หลังจากการทดสอบหลิงฮันก็จงจงทำเป็นเรียกสุ่ยเยี่ยนยวี่มาพูดคุยอย่างใกล้ชิด
ความเข้าใจในวิถีวรยุทธของเขานั้นสูงเป็นอย่างมาก เพียงพูดไม่กี่คำก็กระตุ้นความสนใจของสุ่ยเยี่ยนยวี่ได้ บางทีอาจจะเป็นเพราะลึกๆในใจนางยอมรับในตัวหลิงฮันแล้ว จึงทำให้นางไม่ค่อยหวงตัวเมื่ออยู่กับเขา
หลิงฮันยิ้มในใจ ที่นี่ต้องมีคนของจ้าวหลุนอยู่แน่นอน ซึ่งคนที่ว่าจะนำสิ่งที่เห็นไปรายงานต่อจ้าวหลุน
……
ณ สำนักฝ่ายตะวันตก
ศิษย์ระดับภูผาวารีหลายคนยืนมองศิษย์น้องระดับทลายมิติมากมายที่มีใบหน้าปูดบวม
“ศัตรูบุกเข้ามาเพียงคนเดียวพวกเจ้าก็หยุดไม่ได้?”
“ไม่เพียงแค่หยุดไม่ได้ แต่พวกเจ้าหลายคนยังถูกทำให้บาดเจ็บด้วย?”
“พวกกลุ่มสวะ!”
ศิษย์พี่ที่อยู่ที่นี่คือจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นของสำนักฝ่ายตะวันตก หลังจากพวกเขารับรู้เรื่องที่หลิงฮันบุกมาอาละวาดเมื่อวาน พวกเขาก็มาดูสถานการณ์ในวันนี้
“หลิงฮันที่ว่ามีสามหัวหกแขนรึไง?”
ศิษย์พี่ทุกคมีท่าทีเหยียดหยาม พวกเขาต่างรู้สึกว่าศิษย์น้องของสำนักฝ่ายตกวันตกจะอ่อนแอเกินไปแล้วที่ถูกคนเพียงคนเดียวจัดการและทำให้สำนักฝ่ายตะวันตกเสียหน้า
“ศิษย์พี่หลิ่ว หลิงฮันผู้นั้นแข็งแกร่งเกินไป ตอนที่เขาประลองเป็นตายกับหลัวป้าเมื่อไม่กี่วันก่อนเข้าใช้เพียงหมัดเดียวเพื่อสังหารหลัวป้า!” มีศิษย์มากมายที่ไปดูการประลองระหว่างหลิงฮันกับหลัวป้า
ศิษย์พี่หลิ่วผู้นี้มีชื่อว่าหลิ่วเหิง เขาเป็นจอมยุทธภูผาวารีขั้นต้นระดับปลายและเป็นอัจฉริยะหนึ่งดาว ศิษย์ระดับภูผาวารีมากมายมีเขาเป็นผู้นำ
หลิ่วเหิงแสดงสีหน้าเหยียดหยามและกล่าว “หลัวป้า? คนที่ถูกเรียกว่าสามอัจฉริยะรุ่นใหม่ของเมืองจักรพรรดิน่ะรึ? เขามีพลังต่อสู้เพียงสิบแปดดาวไม่ใช่หรือไง”
“ขอตอบศิษย์พี่หลิว หลัวป้านั้นได้ดูดซับศิลาหยาดโลหิตทำให้พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบเอ็ดดาว ก่อนหน้านี้เขาแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับเย่เชิงหยุนได้อย่างสูสี” ศิษย์คนหนึ่งกล่าว
หลิ่วเหิงและเหล่าศิษย์พี่คนอื่นๆตกตะลึง พลังต่อสู้ยี่สิบดาวเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถบรรลุได้เมื่อตอนที่อยู่ระดับทลายมิติ
“เมื่อวานศิษย์พี่เจี่ยเองก็ลงมือเช่นกัน แต่สุดท้ายเขาก็ถูกหลิงฮันจัดการ” ศิษย์อีกคนเอ่ยกล่าว
ใบหน้าของหลิวเหิงกลายเป็นตื่นตัวมากขึ้นก่อนจะกล่าว “ถ้างั้นหลิงฮันผู้นั้นก็ต้องมีพลังต่อสู้ยี่สิบสามดาว?”
“ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!” ศิษย์ระดับภูผาวารีอีกคนกล่าว “เท่าที่ข้ารู้มาจักรพรรดิที่ขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผ่านการเปิดสวรรค์จะได้รับพรจากสวรรค์และปฐพี”
“พรจากสวรรค์และปฐพี?” หลิ่วเหิงถาม ถึงแม้เขาจะเป็นอัจฉริยะระดับภูผาวารี แต่เมื่อพูดถึงพรของสวรรค์และปฐพีเขาก็รู้สึกสนใจ
“มีคำกล่าวว่าจักรพรรดิผู้นั้นจะได้รับพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นสามดาว!”
หลิ่วเหิงเคร่งเครียดและกล่าว “การเปิดสวรรค์จำเป็นต้องมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวเป็นอย่างน้อย หากได้รับพรที่ว่าเขาก็จะมีพลังต่อสู้ยี่สิบสามดาว”
เช่นนั้นแล้วคงไม่มีจอมยุทธระดับมลายมิติคนใดที่จะต่อกรกับสัตว์ประหลาดเช่นนั้นได้
“ใช่แล้ว!” หลิ่วเหิงกำหมัดและกล่าว “การประลองของสามจักรวรรดิกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว นั่นก็หมายความว่าเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์ใกล้เปิดออกแล้วเช่นกัน”
“ศิษย์พี่หลิ่ว ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
“เหอๆ ถ้าหลิงฮันมีคุณสมบัติเข้าไปในเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์ เขาจะเป็นจะตายก็อยู่ในการควบคุมของเราแล้ว” หลิ่วเหิงแสยะยิ้ม
……
ณ ใต้น้ำตก
จ้าวหลุนตกตะลึงและกล่าว “แม้แต่ศิษย์ของทั้งสำนักฝ่ายตะวันตกก็ทำอะไรเขาไม่ได้?”
ผู้ติดตามของเขาจ้าวหยุนอีกคน ป่ายหยวนสือกล่าวด้วยความเคารพ “ขอตอบนายน้อย เจ้าหนูนั่นมีพลังต่อสู้อย่างน้อยยี่สิบสามดาว หากไม่ใช้พลังแห่งจักรภพช่วยก็ไม่มีจอมยุทธระดับทลายมิติคนใดที่จัดการเขาได้”
ใบหน้าของจ้าวหลุนเปลี่ยนเป็นมืดมน ในตอนที่มีพลังระดับทลายมิติเขามีพลังต่อสู้เพียงยี่สิบดาวเท่านั้น ตอนนี้เมื่อมีคนที่พลังต่อสู้เหนือกว่าเขาถึงสามดาวปรากฏตัว เขาจึงรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก
“ด้วยพลังต่อสู้เช่นนั้น เขาต้องเป็นอันดับหนึ่งของการประลองระหว่างสามจักรวรรดิราชวงศ์และองค์จักรพรรดินีจะต้องให้เขาเข้าไปยังเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์แน่นอน” ป่ายหยวนสือกล่าวอีกครั้ง
“เขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์!” แววตาของจ้าวหลุนส่องประกาย ที่เขากลายเป็นอัจฉริยะสี่ดาวได้ก็เพราะวาสนาจากเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์ที่ทำให้เขาได้รับพลังอันพิเศษ
“หากเขาเข้าไปยังเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์ได้ก็อย่าให้เขาออกมาอีกเป็นอันขาด” จ้าวหลุนกล่าวอย่างเย็นชา ข่าวเกี่ยวกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ในช่วงนี้ทำให้อารมณ์ของเขาบูดบึ้งเป็นอย่างมาก
“ขอรับ!” ป่ายหยวนสือคุกเข่าข้างเดียว
……
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลิงฮันเองก็หมกตัวอยู่แต่ในสำนักทำให้สมาคมราตรีนิรันดร์ไม่มีโอกาสลอบสังหารเขา ทางจ้าวหยุนเองก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเช่นกัน
