สุ่ยเยี่ยนยวี่ไล่ฟันหลิงฮันอยู่สักพักก่อนที่จะยอมรับว่าที่เขาพูดไปก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน
ถึงแม้ตระกูลสุ่ยจะไม่รังเกียจที่จะส่งนางให้กับตระกูลจ้าว แต่ตระกูลจ้าวจะรับลูกสะใภ้ที่ท้องกับคนอื่นงั้นรึ?
ในเมื่อนางตัดสินใจเล่นเป็นคนรักกับหลิงฮันแล้ว นางจึงตั้งสติและยอมรับได้อย่างรวดเร็ว
แม้จะยังโกรธอยู่แต่นางก็ยอมเมินเฉยต่อเรื่องนี้และเดินจากไป
หลิงฮันหัวเราะ เมื่อพูดถึงลูกขึ้นมาเขาก็อดรู้สึกคิดถึงลูกชายของเขาไม่ได้ เมื่อพบหน้ากับอีกครั้งลูกของเขาจะยังจำเขาได้รึเปล่า?
ถึงแม้เขาจะมั่นใจว่าภายในไม่เกินหนึ่งพันปีเขาจะก้าวข้ามระดับภูผาวารีไปได้ แต่หากจะก้าวข้ามระดับดาราเขาจะต้องใข้เวลาเท่าใด? แม้เขาจะเป็นอัจฉริยะบ่มเพาะพลังได้รวดเร็วกว่าจอมยุทธทั่วไปหลายสิบเท่า แต่การจะบรรลุให้ถึงระดับพลังที่ว่าเขาอาจจะต้องใช้เวลาหลายพันปีหรืออาจจะหมื่นปี
เมื่อถึงตอนนั้นบุตรของเขาอาจจะแก่ชราแล้วก็เป็นได้
แต่ถึงกังวลไปก็ไม่มีความหมาย เส้นทางแห่งการฝึกตนจำเป็นต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่างน้อยในตอนนี้เขาก็ไม่สามารถออกไปจากจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะได้ หากจะทำเช่นนั้นเขาต้องมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าตอนนี้ก่อน
ยิ่งกว่านั้นดินศักดิ์สิทธิ์ก็ช่างกว้างใหญ่ไพศาล ตำหนักมัจฉาวายุภักษ์อาจจะไม่ได้ตั้งอยู่บนดาวดวงนี้ หากพูดถึงการเดินทางในจักรวาล มันจำเป็นต้องใช้เวลาหลายปี หลายสิบปี หรืออาจจะหลายร้อยปี
ที่น่าปวดหัวก็คือร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถเคลื่อนที่ในจักรวาลได้โดยตรง แม้จะสามารถควบคุมอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ก็ไร้ประโยชน์ การจะเดินทางในจักรวาลได้จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พาหนะศักดิ์สิทธิ์ แถมต้องเป็นระดับที่สูงมากด้วย
หลิงฮันส่ายหัวและตั้งเป้าขัดเกลาพลังต่อสู้ให้สูงที่สุด หลังจากตะลวงผ่านระดับพระเจ้าแล้วถึงค่อยหันไปมุ่งเน้นด้านการหลอมเม็ดยา บางทีนั่นอาจจะเป็นวิธีที่ช่วยให้เขาบรรลุระดับดาราได้เร็วที่สุด
ตราบใดที่เขาบรรลุระดับดาราได้ เขาก็จะสามารถออกจากจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะได้
หืม?
หลิงฮันชะงักในใจและกลายเป็นตื่นตัว
จิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมาก แม้จะเป็นการลอบโจมตีของจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา
‘พรึบ’ ออร่าเย็นยะเยือกแวบขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งแทงเข้าที่ตำแหน่งหน้าอกด้านซ้ายของเขาเฉียดบริเวณหัวใจ
สิ่งที่โจมตีใส่เขาคือลูกศรสีดำที่ปลดปล่อยกลิ่นอายอันเย็นเฉียบ
ด้วยการโจมตีนี้หลิงฮันพอจะเข้าใจได้คร่าวๆ
พลังของลูกศรนี้สมควรเป็นของจอมยุทธระดับภูผาวารีระดับต่ำ แถมลูกศรที่ใช้โจมตีก็ถูกสร้างขึ้นจากแร่โลหะระดับศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง กายหยาบของเขาในตอนนี้ไม่รู้ว่าจะต้านทานไหวหรือไม่
หลิงฮันใช้มือกำลูกศรแน่น ก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงลงนอนกับพื้นพร้อมกับโลหิตที่ไหลนอง
‘ตุบ’ ร่างของชายชุดคลุมดำกระโดดลงมาจากสิ่งก่อสร้าง ฝีเท้าของเขาเบาบางจนแทบไม่มีเสียง ทั่วทั้งใบหน้าของเขาถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าสีดำที่ปรากฏให้เห็นเพียงดวงตาที่ส่องประกาย
“ก็แต่จอมยุทธระดับทลายมิติ ข้าระวังตัวเกินไปรึเปล่า?” ชายชุดดำกล่าวพึมพำ เขานำกระบี่สั้นออกมาและเดินไปยังร่างของหลิงฮันเพื่อตัดหัว
ในฐานะนักฆ่า ถ้าเขาไม่ทำเช่นนี้เขาจะมีหลักฐานว่าทำงานสำเร็จแล้วได้อย่างไร?
