ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์ให้หลิงฮันฟัง
หลังจากนั้น พวกเขาก็เดินทางด้วยรถม้าของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและด้วยความเร็วที่น่าทึ่งมาก ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงพระราชวังแล้ว
เมื่อพวกเขามาถึง ถึงแม้จะเป็นผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายก็ไม่สามารถเข้าไปในพระราชวังได้หากไม่ได้รับอนุญาต หลังจากที่ทหารยามตรวจสอบตัวตนของพวกเขาทั้งสามคนเสร็จแล้ว พวกเขาก็ปล่อยให้ทั้งสามคนเข้าไปในพระราชวัง
“ในระหว่างนี้พวกเจ้าห้ามพูดอะไรเด็ดขาด!” ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเตือน
“ขอรับ!” ทั้งหลิงฮันและเซียงเฉิงหยินกล่าว
ที่นี่คือศูนย์กลางอำนาจของจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ และมีสีหลักของพระราชวังคือสีชมพู และยังเป็นที่อยู่อาศัยของหญิงสาวที่งดงามที่สุดบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่แม้แต่จักรพรรดิจากอีกสองจักวรรดิราชวงศ์ยังยินดีที่จะสละบัลลังก์เพื่อนาง
ถ้านางไม่ใช่สตรีจะทำแบบนั้นได้หรือไม่?
หลิงฮันคาดหวังเล็กน้อยว่าเขาจะได้พบจักรพรรดินี และในที่สุดเขาก็จะได้เห็นจักรพรรดินีที่เป็นดั่งตำนานว่านางมีเสน่ห์และงดงามแค่ไหน ถึงขนาดที่ทำให้จักรพรรดิทั้งสองจักรวรรดิยอมสละบัลลังก์เพื่อนาง
เซียงเฉิงหยินเองก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นจักรพรรดินีมาก่อน แค่คิดว่านางจะงดงามแค่ไหนก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นแล้วเพื่อแค่นึกคิด
อาจกล่าวได้ว่าใครก็ตามที่เคยเห็นจักรพรรดินีจะไม่มีหญิงสาวคนใดที่งดงามไปกว่านางอีกแล้วในสายตาของพวกเขา
หลังจากที่เดินเข้ามาในพระราชวังเรื่อยๆ ทหารยามที่เฝ้าอยู่ที่นี่จะมีแต่สตรี อาจเป็นได้ว่าหากเป็นทหารยามผู้ชาย จักรพรรดินีอาจไม่ปลอดภัยก็เป็นได้
สถานที่ประลองถูกจัดขึ้นในลานฝึกฝน มันไม่เพียงแค่มีขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีห้องประชุมขนาดใหญ่อีกด้วย
มีอัฒจรรย์ทั้งหมดสี่แห่งยื่นออกมาจากด้านบนเหมือนกับหน้าผา ซึ่งอัฒจรรย์ทางทิศใต้มีขนาดใหญ่ที่สุด มันคืออัฒจรรย์ของจักรพรรดินีและมีที่นั่งพิเศษสำหรับจักรพรรดินี และแน่นอนว่าราชินีทั้งเก้าคนก็สามารถขึ้นไปได้เช่นกัน
ส่วนอัฒจรรย์อีกสามแห่งนั้นดูเล็กกว่ามาก อัฒจรรย์ทางทิศตะวันออกเป็นของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ อัฒจรรย์ทางทิศตะวันตกเป็นของจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีคราม ส่วนอัฒจรรย์ทางทิศเหนือจะแบ่งเป็นสองส่วนคือด้านบนและด้านล่าง
แต่แน่นอนว่าหลิงฮันไม่มีคุณสมบัติที่จะนั่งบนอัฒจรรย์พวกนั้น ในขณะที่เซียงเฉิงหยินเป็นคนของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย เขาจึงมีสิทธิ์ยืนอยู่บนอัฒจรรย์ด้านบนของอัฒจรรย์ทางทิศเหนือ
หากเป็นแบบนั้นหลิงฮันก็จะไม่เห็นเหล่าผู้คนที่นั่งอยู่ด้านบนของอัฒจรรย์ได้ ซึ่งทำให้หลิงฮันรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่เขาจะไม่ได้เห็นหน้าจักรพรรดินี
– หลิงฮันไม่ได้คิดเรื่องไม่ดีกับจักรพรรดินีแต่เขาเคยได้ยินเรื่องความงดงามของนางมานาน จึงทำให้เขาอยากเห็นด้วยตาตัวเอง
ผู้เข้าร่วมการประลองทั้งหมดจากทั้งสามจักรวรรดิราชวงศ์จะยืนอยู่ในสถานที่ประลอง และมีลานประลองอยู่ตรงกลาง
ในเมื่อมันเป็นการประลองระหว่างจักรวรรดิราชวงศ์ แน่นอนว่าย่อมมีกฎ หากแพ้ก็คือแพ้เลย ไม่มีการยืดเยื้ออะไรทั้งสิ้น ตัวตนที่สูงส่งอย่างพวกเขาจะนั่งดูเล่นละครปาหี่ได้อย่างไร?
