำกว่า
แต่หลิงฮันจะอาศัยอยู่ในสำนักตลอดชีวิตเลยงั้นรึ?
ศิษย์ทุกคนส่ายหัว ดูเหมือนเวลาของหลิงฮันจะเหลือไม่มากแล้ว
……
ณ ตระกูลหลัว
หลัวหงเรียกหลัวป้ามาและเอ่ยถาม “เจ้าดูดซับศิลาหยาดโลหิตแล้วหรือยัง?”
“ขอรับท่านผู้นำ!” หลัวป้ากล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ตอนนี้พลังต่อสู้ของเขาได้เพิ่มมาเป็นยี่สิบเอ็ดดาวแล้ว ดังนั้นเขาจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“ศัตรูของเจ้าถูกจ้าวหลุนหมายตาเอาไว้ ชีวิตของเขาคงจะจบสิ้นในไม่ช้านี้!” หลัวหงกล่าว “เจ้าจะต้องรีบไปท้าประลองกับศัตรูคนนั้นให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นหากเขาตกตายด้วยเงื้อมมือของจ้าวหลุน ความอัปยศของเจ้าจะไม่มีโอกาสได้ชำระล้าง ยิ่งกว่านั้นหากเราสังหารศัตรูของจ้าวหลุนได้ เราอาจจะได้ความดีความชอบจากแม่ทัพจ้าวก็เป็นได้”
“ขอรับท่านผู้นำ!” หลัวป้าแสยะยิ้ม เขาอดใจรอที่จะสังหารหลิงฮันไม่ไหวแล้ว