ที่โหยวเฮ่าแปลกใจก็คือทำไมการที่หลิงฮันข้ามทะเลสาบ ทุกคนถึงได้สนใจเขาขนาดนั้น
บ้ารึเปล่า?
โหยวเฮ่ารู้สึกอับอาย เขาต่างหากที่เป็นคนที่ข้ามทะเลสาบได้สำเร็จ ผู้คนควรจะสนใจเขามากกว่าไม่ใช่รึไง?
หรือหลิงฮันจะเป็นทายาทของตัวตนระดับสูง?
จิตใจของเขาห่อเหี่ยวเล็กน้อยเมื่อรู้ว่ามีคนแย่งชิงความโดดเด่นไป สีหน้าของเขามืดมนและตัดสินใจว่าเมื่อหลิงฮันกลับมาเขาจะสอนบทเรียนให้หลาบจำ
ต่อให้อีกฝ่ายเป็นทายาทของตัวตนระดับสูง ตราบใดที่เขาไม่สังหารอีกฝ่ายต่อหน้าสาธารณะชนก็ไม่มีปัญหา
พลังของหลิงฮันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ครั้งนี้ความเร็วในการก้าวเดินของเขาจึงว่องไวยิ่งขึ้น แต่การที่เขาก้าวได้ว่องไวยิ่งขึ้นก็ทำให้ผู้คนตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ต้องรู้ก่อนว่านี่คือครั้งที่สองที่หลิงฮันข้ามทะเลสาบ
ศักยะภาพของเขาไม่ด้อยไปกว่าจ้าวหลุน!
ยิ่งกว่านั้นเมื่อตอนที่จ้าวหลุนข้ามทะเลสาบครั้งที่สองเขายังบรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดแล้ว!
แต่พลังบ่มเพาะของหลิงฮันยังไม่บรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นปลายเลย นั่นหมายถึงเขายังมีช่องว่างให้พัฒนาเพิ่มอีก เขาอาจจะสามารถข้ามทะเลสายครั้งที่สาม… หรืออาจจะครั้งที่สี่!
หลิงฮันก้าวมาถึงสิบก้าวสุดท้าย ซึ่งในที่สุดเขาก็เริ่มรู้สึกกดดัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง
เก้าสิบแปด เก้าสิบเก้า หนึ่งร้อย!
เท้าของเขาสัมผัสกับเกาะอีกครั้ง
ทุกคนจับใบหน้าของตนเองด้วยความตกตะลึง
ทันทีที่หลิงฮันก้าวถึงเกาะเป็นครั้งที่สอง ทุกคนก็ยอมรับแล้วว่าหลิงฮันมีพรสวรรค์ยิ่งกว่าจ้าวหลุน
เมื่อใดที่ข่าวเรื่องนี้แพร่ออกไป เป็นไปได้ว่าทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิจะต้องสั่นสะท้าน
หลิงฮันเอื้อมไปคว้าผลึกภูผาวารีและนำทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตออกมา เขาต้องการจะคว้าผลึกอีกก้อนไปด้วย แต่เมื่อทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตสัมผัสกับผลึกภูผาวารีมันก็ถูกผลักออกไปสามารถรัดผลึกเอาไว้ได้
‘พรึบ’ หลิงฮันถูกพลักกระเด็นกลับฝั่งอีกครั้ง
เจ้าหมอนี่ข้ามทะเลสาบได้สำเร็จจริงๆ?
สีหน้าของโหยวเฮ่ามืดมนกว่าเดิม ในตอนแรกเขาเป็นคนเดียวที่ข้ามทะเลสาบได้สำเร็จ แต่ตอนนี้กลับมีอีกคนที่มากแย่งรัศมีความโดดเด่นของเขาแล้ว
เขารู้สึกหงุดหงิดและเดินไปหาหลิงฮันทันที เขาปรบมือพร้อมกับกล่าว “ยินดีด้วย! เจ้าก้าวไปถึงเกาะสำเร็จเป็นคนที่สองหลังจากข้า แม้เจ้าจะใช้เวลานานกว่าข้าแต่ก็พอจะแย่งแสงอันเฉิดฉายได้อยู่บ้าง”
ผู้คนที่อยู่ที่นี่มานานต่างหลัวเราะออกมา พวกเขาเห็นตั้งแต่แรกว่าหลิงฮันด้าวไปยังเกาะได้ถึงสองครั้ง แล้วการที่ไปยังเกาะเป็นครั้งที่สองได้นั้นหมายถึงอะไร? เขาคืออัจฉริยะที่ไม่ด้อยไปว่าอัจฉริยะในรอบพันปี จ้าวหลุน!
เจ้าเดินไปถึงเกาะได้แค่ครั้งเดียวแต่เจ้ากล้าพูดว่าหลิงฮันพอจะแย่งแสงอันเฉิดฉายของเจ้างั้นรึ
โหยวเฮ่าแสดงสีหน้าเขิยอายก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชา “พวกเจ้าหัวเราะอะไร? มีเรื่องอันใดน่าขำงั้นรึ?”