การประลองของสามจักรวรรดิราชวงศ์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งในวันนี้หลิงฮันได้ถูกผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเรียกเข้าพบ พรุ่งนี้การประลองของสามจักรวรรดิระเริ่มขึ้นดังนั้นวันนี้เขาจึงต้องพักที่บ้านของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและเดินทางไปพระราชวังพร้อมกับอีกฝ่ายในวันพรุ่งนี้
การประลองของสามจักรวรรดิจะจัดขึ้นทุกๆสิบปี ซึ่งปีนี้ได้ถูกจัดขึ้นที่จักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนในการเดินทางไปยังจักรวรรดิอื่น
“หลิงฮัน ถ้าเจ้าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมก็มีความเป็นไปได้สูงที่เจ้าจะได้เข้าไปยังเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์” ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายกล่าว
หลิงฮันถามกลับ “ผู้อาวุโส เขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์คืออะไรรึ?”
“กล้าดีอย่างไร! ต่อหน้าผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเจ้ามีคุณสมบัติจะถามคำถามรึ?” เซียงเฉิงหยินตะโกนแทรกทันที
ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายยิ้มและสะบัดมือไม่ถือสา “เขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์จะเปิดออกทุกๆสิบปี ที่นั่นมีผลึกลึกลับที่สามารถช่วยให้จอมยุทธระดับทลายมิติควบแน่นพลังของภูผาวารีได้และทำให้ย่นระยะเวลาทะลวงผ่านระดับให้เร็วขึ้น”
“ด้วยการที่มันมีคุณสมบัติเช่นนี้ทำให้มันถูกเรียกว่าผลึกภูผาวารี มันเป็นพิเศษที่มีเฉพาะในเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์ ส่วนเหตุผลที่ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นย่อมไม่มีใครรู้”
“นอกจากนั้นผลึกภูผาวารีบางก้อนยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกด้วย อย่างเช่นผลึกที่มีพลังอำนาจของแรงโน้มถ่วง หากเจ้าขัดเกลาพลังภูผาวารีจากผลึกนั่น เมื่อเจ้าต่อสู้ศัตรูของเจ้าก็จะได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วง”
“ผลึกเพลิงจะทำให้ภูผาวารีของเจ้ามีคุณสมบัติเปลวเพลิงที่สามารถแผดเผาได้ทุกสิ่ง!”
“เพียงแต่ว่าเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์มีข้อจำกัดด้านพลังบ่มเพาะของผู้ที่จะเข้าไป ระดับพลังสูงสุดที่สามารถเข้าไปได้คือระดับภูผาวารีขั้นต้น เพราะงั้นในสำนักจึงมีศิษย์มากมายที่ระงับพลังของตนเองไว้ไม่ทะลวงผ่านเพื่อรอโอกาสเข้าไปยังเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์”
ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายกล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น “เมื่อข้ายังเยาว์วัย ข้าไม่มีผู้หนุนหลังจึงไม่มีโอกาสได้เข้าไป แต่ถ้าเป็นเจ้า… ถ้าเจ้าสามารถขัดเกลาผลึกภูผาวารีพิเศษได้บางทีเจ้าอาจจะกลายเป็นอัจฉริยะห้าดาวเลยก็ได้”
หลิงฮันประหลาดใจ แม้แต่ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายยังหวั่นไหวเช่นนี้ ดูท่าเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์จะคุ้มค่าต่อการเข้าไปจริงๆ