งานประมูลดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งของที่นำมาประมูลใดมีค่านั้น ทุกคนตระหนักดี ดังนั้นถึงแม้จะมีของหลายอย่างที่ถูกนำมาประมูล แต่ก็ไม่ได้มีการเสนอราคาที่สูงมากนัก
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ต่อสู้ราคาเพื่อของธรรมดา ในเมื่อพวกเขาสามารถซื้อของที่เหมือนกันได้จากข้างนอก แล้วทำไมต้องใช้เงินจำนวนมากที่นี่ด้วย?
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเจอของดีอย่างแท้จริง มันจะเป็นการต่อสู้ราคาอย่างรุนแรงทันที
เมื่อผลึกภูผาวารีก้อนแรกถูกออกนำมาประมูล ฝูงชนเริ่มตื่นตัวอย่างกะทันหัน
มันถูกซื้อไปด้วยราคาที่สูงมากด้วยผลึกก่อกำเนิดเจ็ดพันก้อน และคนที่ได้มันไปไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลี่เหว่ยเหว่ย ด้วยผลึกภูผาวารีที่ประมูลมาได้ มันจะทำให้นางประหยัดเวลาฝึกฝนได้อย่างมาก
ผลึกภูผาวารีก้อนที่สองและสามถูกนำออกมาประมูลอย่างต่อเนื่อง คนที่ได้มันไปคือหลี่เหว่ยเหว่ยและสุ่ยเยี่ยนยวี่ ตอนนี้พวกนางทั้งสองคนมั่งคั่งเป็นอย่างมาก
ส่วนหลิงฮันกำลังรอให้ของที่เขาอยากได้ถูกนำออกมาประมูล และในที่สุดอุปกรณ์บินแหวกเมฆาก็ถูกนำออกมาประมูล
หลังจากที่พูดอธิบายอย่างเรียบง่าย ชายชราผู้ประกาศก็ตั้งราคาเริ่มต้น “ราคาประมูลเริ่มต้นคือหนึ่งแสนผลึกก่อเกิด”
มันน่าทึ่งมากแค่ราคาประมูลเริ่มต้นก็มากถึงหนึ่งแสนผลึกก่อเกิดแล้ว
“หนึ่งแสนหนึ่งหมื่น!”
“หนึ่งแสนสองหมื่น!”
เพราะอุปกรณ์บินนั้นเป็นอะไรที่หาได้ยากและมีประโยชน์มากมาย การประมูลสู้ราคากันเริ่มดุเดือดอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าราคาของมันก็แตะถึงห้าแสนผลึกก่อเกิด อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงครึ่งล้านเหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังสู้ราคากันต่อ นั่นเป็นเพราะมันเป็นราคาที่สูงมากและหลายคนเริ่มขมวดคิ้วด้วยความตึงเครียด
หลังจากที่ราคาของมันแตะถึงเจ็ดแสนผลึกก่อเกิด มีเพียงแค่สามคนเท่านั้นที่ยังประมูลแข่งกันต่อ
“เจ็ดแสนสามหมื่นสามร้อย นับหนึ่ง!”
“เจ็ดแสนสามหมื่นสามร้อย นับสอง!”
ชายชราเริ่มนับถอยหลัง
“แปดแสน!” หลิงฮันพูดเสนอราคา
“แปดแสน มีคนเสนอราคาแปดแสน!” ชายชรารู้สึกมีความสุข ยิ่งราคาของมันสูงเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งได้รับส่วนแบ่งมากขึ้นเท่านั้น
“แปดแสนหนึ่งหมื่น!” ภายในห้องส่วนตัวชั้นสาม มีใครบางคนเสนอราคาเพิ่ม
“เก้าแสน!” หลิงฮันเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย งานประมูครั้งนี้เขาสนใจแค่อุปกรณ์บินแหวกเมฆาเท่านั้น ซึ่งเขาจะต้องประมูลมันมาให้ได้ และไม่ลังเลที่จะใช้ผลึกก่อเกิดทั้งหมดเพื่อให้ได้มันมา
คู่แข่งของเขาดูลังเลอยู่ชั่วขณะ ในไม่ช้าเขาก็เสนอราคาต่อ “เก้าแสนหนึ่งหมื่น!”