“โอ้ เจ้าหนุ่ม เจ้าคงยังไม่รู้สินะว่าก่อนหน้านี้หลิงฮันได้ก้าวไปถึงเกาะมาแล้วครั้งนึง” ชายชราคนหนึ่งกล่าว เป็นเพราะที่นี่ทุกคนล้วนแต่เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้น ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าตั้งตนเป็นผู้อาวุโส
พรวด!
โหยวเฮ่าสำลักออกมา ใบหน้าของเขาแสดงออกว่าไม่อยากจะเชื่อ
เขาจะเชื่อลงได้อย่างไร? คิดว่าเขาไม่รู้รึไงว่าหลังจากเดินถึงเกาะแล้วครั้งหนึ่ง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินไปยังเกาะได้อีกครั้ง ในรอบพันปีที่ผ่านมามีเพียงจ้าวหลุนเพียงคนเดียวที่ทำได้
นอกจากนี้หลิงฮันก็ยังไม่บรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นปลายเลยด้วยซ้ำ ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง นั่นไม่ได้หมายความว่าเมื่อหลิงฮันบรรลุขั้นต้นชั้นสูงสุด เขาอาจจะไปถึงเกาะครั้งที่สามได้สำเร็จหรอกรึไง?
“ไร้สาระ! พวกเจ้าจะต้องล้อข้าเล่นแน่!” เขาส่ายหัวไปมา
“ฮ่าๆๆ” ผู้คนเริ่มหัวเราะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่จริงหากพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง พวกเขาก็คงจะทำใจเชื่อไม่ลงจริงๆว่าหลิงฮันจะแข็งแกร่งเช่นนี้
หลังจากถูกผู้คนมากมายหัวเราะ โหยวเฮ่าก็เชื่อในที่สุดว่าเขาทำเรื่องน่าขายน่าลงไปแล้ว ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและจ้องมองไปยังเกาะกลางทะเลสาบ เขากัดฟันและกระโดดไปยังทิศทางนั้นเพื่อท้าทายการก้าวไปยังเกาะครั้งที่สอง
สิบก้าวแรกเขายังพอฝืนเดินได้ด้วยความยากลำบาก ร่างของเขาสั่นสะท้านทุกๆย่างก้าว
‘ตูม’ ร่างของโหยวเฮ่าตกลงไปในทะเลสาบ
เขาร้องโอดครวญและรีบกลับมายังชายฝั่งทันที
ล้มเหลว…
เนื่องจากตำแหน่งที่ตกลงไปไม่ไกลเท่าไหร่ เขาจึงกลับมายังชายฝั่งได้โดยไม่บาดเจ็บสาหัส แต่ที่สาหัวจริงๆก็คือการเสียหน้า!
เขาเทียบกับหลิงฮันไม่ได้!
หลิงฮันยิ้มให้กับอีกฝ่าย แค่การไปถึงเกาะครั้งแรกก็ยากลำบากมากแล้ว เขาตั้งสติอีกครั้งและครุ่นคิดถึงการไปยังเกาะครั้งที่สาม
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้… คงเป็นไปไม่ได้
เพียงแต่ว่าเขายังมีผลึกภูผาวารีอยู่อีกสองก้อน แถมมันยังเป็นผลึกที่มีความสามารถพิเศษของแรงโมถ่วงอีกด้วย มันจะสามารถต้านทานพลังแรงโน้มถ่วงของทะเลสาบได้หรือไม่?
ต้องลองดูดซับดูก่อน
หลิงฮันนำผลึกภูผาวารีแรงโน้มถ่วงออกมาและกำไว้ในมือ
ผู้คนมากมายแววตาเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่เพราะหลิงฮันมีกายหยาบที่แข็งแกร่งและมีหูเฟยหยินยืนอยู่ข้างๆ พวกเขาเลยไม่กล้าลงมือ
“นายน้อย ไปกันเถอะ” บ่าวรับใช้ชราสองคนกล่าว โหยวเฮ่าในตอนนี้มีผลึกภูผาวารีพิเศษอยู่ในครอบครอง ทั้งสองจึงเกรงว่าจะตกเป็นเป้าหมายของใครหลายคน
โหยวเฮ่ามองหลิงฮันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าและกล่าว “อืม!” ถ้าหากเขาดูดซับผลึกภูผาวารีแรงโน้มถ่วงที่นี่ โอกาสที่จะตกเป็นเป้าหมายของคนอื่นนั้นสูงมาก
หลิงฮันเริ่มดูดซับพลังของผลึกภาวารี ภายในตันเถียนของเขาวารีได้ถูกสร้างขึ้นทีละช้าๆ
หลิงฮันตกตะลึงเล็กน้อยเพราะเขาพบว่าบนภูผาวารีของเขามีพลังของแรงโมถ่วงปรากฏขึ้นมา ในตอนแรกมันเป็นเพียงรูปร่างเหมือนกับเม็ดตัว แต่เมื่อเขาดูดซับผลึกภูผาวารีไปเรื่อยๆพลังแรงโน้มถ่วงก็ค่อยๆกลายเป็นรูปแบบอักขระที่ลึกซึ่ง
นี่คือรูปแบบอักขระศักดิ์สิทธิ์