เมื่อถามว่าราชินีที่เก้าเป็นหญิงสาวที่กล้าหาญไหม คงต้องบอกว่าแค่หนูตัวเดียวก็ทำให้นางหวาดกลัวได้
ในความคิดของหลิงฮันนางเป็นเพียงหญิงสาวที่ขี้เหงาเท่านั้น
หากไม่มองสถานะราชินีที่เก้าของนาง นางก็เป็นเพียงสตรีที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว
นางโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก ตัวนางนั้นไม่มีเพื่อนเล่นในวัยเดียวกัน ราชินีที่เหลืออีกแปดคนก็เก็บตัวบ่มเพาะพลังอยู่ตลอดจนไม่มีเวลามาเล่นกับนาง ส่วนองครักษ์แต่ละคนก็อุทิศตนให้กับนางด้วยความรพ ไม่มีใครเลยที่สามารถเป็นเพื่อนเล่นกับนางได้
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงได้สนิทกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ได้อย่างรวดเร็ว พวกนางเป็นสตรีที่อยู่ในวัยเดียวกัน
ราชินีที่เก้าพาหลิงฮันเที่ยวชมพระราชวังจนพระอาทิตย์ตกดินถึงจะยอมปล่อยให้เขากลับไป
หลิงฮันกลับไปยังสำนัก หลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อมาหาเข้า พวกนางปิดความตื่นเต้นบนใบหน้าไม่มิด
“ดูจากรอยยิ้มที่ฉีกไปถึงใบหูของพวกเจ้า ดูท่าการเดิมพันคงจะเป็นไปอย่างราบรื่น” หลิงฮันยิ้ม
“ฮึ คุณหนูคนนี้เป็นคนตามเก็บเงินเดิมพันด้วยตัวเอง ใครกันจะกล้าเบี้ยว?” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าวอย่างภาคภูมิใจ นางนำแผ่นสีดำออกมาและโยนให้หลิงฮัน “นี่คือบัตรผลึกก่อเกิดที่สร้างขึ้นโดยจักรวรรดิ เจ้าสามารถใช้มันถอนผลึกก่อเกิดจากคลังของจักรวรรดิได้ มันเป็นสิ่งสะดวกสบายมาก”
หลิงฮันพยักหน้า แม้สี่ล้านผลึกก่อเกิดจะไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ แต่ดูท่าแล้วสำหรับคลังของจักรวรรดิมันไม่ใช่สิ่งที่มากมายเท่าใด
หลิงฮันเองตื่นเต้นไม่แพ้กัน การเดิมพันเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อได้รู้แล้วว่าตัวเขามีศักยะภาพที่แข็งแกร่งเพียงใด ใครกันจะกล้าเดิมพันด้วยจำนวนเงินมหาศาลอีกในอนาคต?
เขาพยักหน้า หลังจากนี้หากจะหาเงินเขาคงต้องกลับไปใช้วิธีการปรุงยา
“จริงสิ ดูเหมือนว่าจะมีอีกคนนึงที่เดิมพันว่าเจ้าจะชนะด้วย ทั้งๆคนอื่นๆลงพนันทุ่มสุดตัวว่าเจ้าจะแพ้แท้ๆ ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้เงินกลับไปแม้แต่นิดเดียว” หลี่เหว่ยเหว่ยหัวเราะ
หลิงฮันประหลาดใจ นี่ยังมีคนคาดหวังว่าเขาจะชนะอยู่ด้วยงั้นรึ? ใครกัน?