“หนึ่งล้าน!” หลิงฮันตะโกน
จำนวนดังกล่าวไม่มีใครแข่งเสนอราคากับเขาอีกต่อไป
นั่นเป็นเพราะขุมพลังใหญ่หลายแห่งมีอุปกรณ์บินอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่อุปการณ์บินแหวกเมฆาก็ตาม แต่ผลึกก่อเกิดหนึ่งล้านก้อนมันก็มากไปอยู่ดี นั่นเป็นเพราะอุปกรณ์บินจะถูกนำมาประมูลแทบทุกปี แล้วทำไมพวกเขาจะต้องรีบร้อนด้วย?
“เอาล่ะ ต่อไปจะเป็นการประมูลสมบัติลึกลับ” ชายชราส่งสัญญาณและมีสาวใช้หน้าตางดงามเดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับถาดรองที่มีถุงใบเล็กอยู่ด้านบน
ถึงแม้สาวใช้จะมีหน้าตางดงามและสวมกระโปรงสั้นเผยให้เห็นต้นขาที่ขาวราวกับหิมะ และเนินเขาหิมะสองลูกที่น่าดึงดูดก็ตาม แต่ในตอนนี้กลับไม่มีใครจ้องมองไปที่นางเลย สายตาของพวกเขาเอาแต่จับจ้องไปที่ถุงใบเล็กเท่านั้น
นี่คือสมบัติลึกลับ มันมีอะไรอยู่ข้างในกันแน่?
“ข้าไม่ทราบว่าพวกท่านเคยได้ยินต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่าต้นสังสารวัฎหรือไม่?” ชายชรากวาดสายตามอง
“ข้าไม่เคยได้ยินต้นสังสารวัฎมาก่อน”
“ข้าเองก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน มันคืออะไรอย่างนั้นรึ?”
ผู้คนส่วนใหญ่ส่ายหน้า แม้แต่ชื่อของมันยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
“อย่าบอกนะว่าเป็น…ต้นสังสารวัฎ!” ใครบางคนอุทานออกมาอย่างกะทันหัน เขาคือชายชราที่มีผมและเคราขาวที่นั่งอยู่ด้านล่างสุดของที่นั่งธรรมดา
“เฒ่าฉัง เจ้ารู้จักมันอย่างนั้นรึ?” คนที่นั่งอยู่ด้านข้างถามเขาทันที
ชายชราแซ่ฉังนั้นมีชีวิตอยู่มานานหลายแสนปี แต่ตอนนี้เขายังเป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดเท่านั้น และโอกาสที่เขาจะทะลวงผ่านระดับสุริยันได้นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามเพราะเขามีชีวิตอยู่มานานและชอบศึกษาตำราโบราณมานับไม่ถ้วน เขาจึงมีความรู้ติดตัวมากมาย
“ต้นสังสารวัฏเป็นดั่งตำนานที่ไม่มีอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี่ และมันสามารถทำให้ดวงวิญญาณเวียนว่ายตายเกิดได้ แล้วเจ้าจะได้สัมผัสประสบการณ์จากทั้งสามภพสามชาติ ด้วยอายุขัยที่ยาวนานอย่างน่าอัศจรรย์”
“โอ้ว หากมีชีวิตอยู่ขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหรอกรึ?” หลายคนอุทาน
นี่มันน่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว สมบัติดังกล่าวสามารถทำให้ทุกขุมพลังบ้าคลั่งเพื่อแย่งชิงมันมาได้
สมบัติดังกล่าวใครจะปล่อยให้หลุดมือกัน?