“ศิษย์น้องหลิง ข้ามีข่าวบางอย่างมาบอกเจ้า ดูเหมือนว่าเจ้าจะต้องลำบากซะแล้ว” ในขณะนั้นเย่เชิงหยุนเดินเข้ามาหาหลิงฮันและโบกมือให้อีกแปดคนแล้วพูดว่า “ทุกคนมาฟังพร้อมกัน”
“มีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ?” หม่าชิงถามด้วยความสงสัย “ในเมื่อมีศิษย์พี่หลิงอยู่ที่นี่ พวกเราจะต้องเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน”
“ใช่แล้ว!” คนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาทุกคนต่างยอมรับในความแข็งแกร่งของหลิงฮัน
เย่เชิงหยุนส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า “ข้าเพิ่งได้รับข่าวมาว่าตัวแทนจากจักรวรรดิราชวงศ์อีกสองแห่งเองก็มีคนที่มีพรสวรรค์น่าสะพรึงกลัวอยู่เหมือนกัน
“พวกเขาแข็งแกร่งกว่าศิษย์พี่หลิงอีกอย่างนั้นรึ?” หม่าชิงถาม
เย่เชิงหยุนส่ายหัวและพูดว่า “ตัวแทนจากจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ว่ากันว่าเขาเป็นลูกหลานของราชานกยูง ส่วนตัวแทนจากจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามเป็นที่รู้จักกันในชื่อราชาเต่ายักษ์ที่ว่ากันว่าอาจเป็นลูกหลานของสัตว์อสูรระดับพระเจ้า”
เมื่อได้ยินที่เย่เชิงหยุนกล่าวทุกคนดูหวั่นไหวเล็กน้อย สัตว์อสูรระดับพระเจ้ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะต่อกรด้วยได้
หลิงฮันรู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อยและพูดว่า “ข้าอยากเจอพวกเขาแล้วสิ” ในเมื่อเขาเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติที่แข็งแกร่งที่สุด หากมีคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้เป็นธรรมดาที่หลิงฮันจะรู้สึกแปลกใจ
เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของหลิงฮัน ทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย ถึงแม้หลิงฮันจะไม่มีพลังสายเลือด แต่เขาก็เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์น่าหวาดกลัวคนหนึ่ง
“จักรพรรดินีมาถึงแล้ว!”
องครักษ์หญิงตะโกนเสียงดังและดังก้องกังวานไปทั่วลานฝึกฝน
พรึบ ทุกคนลุกขึ้นยืนทันทีเพื่อต้อนรับการมาของจักรพรรดินี
หลิงฮันรีบหันไปมองบัลลังก์ที่อยู่ทางทิศใต้ทันที แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเขามองไม่เห็นอะไรเลย
เกิดความโกลาหลขึ้นบนบัลลังก์อื่น จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะไม่เพียงแค่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังงดงามเป็นอย่างมากด้วย แต่น่าเสียดายเนื่องจากมีบัลลังก์เพียงสามที่เท่านั้นที่สามารถมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของจักรพรรดินีได้
“ร…เริ่มการประลองได้!” ใครบางคนพูดติดอ่าง คนที่พูดคือราชินีลำดับที่เก้า
แน่นอนว่าราชินีลำดับที่เก้าและจักรพรรดินีเป็นพี่น้องกัน เสียงของนางจึงดังมาจากบัลลังก์ทางทิศใต้
“การประลองแรกตัวแทนจากจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์และตัวแทนจากจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีคราม”
ราชินีลำดับที่เก้าสงบสติอารมณ์ของตัวเอง นางไม่พูดติดอ่างอีกต่อไป
เมื่อราชินีลำดับที่เก้าพูดจบ คนผู้หนึ่งจากจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ก็กระโดดขึ้นไปบนลานประลอง ในขณะที่คู่ต่อสู้ของเขาคือตัวแทนจากจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามที่มีชื่อว่าโม่เซียง
หลิงฮันไม่ได้สนใจการต่อสู้ของพวกเขามากนักว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้ชนะ เพราะนี่เพิ่งจะเริ่มการต่อสู้เป็นคู่แรกเท่านั้น ยังมีเวลาอีกมากกว่าจะถึงตาของเขาและไม่สนใจว่าอีกสองจักรวรรดิจะเหลือรอดกันกี่คน
หลิงฮันหันหน้าไปทางอัฒจรรย์ทางทิศเหนือที่อยู่ด้านล่าง และในไม่ช้าเขาก็มองเห็นสุ่ยเยี่ยนยวี่ที่มาพร้อมกับศิษย์ในสำนัก หลังจากที่คนเหล่านั้นเห็นว่าถูกหลิงฮันจ้องมอง ศิษย์หญิงหลายคนที่อยู่รอบตัวสุ่ยเยี่ยนยวี่ต่างหยอกล้อนาง ซึ่งทำให้สีหน้าของนางกลายเป็นสีแดงเพราะความเขินอาย
หลิงฮันมองเห็นหลัวหลี่เช่นกัน อีกฝ่ายกำลังนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างชายวัยกลางคนและชายชรา เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าถูกหลิงฮันจ้องมอง ช่วยไม่ได้ที่แววตาของเขาจะเปลี่ยนไปและดูโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที
แต่ชายวัยกลางคนและชายชราที่อยู่ข้างหลัวหลี่นั้นจ้องมองหลิงฮันด้วยสายตาที่เย็นชาและไม่ผิดที่จะปกปิดจิตสังหารของตนเองแม้แต่น้อย
พวกตระกูลหลัวนี่เอง
หลิงฮันพูดอยู่ในใจและไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่พวกเขาจะเกลียดเขามากขนาดนี้