ในใจของเขามีใบหน้าที่งดงามของสตรีผู้หนึ่งปรากฏขึ้นมา มีเพียงสุ่ยเยี่ยนยวี่คนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเขามีพลังที่แข็งแกร่ง มีเพียงนางเท่านั้นที่จะเดิมพันข้างเขา
“ข้าจะมอบบัตรเชิญเข้าร่วมงานประมูลให้เจ้า งานประมูลครั้งนี้เป็นงานประมูลครั้งใหญ่ที่จะจัดในคืนพรุ่งนี้ เจ้าห้ามพลาดเด็ดขา” หลี่เหว่ยเหว่ยยื่นบัตรเชิญให้หลิงฮัน
หลิงฮันรับไว้และพยักหน้า “ข้าจะไปแน่นอน”
หลี่เหว่ยเหว่ยยิ้มด้วยความพึงพอใจและเดินจากไปพร้อมกับจื่อหยุนเอ๋อ
เนื่องจากพวกนางได้รับเงินก้อนโตมาแล้วพวกนางจึงไม่สนใจเรื่องขายวัตถุดิบจากหอคอยทมิฬอีกต่อไป พวกนางขอให้วัตถุดิบเหล่านั้นจากเขาไปใช้เอง หลังจากได้ลิ้มลองวัตถุดิบเหล่านี้ไปครั้งนึงแล้วพวกนางก็ติดใจราวกับว่าพวกมันเป็นเนื้อพลังปราณ
หลังจากพวกนางจากไปไม่นาน สุ่ยเยี่ยนยวี่ก็มา
“ภรรยาข้า ในที่สุดเจ้าก็รู้ตัวแล้วว่าต้องมาหาสามีของเจ้า?” หลิงฮันยิ้ม
“ใครเป็นภรรยาของเจ้ากัน?” สุ่ยเยี่ยนยวี่หน้าแดงและขึงตาใส่หลิงฮัน
“โอ้ ช่างขี้อายนัก แต่ข้าก็ชอบนะแบบนี้!” หลิงฮันเดินเข้าไปจนตัวแทบจะติดกับสุ่ยเยี่ยนยวี่
สุ่ยเยี่ยนยวี่เขยิบถอยหลัง แต่หลิงฮันก็ยังเขยิบตามจนสุดท้ายก็ตัวติดกัน ใบหน้าอันงดงามของนางกลายเป็นสีแดงและกล่าว “เจ้าต้องการอะไร!”
“ก็แค่คิดถึงเจ้า!” หลิงฮันพยักหน้า
สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่เข้าใจว่าที่หลิงฮันต้องการอะไรกันแน่ นางทำเพียงถลึงตาใส่เขา
“ข้ามีเรื่องสำคัญถึงได้มาหาเจ้า!” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าว
“ที่ข้ากำลังทำอยู่ก็สำคัญเหมือนกัน”
“เจ้าอันธพาล!” สุ่ยเยี่ยนยวี่ขวยเขิน
หลิงฮันหัวเราะก่อนจะกล่าว “เจ้ามีอะไรถึงได้ตามหาข้า?”
“เขยิบออกไปจากตัวข้าก่อนแล้วค่อยคุยกัน!”
“เจ้ากล่าวมาเถอะ ที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับข้า เจ้าเองก็แค่กล่าวเรื่องคำคัญของเจ้าออกมา”
“ข้ารับภารกิจมา มันเป็นภาจกิจที่ใช้คนเพียงแค่สองคน” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าว
หลิงฮันอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “นั่นเป็นเพราะเจ้าคิดถึงข้าสินะ? ถึงได้หาเหตุผลที่จะอยู่ด้วยกันกับข้า?”
“ใครอยากอยู่กับอันธพาลอย่างเจ้า!” สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่ยอมรับ
“สาวน้อย ถ้าเจ้าไม่อยากอยู่กับข้า ทำไมเจ้าถึงมาหาข้าด้วยตัวเองเช่นนี้? เหอๆ เหยื่อมาถึงหน้าประตูแล้วถ้าข้าไม่งับไว้ข้าคงจะรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต!”
สุ่ยเยี่ยนยวี่หวาดกลัว นางเกรงว่าหลิงฮันจะจับนางกินจึงรีบดิ้นรนหนีห่าง
“ข้าไม่คิดจะกินเจ้าในตอนนี้ แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะเชื่อฟังข้าบ้างเล็กน้อย” หลิงฮันหัวเราะอย่างสะใจ
สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่ทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้ายอมรับด้วยใบหน้าแดงฉาน
“ตอนนี้เจ้าบอกข้าได้แล้วว่าเจ้ารับภารกิจอะไรมา?”
สุ่ยเยี่ยนยวี่ชำเลืองมองเขาและกล่าว “ภารกิจทำลายกลุ่มโจรสลัด” นางหยุดไปชั่วครู่และกล่าว “เจ้าช่วยเขยิบออกไปได้รึไม่?”
“ไม่!” หลิงฮันส่ายหัว “ลืมไปแล้วรึว่าจะยอมรับว่าจะเชื่อฟังข้า?”
เจ้าอันธพาล!
สุ่ยเยี่ยนยวี่คำรามในใจ แต่นางก็ต้องยอมรับว่านางไม่ได้รังเกียจอะไร
“ศิษย์ระดับทลายมิติไม่จำเป็นต้องทำภารกิจใดๆ แต่เมื่อทะลวงผ่านมายังระดับภูผาวารีขั้นต้นแล้วจำเป็นต้องทำภารกิจให้ครบตามจำนวน ไม่เช่นนั้นจะถูกไล่ออก” สุ่ยเยี่ยนยวี่พยายามทำตัวให้สงบนิ่ง