แม้หลิงฮันจะมีพรสวรรค์ที่ราวกับสัตว์ประหลาด แต่พลังบ่มเพาะของเขายังต่ำเกินไป
ด้วยอำนาจที่ทรงพลังของการโจมตีของจ้าวหลุน ร่างของหลิงฮันถูกส่งกระเด็นอย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกโจมตีหลายต่อหลายครั้ง หลิงฮันก็ยังมีชีวิตอยู่และบาดเจ็บเพียงแค่กระอักโลหิตออกมา
สิ่งนี้ทำให้ชาหยวนหวั่นไหวมากกว่าเดิม ถ้าเขาสามารถมีกายหยาบที่ไร้เทียมทานเช่นนั้นได้ การที่เขาจะไร้พ่ายต่อจอมยุทธที่มีพลังบ่มเพาะระดับเดียวกันยังจะเป็นเพียงความฝันอยู่งั้นรึ? หากเขามีพลังเช่นนั้นจ้าวหลุนยังจะเสพสุขกันฉายาอัจฉริยะอันดับหนึ่งได้อีกรึไม่?
เขาแอบวางแผนในใจว่าถ้าจ้าวหลุนสังหารหลิงฮันจริงๆ เขาจะรีบพุ่งพรวดไปยังร่างของหลิงฮันและขโมยความลับของหลิงฮันมา
“เจ้าจะยังไม่เคลื่อนไหวอีกรึ?” จางเต๋อหมานกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ตัวเขานั้นมีความประทับใจที่ดีต่อหลิงฮันมาตลอด
“เจ้าสำนักกล่าวไว้ว่า แม้จะต้องไว้หน้านายพลเจ้า แต่การกระทำของจ้าวหลุนก็ควรมีขีดจำกัด ยิ่งกว่านั้นด้วยการที่มีพวกเราคอยดูแลอยู่ เด็กหนุ่มผู้นั้นไม่มีทางตายแน่นอน” ผู้อาวุโสกล่าว
“ใช้โอกาสนี้ปล่อยให้จ้าวหลุนลงมือเกินกว่าเหตุจนนายพลจ้าวไม่มีอะไรจะแก้ตัวได้ ไม่เช่นนั้นหากจอมยุทธระดับดาราโกรธ เจ้าสำนักก็คงตกที่นั่งลำบาก”
“แต่ว่าเจ้าหนุ่มนั่นช่างเหลือเชื่อนัก พรสวรรค์ของเขาสามารถกล่าวได้เพียงว่าเป็นสัตว์ประหลาด!”
“ถูกแล้ว ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองข้าก็คงไม่เชื่อเด็ดขาดว่ามีจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางที่สามารถรับการโจมตีนับไม่ถ้วนจากจ้าวหลุนได้”
“จากที่ดูแล้ว พวกเราคงจะสามารถไปนอนแล้วค่อยกลับมาดูสถานการณ์ก็ไม่มีปัญหา”
ผู้อาวุโสทั้งเจ็ดคนกำลังกระซิบคุยกัน พวกเขาต่างตกตะลึงในพลังของหลิงฮัน
ใบหน้าของจ้าวหลัวเย็นยายิ่งขึ้น ถึงแม้หลิงฮันจะบาดเจ็บแต่เขาก็ยังไม่ตาย ยิ่งปล่อยให้เป็นแบบนี้นานเท่าใดเขาก็ยิ่งเสียหน้ามากขึ้น จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานขนาดนี้ในการสยบจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลาง ยิ่งกว่านั้นเขาก็ถึงเป็นอัจฉริยะสี่ดาวด้วย
“จ้าวหลุน เจ้าจะพอได้รึยัง?” เสียงที่ไพเราะและเย็นชาดังขึ้นพร้อมกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ที่ปรากฏตัว ใบหน้าอันงดงามของนางเต็มไปด้วยความโกรธ
ใบหน้าของจ้าวหลุนบิดเบี้ยวทันที แววตาของเขากลายเป็นเดือดดาลยิ่งขึ้น
ในหมู่สตรีของเมืองจักรพรรดิ สุ่ยเยี่ยนยวี่นั้นถูกเรียกว่าจักรพรรดินีน้อย ไม่ใช่เพราะว่านางแข็งแกร่ง มีพรสวรรค์สูงส่งหรือมีตระกูลที่ทรงอำนาจ แต่เพราะมีนิสัยที่เย็นชาและงดงามเหมือนกับจักรพรรดินี
ไม่มีใครสามารถครอบครององค์จักรพรรดินี ดังนั้นหากได้สุ่ยเยี่ยนยวี่มาครอบครองก็เหมือนกับได้ตัวแทนจักรพรรดินีมาครอง
จ้าวหลุนเป็นบุตรชายคนเดียวของนายพลจ้าว ตั้งแต่ที่เขาประกาศตนว่าเป็นเจ้าของสุ่ยเยี่ยนยวี่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่มย่ามกับนางอีก
“โอ้ ข้าแค่จะสังหารชายคนนี้ทิ้งเท่านั้น ทำไมเจ้าจะต้องโมโหด้วย?” เขากล่าวอย่างเรียบง่าย ตั้งแต่สุ่ยเยี่ยนยวี่ไปเป็นสตรีของหลิงฮัน เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องสังหารหลิงฮันให้ได้
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าสังหารคนที่ไม่เกี่ยวข้อง!” สุ่ยเยี่ยนยวี่ตะโกน
จ้าวหลุนแสยะยิ้มและกล่าว “แต่เจ้าหมอนี่ไม่ใช่คนที่ไม่เกี่ยวข้อง!”