ชายชุดดำมายังร่างของหลิงฮันและดึงผมของเขาเพื่อยกศีรษะขึ้นมา แต่ชายชุดดำก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นว่าหน้าอกของหลิงฮันไม่ปรากฏรูที่ถูกลูกศรทะลวงทิ้งเอาไว้เลย!
ในฐานะนักฆ่าและประสบการณ์ในการต่อสู้ของเขา เขาตอบสนองอย่างว่องไวโดยการแทงกระบี่สั้นเข้าใส่คอของหลิงฮันทันที
เขาไม่รู้ว่าหลิงฮันรอดชีวิตจากลูกศรได้อย่างไร แต่เขารู้ตัวว่าหลิงฮันได้หลอกล่อให้เขามาติดกับดัก แต่ด้วยการที่เขาเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีและอีกฝ่ายเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติ แผนการของหลิงฮันจะทำอะไรเขาได้?
หลิงฮันเผยรอยยิ้มออกมาและใช้จิตวิญญาณโจมตีใส่ชายชุดดำ
ทักษะจิตเจ็ดสังหาร!
‘พรึบ’ เมื่อถูกอำนาจของทักษะโจมตี ชายชุดดำก็แสดงท่าทีมึนงงก่อนที่จะกลายเป็นไร้สติ
หลิงฮันใช้โอกาสนี้คว้าร่างของอีกฝ่ายเข้าไปในหอคอยทมิฬ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในพริบตา
‘พรึบ’ ในหอคอยทมิฬ หลิงฮันคือพระเจ้าที่แท้จริง! กระบี่สั้นที่แทงเข้ามาถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเศษผงทันที
หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะควบแน่นผงโลหะระดับพระเจ้าเก็บเอาไว้
จะปล่อยให้มันเสียเปล่าไม่ได้ เขาสามารถใช้ผงโลหะเหล่านี้สร้างใหม่เป็นลูกศรได้ เพราะอย่างไรตอนนี้ทักษะสังหารที่ทรงพลังที่สุดของเขาก็คือศรฆ่ามังกรทะลวงดารา แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในการใช้ทักษะนี้ก็คือคุณภาพของลูกศร
ด้วยพลังบ่มเพาะของหลิงฮันในตอนนี้ทักษะจิตเจ็ดสังหารสามารถส่งผลกับจอมยุทธระดับภูผาวารีได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น ชายชุดดำได้สติกลับคืนมาก่อนที่จะแสยะยิ้ม “ข้าดูถูกเจ้าไปหน่อย นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะมีพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เจ้ารับการโจมตีของข้าได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ… หืม? ที่นี่คือที่ไหนกัน?
ชายชุดดำแสดงท่าทีตกตะลึงออกมา ที่แห่งนี้ไม่ใช่ตรอกซอยก่อนหน้านี้แน่นอน พื้นที่โดยรอบถูกเปลี่ยนกลายเป็นทุ่งหญ้าที่กว้างขวาง
นี่คือภาพลวงตา?
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย ด้วยกายหยาบของเขาในตอนนี้เขาก็พอจะรับการโจมตีของจอมยุทธระดับภูผาวารีได้อยู่ ในตอนที่เขาล้มลงกับพื้นนั้นเขาในคว้าลูกศรเข้ามาในหอคอยทมิฬและให้โลหิตของสัตว์อสูรแทนเลือดของตัวเองเพื่อหลอกให้อีกฝ่ายคิดว่าลอบสังหารสำเร็จ
ด้วยระดับพลังในตอนนี้เขาจะเข้าใกล้อีกฝ่ายได้อย่างไร หากอีกฝ่ายไม่เป็นคนเดินเข้าหาเขาเอง? ด้วยพลังของเขาในตอนนี้หากไม่อยู่ในระยะประชิดเขาก็ไม่สามารถใช้ทักษะจิตเจ็ดสังหารโจมตีอีกฝ่ายได้
หลิงฮันได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาแล้วไม่ผิดแน่ การที่เขาต่อต้านจอมยุทธระดับภูผาวารีเอาไว้ได้โดยที่ตนเองมีพลังเพียงระดับทลายมิตินั้น ต่อให้เขาสาบาญก็คงไม่มีใครเชื่อ
เรื่องน่าอัศจรรย์เช่นนี้ก็เหมือนกับการที่จอมยุทธระดับหลอมกายาสังหารจอมยุทธณะดับทลายมิติลงได้
“เจ้าไม่ได้ระวังตัวมากเกินไป แต่เจ้าดูถูกข้าเกินไป!” หลิงฮันยักไหล่ “บอกมาว่าใครส่งเจ้ามาสังหารข้าและเจ้าคือใคร?”
“เหอๆ!” ชายชุดดำแสยะยิ้ม นี่มันเรื่องตลกอันใด? นี่เขากำลังถูกจอมยุทธระดับทลายมิติสอบสวนอยู่งั้นรึ? จิตสังหารของเขาปะทุออกมา “เลิกไร้สาระกันได้แล้ว มอบชีวิตของเจ้ามาให้ข้า!”