หลิงฮันก็รู้สนใจเป็นอย่างมาก เขาเคยดื่มชากำเนิดใหม่มาแล้ว เพียงแค่จิบเดียวก็ทำให้เขาเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมาย และยังทำให้เขามีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าจอมยุทธที่อยู่ในระดับเดียวกันมาก
ถ้านำใบของต้นสังสารวัฎมาทำชา มันจะกลายเป็นชาเกิดใหม่หรือไม่?
“จริงสิ ข้าลืมบอกไป ภายในถุงนี่คือเม็ดของต้นสังสารวัฎ” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลายคนรีบลุกขึ้นยืนทันทีและแสดงความตื่นเต้น
การฝึกฝนบ่มเพาะพลังนั้นส่วนที่ยากที่สุดไม่ใช่การทำความเข้าใจระดับพลังของตน แต่เป็นการสร้างความก้าวหน้าให้กับพลังวิญญาณ
แต่ถ้าฝึกฝนบ่มเพาะพลังควบคู่กับต้นสังสารวัฎ มันจะทำให้พลังวิญญาณของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหน?
มันต้องเป็นของข้า! มันต้องเป็นของข้า! มันต้องเป็นของข้า!
ในตอนนี้ทุกคนต่างมีความคิดเช่นเดียวกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ชายชราหัวเราะและพูดว่า “แต่ข้าขออธิบายให้ทุกท่านได้ฟังก่อน แม้ว่ามันจะเป็นต้นสังสารวัฎก็จริง แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ควรมีในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และไม่มีใครรู้วิธีปลูกมันหรือทำให้มันเติบโตแม้แต่คนเดียว.
“และในตำราโบราณได้ระบุไว้ว่า ต้นสังสารวัฎต้องใช้เวลาสิบสองล้านล้านปีในการเติบโต”
อึก!
ทุกคนแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือด พวกเขาจะปลูกมันได้หรือไม่นั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือมันต้องใช้เวลานานถึงสิบสองล้านล้านปี แล้วใครจะอยู่ถึง?
ต้องทราบก่อนว่า แม้แต่จอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุดยังมีอายุขัยแค่สี่สิบล้านปีเท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากร้อยล้านปีมาก อายุขัยสิบสองล้านล้านปีไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลย
ถึงแม้พวกเขาจะปลูกมันให้ลูกให้หลาน แต่เวลาดังกล่าวบางทีตระกูลของพวกเขาอาจไม่อยู่แล้วก็ได้
สิบสองล้านล้านปี ไม่ใช่หนึ่งจุดสองล้านปี ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าตระกูลของพวกเขาจะอยู่ถึงตอนนั้น?
ข้อเท็จจริงดังกล่าว ทำให้คนส่วนใหญ่หมดความสนใจ
“ราคาประมูลเริ่มต้นของมันคือ หนึ่งล้านผลึกก่อเกิด” ชายชราพูดต่อพรางถอนหายใจเล็กน้อย ถึงแม้ที่เขาพูดจะทำให้มูลค่าของต้นสังสารวัฏลดลง แต่หอประมูลนั้นก็มีกฎของหอประมูล หากสูญเสียเครดิตการทำธุรกิจไป จะสามารถทำธุรกิจต่อไปได้หรือไม่?
“หนึ่งล้านหนึ่งแสน”
“หนึ่งล้านสองแสน”
ถึงกระนั้นก็ยังมีคนประมูลราคาสู้กัน นั่นเป็นเพราะนี่คือต้นสังสารวัฎ ถ้าประมูลมันมาได้และนำไปขายต่อ บางทีอาจได้กำไรมหาศาล
“เอามันมา!” หอคอยน้อยพูดอย่างกะทันหัน
หลิงฮันถามหอคอยน้อยในใจ “มันต้องใช้เวลาปลูกถึงสิบสองล้านล้านปี เจ้าคิดว่าข้าจะรอให้ถึงวันนั้นอย่างงั้นรึ?”