“จ้าวหลุน ข้าต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมเลิกรา?” สุ่ยเยี่ยนยวี่กัดริมฝีปาก นางเคยคิดจะใช้หลิงฮันเพื่อหนีออกมาจากจ้าวหลุน แต่หลังจากเหตุการณ์ในเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์ ความคิดของนางก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
ตอนนี้นางไม่อยากเห็นหลิงฮันตาย
จ้าวหลุนชะงักและอดแสดงท่าทีโกรธเกรี้ยวออกมาไม่ได้
เขาเคยคิดมาตลอดว่าได้สุ่ยเยี่ยนยวี่มาอยู่ในมือแล้ว แต่ตอนนี้นางกลับแสดงท่าทีราวกับจะยอมทำทุกอย่างเพื่อหลิงฮัน
เรื่องนี้ทำให้เขาแทบจะบ้าคลั่ง
ไม่ว่าอย่างไรหลิงฮันก็ต้องตาย!
“ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะไม่สามารถสังหารมดปลวกระดับภูผาวารีขั้นกลางได้!” จ้าวหลัวยิ้มอย่างเย็นชา ฝ่ามือของเขาสองประกายไปด้วยอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่เคลื่อนที่ไปมาราวกับคลื่นน้ำ
‘ตูม!’
เขาใช้เพียงหนึ่งมือโจมตี บริเวณที่หลิงฮันถูกโจมตีมีหลุมโลหิตปรากฏ ที่หลุมนั้นสามารถมองเห็นเนื้อและกระดูกของเขา
ที่น่ากลัวก็คือแม้หลิงฮันจะโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์แต่การฟื้นฟูก็ยังเป็นไปอย่างเชื่องช้า
“ฮ่าๆๆๆ!” จ้าวหลุนระเบิดเสียงหัวเราะ เขาทำให้หลิงเกิดบาดแผลได้แล้ว เขารู้แล้วว่าจะสังหารศัตรูตรงหน้านี้อย่างไร
“ระดับภูผาวารีขั้นกลางก็ยังคงเป็นภูผาวารีขั้นกลางอยู่วันยังค่ำ!”
หลิงฮันไม่ลนลานและกล่าวอย่างเยือกเย็น “เจ้าเพียงแค่มีพลังบ่มเพาะสูงกว่าข้าสองขั้น ถ้าเป็นการต่อสู้ในขั้นพลังเดียวกัน ข้าสามารถสังหารได้ราวกับลูกไก่!”
“น่าเสียดายที่เจ้าคงไม่มีโอกาสทำเช่นนั้น วันนั้นเจ้ามีโชคชะตาที่ต้องตกตาย!” จ้าวหลุนกล่าว
“ใครบอกว่าไม่มี!”
เสียงที่เกรี้ยวกราดดังขึ้นจากระยะไกล
“ทำความเคารพราชินีที่เก้า!”
ภายในพริบตาผู้ชมโดยรอบก็นั่งลงอย่างไม่มีข้อยกเว้น ต่อให้เป็นผู้อาวุโสซ้ายขวา เจ็ดนายพลที่เป็นจอมยุทธระดับดารา เมื่อพบเจอนางก็ต้องผสานหมัดทำความเคารพ
จ้าวหลุนไม่ใช่นายพลเจ้า เขารีบหยุดโจมตีและนั่งย่อเข่าลงทันที
หูเฟยหยินเดินออกมาจากฝูงชน เมื่อเห็นบาดแผลสาหัสที่ซี่โครงซ้ายของหลิงฮันนางก็อุทานออกมา “หลิงฮัน เจ้าเจ็บหรือไม่!”
การที่นางอุทานเช่นนี้ได้สร้างความหวาดกลัวต่อทุกคน!
ราชินีที่เก้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิงฮัน?
ราชินีที่เก้า ด้วยสถานะของนางต่อให้เป็นผู้อาวุโสซ้ายขวาหรือเจ็ดนายพลก็ต้องเชื่อฟังนาง หนึ่งในเก้าราชินีที่อยู่ภายใต้การปกป้องขององค์จักรพรรดินีตกหลุมรักหลิงฮันงั้นรึ?
ในตอนนี้เองทุกคนได้แสดงสีหน้าอิจฉาออกมา ถ้าหลิงฮันได้ครอบครองราชินีที่เก้าจริงๆ เขาก็จะก้าวกระโดดจากจอมยุทธจากโลกใบเล็กไปยังประตูมังกร แม้แต่สถานะของผู้อาวุโสซ้ายขวาก็เทียบเขาไม่ได้
“ข้าไม่เป็นอะไร” หลิงฮันพยักหน้า
ร่างของจ้าวหลุนสั่นสะท้านเล็กน้อย เขาคิดไม่ออกเลยว่าหลิงฮันสามารถครองหัวใจของราชินีที่เก้าได้อย่างไรในขณะที่สถานะของเขากับสุ่ยเยี่ยนยวี่ยังคลุมเครือ นี่มันไม่มีเหตุผลสิ้นดี!
หูเฟยหยินโล่งอกและกล่าว “จ้าวหลุน เจ้ามันคนอันธพาล! เจ้าถูกเรียกว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองจักรพรรดิสินะ งั้นวันนี้ข้าขอดูความสามารถของเจ้าหน่อย!”
“อี่หมู่ ผนึกพลังบ่มเพาะของเขาและให้เขาสู้กับหลิงฮัน” นางกล่าวกับองครักษ์สตรีด้านหลัง
“เจ้าค่ะ!” องครักษ์สาวไม่ลังเลและพุ่งไปจับร่างของจ้าวหลุนเอาไว้